facebook  youtube  line

10 เรื่องที่พ่อแม่ทำร้ายและทำลายลูก ด้วยการสอบเข้า ป.1


2066

10 เรื่องที่พ่อแม่ทำร้ายและทำลายลูก ด้วยการสอบเข้า ป.1

การสอบเข้าป. 1 ของเด็กอนุบาลกำลังดุเดือดขึ้นทุกทีค่ะ เพราะโรงเรียนดี โรงเรียนดังรับเด็กจำนวนจำกัด พ่อแม่เลยสู้ตายเพื่อให้ลูกเข้าเรียนให้ได้ เราจึงเห็นภาพเด็กอนุบาลเรียนพิเศษ ติวเข้มข้อสอบเข้าป.1 พ่อแม่ถามหาตัวอย่างข้อสอบของโรงเรียนต่างๆ มาให้ลูกได้ลองทำ หรือแม้แต่เห็นภาพเด็กๆ รวมตัวกันในวันสอบ

อนาคตของลูกเป็นเรื่องสำคัญและพ่อแม่อยากให้ลูกมีอนาคตที่ดีเช่นกัน แต่รู้ไหมคะว่าการเร่งเรียน เรียนพิเศษ ติวเข้มให้ลูกวัยอนุบาลเพื่อสอบเข้าป.1 กลายเป็นการทำลายชีวิตลูกที่พ่อแม่ไม่รู้ตัวเลย ลองตั้งสติแล้วมาดูกันสักนิดว่า หากเราผลักดันลูกอนุบาลลงสนามสอบแข่งขันเข้าป.1 เราทำร้ายและทำลายลูกอย่างไรบ้าง
 

  1. เวลาเล่นหนูหายไป - เด็กอนุบาลยังเป็นวัยเล่นและเรียนรู้ได้มากผ่านการเล่น ถ้าพ่อแม่จับลูกมานั่งอ่านหนังสือ เรียนพิเศษ เขาจะพลาดช่วงเวลาสำคัญนี้ไป
     
  2. เพื่อนหนูหายไป - เพราะการเล่นทำให้ลูกมีเพื่อน ถึงการไปเรียนพิเศษจะได้เจอเพื่อน แต่ก็เป็นเพื่อนที่มาเรียนพิเศษ ต่างคนต่างทำแบบฝึกหัดแต่ไม่ใช่เพื่อนที่จะได้เล่นสนุก และพัฒนาความสัมพันธ์ไปด้วยกัน
     
  3. บางทักษะหนูยังไม่พร้อม - ไม่ใช่เด็กอนุบาลทุกคนที่จะจับดินสอ เขียนหนังสือ หรืออ่านหนังสือได้ค่ะ เพราะเด็กแต่ละคนมีวิธีเรียนรู้และความพร้อมที่ต่างกัน หากลูกเรายังไม่พร้อมแต่จำเป็นต้องทำ ลูกจะขาดการฝึกฝนตามระยะเวลาที่เหมาะสม กดดัน รู้สึกเครียด
     
  4. หนูยังคิดไม่ทัน - ถ้าใครได้เคยเห็นข้อสอบเข้าป.1 จะทราบว่าหลายข้อก็ยากมาก เช่น การบวกเลข ศัพท์ภาษาอังกฤษยากๆ หากพ่อแม่เร่งให้ลูกจำ เขาจะได้แค่จำแต่ไม่ใช่เรียนรู้ เผลอๆ พอถึงห้องสอบลูกจะลืมที่จำมา ทำข้อสอบไม่ได้
     
  5. แม่กำลังใช้คำพูดทำร้ายหนู - ทำไมแค่นี้ทำไม่ได้ ถ้าทำไม่เสร็จจะไม่ให้ไปเล่น รีบๆ ทำให้เสร็จอย่ามัวแต่เล่นคำพูดแบบนี้สำหรับผู้ใหญ่อาจไม่ร้ายแรง แต่สำหรับลูกที่ยังไม่พร้อมเรียนรู้เรื่องยากๆ นี่คือการใช้คำพูดทำร้ายและบั่นทอนใจลูกค่ะ
     
  6. แม่กำลังรักหนูน้อยกว่าลูกข้างบ้าน - สอบได้จะได้เรียนโรงเรียนดีๆ เหมือนพี่ข้างบ้าน เพื่อนหนูยังทำได้เลยทำไมหนูทำไม่ได้การยกลูกคนอื่นมาเปรียบเทียบกับลูกเรา ไม่ใช่วิธีให้กำลังใจลูกนะคะ แต่นั่นยิ่งทำให้ลูกน้อยใจ กดดัน และขาดพลังใจ
     
  7. หนูต้องกิน นอน และโตในรถใช่ไหมแม่ - การเร่งเรียน เรียนพิเศษ ติวเข้มสอบเข้าป.1 ทำให้พ่อแม่ต้องพาลูกไปเรียนตามสถาบันที่ว่ากันว่าดี ลูกอยู่ในรถตลอดเวลาจนเขาขาดพื้นที่ เหนื่อยล้า ง่วงซึม เพราะไม่มีช่วงที่จะได้ออกมาวิ่งเล่นได้เหมือนเด็กปกติ
     
  8. พ่อแม่กำลังทำให้หนูเครียด - เรียนพิเศษทุกวัน ต้องจำเรื่องที่ยากเกินวัย ต้องฝึกทุกทักษะที่ยังไม่พร้อม ลูกจะเกิดความเครียดเพราะความคาดหวังจากพ่อแม่ ส่งผลให้ซึมเศร้า ไม่ร่าเริง หรือเด็กบางคนอาจรุนแรงถึงขั้นไม่กินข้าว ปวดหัว อาเจียนส่งผลต่อสุขภาพในอนาคตแน่นอน
     
  9. พ่อแม่กำลังทำให้หนูรับความผิดหวังครั้งใหญ่ในเวลาที่หนูไม่พร้อม - หากลูกสอบไม่ได้แล้วต้องได้ยินว่าเพื่อนคนอื่นได้ ได้ยินแม่ของเพื่อนถามว่าทำไมหนูทำไม่ได้ นั่นคือการทำให้ลูกรู้สึกผิดหวังกับเรื่องใหญ่ที่ทุกคนมองว่าสำคัญ ทั้งที่ช่วงวัยนี้ลูกควรเรียนรู้ความผิดหวังจากเรื่องเล็กๆ ก่อน เช่น อยากไปสวนสนุกแต่สวนสนุกปิด ระบายสีส่งคุณครูแต่ได้ดาวน้อยกว่าเพื่อนเพราะระบายสีนอกกรอบเยอะไป การให้ลูกผิดหวัง ยอมระบ และแก้ไขจากเรื่องเล็กๆ ตามวัยที่เขาควรจะได้เจอคือการฝึกความเข้มแข็งของจิตใจ ไปพร้อมๆ กับการเรียนรู้ที่จะพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นกับเรื่องที่ตัวเองสามารถทำได้ แต่การผิดหวังจากการสอบเข้าป.1 ไม่ได้ เป็นความผิดหวังที่เกิดจากพ่อแม่และคนรอบข้างที่ทำลายจิตใจลูกได้มากเลยทีเดียว
     
  10. พ่อแม่กำลังทำลายและมองข้ามความสามารถอื่นของหนู - สำหรับเด็กอนุบาล สิ่งที่พ่อแม่ต้องผลักดันคือการเปิดโอกาสให้ลูกได้ลองและรู้ในทุกๆ เรื่องที่เขาสนใจ เพื่อมองหาทักษะ ความถนัด และความชอบในการส่งเสริมเขาให้เต็มที่ แต่การเร่งเรียนเพื่อให้สอบเข้าป.1 ทำให้พ่อแม่มองข้ามทักษะและความสามารถอื่นของลูกไปโดยสิ้นเชิง


ลูกเราไม่ใช่ตุ๊กตาที่จับวางตั้งหรือบิดรูปร่างได้ตามความชอบของพ่อแม่นะคะ เขาคือคนคนหนึ่งที่มีความชอบ ความถนัด ความสามารถ และจิตใจที่มีลักษณะเฉพาะในแบบของเขาเอง ในฐานะพ่อแม่ การดูแลให้เติบโตอย่างแข็งแรงและปลอดภัยคือสิ่งสำคัญ และพ่อแม่อีกเช่นกันที่เป็นผู้เปิดโอกาสให้ลูกได้พัฒนาทักษะรอบด้านอย่างเต็มที่ เพื่อที่เราจะได้ส่งเสริมเขาไปให้ถูกทางอย่างถูกต้อง

ความสุขของลูกสำคัญกว่าการสอบนะคะ

 

100 กิจกรรมที่ควรทำกับลูกทารก

100 กิจกรรมที่ควรทำกับลูกทารก, กิจกรรมสำหรับเด็กทารก, เด็กทารกเล่นอะไร, เล่นอะไรกับลูกดี, เล่นหัน ลูก ทารก, ทารก เล่นอะไร, ทารก เล่นได้ไหม, ทำไม ต้องเล่นกับทารก, วิธีเล่นกับทารก, พ่อแม่เล่นกับทารก, ทารก เล่นเป็นไหม, กิจกรรมทารก, ของเล่นเสริมพัฒนาการ, ของเล่นเด็ก, ของเล่น ทารก, พัฒนาการเด็ก 1 ขวบ, พัฒนาการเด็ก 1 เดือน, พัฒนาการเด็ก 2 เดือน, พัฒนาการเด็ก 3 เดือน, พัฒนาการเด็ก 4 เดือน, พัฒนาการเด็ก 5 เดือน, พัฒนาการเด็ก 6 เดือน, พัฒนาการเด็ก 7 เดือน, พัฒนาการเด็ก 8 เดือน, พัฒนาการเด็ก 9 เดือน, พัฒนาการเด็ก 10 เดือน, พัฒนาการเด็ก 11 เดือน, พัฒนาการเด็ก 12 เดือน, พัฒนาการเด็กทารก, พ่อแม่เล่นกับลูกทารก, ของเล่นเด็กทารก, ของเล่นตามวัย

100 กิจกรรมง่าย ๆ สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่จะใช้เล่นกับลูกวัยทารก และส่งเสริมให้เขามีพัฒนาการทางสมองที่ดีมาฝากค่ะ

100 กิจกรรมที่ควรทำกับลูกทารก

ลูกวัย 1 ปีแรกอาจจะยังพูดไม่ได้ ตอบโต้ไม่เป็น แต่ก็ต้องการการดูแลเอาใจใส่จากพ่อแม่ ซึ่ง 100 กิจกรรมต่อไปนี้เป็นเพียงตัวอย่างที่รักลูกอยากแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ทำกับลูก เพื่อส่งเสริมพัฒนาการตามวัยของเขาค่ะ 

กิจกรรมสำหรับวัยแรกเกิด-3เดือน

  1. ให้ลูกกินนมแม่
  2. คุยกับลูก สลับเสียง 1 2 3 กับลูก

  3. ยิ้มให้ลูก

  4. เล่นเดาะลิ้น เป่าปากให้ลูกดู

  5. เล่นจ๊ะเอ๋กับลูก

  6. เอานิ้วจิ้มตามตัวลูก เพื่อ

  7. ให้ลูกกำนิ้วมือพ่อแม่

  8. เปลี่ยนสีหน้าและเสียงที่พูดคุยกับลูก

  9. เล่นกำและแบ

  10. ร้องเพลงให้ลูกฟัง

  11. เล่นขยับนิ้วมือนิ้วเท้าลูก

  12. จับขาจับแขนลูกขยับไปมา

  13. จับขาลูกปั่นจักรยานอวกาศ

  14. เขย่าของเล่นกรุ๊งกริ๊งให้ลูกฟัง

  15. กอดลูก

  16. อุ้มลูกแนบอก

  17. อุ้มลูกเดินชมนกชมไม้

  18. จับมือลูกตบมือ

  19. กางแขนลูกขึ้นลง

  20. เล่นปูไต่

  21. เล่นขยำพุง

  22. จับลูกนอนคว่ำช่วงสั้นๆ เพื่อให้กล้ามเนื้อคอแข็งแรง

  23. เล่นของเล่นที่ขยับเคลื่อนที่ได้ให้ลูกมองตาม

 

กิจกรรมสำหรับวัย 3-6 เดือน

  1. เล่านิทานให้ลูกฟัง
  2. นวดตัวลูกเบาๆ ตั้งแต่ศีรษะจดปลายเท้า
  3. กับลูกบ่อยๆ มองหน้า สบตาขณะพูดกับลูก
  4. เลียนเสียงต่างๆ
  5. เล่นจ๊ะเอ๋กับลูก
  6. พูดคุยถามตอบ
  7. อ่านหนังสือให้ลูกฟัง
  8. นับเลข 1-10 ให้ลูกฟัง
  9. เล่นเปิดผ้าหาของ
  10. เล่นซ่อนแอบกับลูก
  11. เล่นของเล่นมีเสียงให้ลูกคว้าจับ
  12. ชวนลูกเล่นกับกระจก
  13. จับลูกนอนคว่ำช่วงสั้นๆ เพื่อพัฒนากล้ามเนื้อคอ
  14. อุ้มลูกนั่งบนตัก
  15. ร้องเพลงให้ลูกฟัง
  16. เปิดหนังสือภาพให้ลูกดู
  17. ขยับแขนขา ชวนลูกออกกำลังกาย
  18. เป่าฟองสบู่ให้ลูกเล่น
  19. เล่นกลิ่งลูกบอลกับลูก
  20. เล่นของเล่นมีเสียงให้ลูกมองหาหรือคว้าจับ
  21. พาลูกออกไปเล่นนอกบ้านพบปะผู้คน
  22. เล่นตบน้ำแปะๆ ตอนอาบน้ำให้ลูก
  23. เล่นหุ่นมือกับลูก
  24. อุ้มลูกเต้นรำ
  25. จับตัวลูกยืน เพื่อออกกำลังขา
  26. พาลูกไปว่ายน้ำ
  27. อุ้มลูกนั่งบนตักแล้วโยกตัวเบาๆ
  28. เล่นไกวชิงช้ากับลูก
 

กิจกรรมสำหรับวัย 6-9 เดือน

  1. เล่นต่อบล็อกกับลูก
  2. เล่นต่อจิ๊กซอว์
  3. เล่นแฟลชการ์ด
  4. เล่นจั๊กจี๋กับลูก
  5. เล่นเกมซ่อนแอบ
  6. เล่นทายสิใครเอ่ย
  7. เล่านิทานให้ลูกฟัง
  8. อ่านหนังสือภาพกับลูก
  9. พูดคำศัพท์ง่ายๆ กับลูก
  10. เรียกชื่อลูกบ่อยๆ
  11. ตบมือเข้าจังหวะ
  12. ร้องเพลงให้ลูกฟัง
  13. เล่นกลิ้งลูกบอลกับลูก
  14. เล่นไกวชิง
  15. ชวนลูกละเลงสี
  16. อุ้มลูกเที่ยว
  17. เรียกชื่อคน สัตว์ สิ่งของ สี ต่างๆ รอบตัวให้ลูกฟัง
  18. เล่นหุ่นมือ หุ่นนิ้ว
  19. ป้อนข้าวลูก หรือดูลูกขณะกินข้าว หยิบจับอาหารเอง
  20. อยู่กับลูกขณะที่ปล่อยให้ลูกเล่นอิสระ
  21. เล่นเกมหาของ
  22. เล่นตีกลองหรือเคาะของเล่น
  23. จับลูกเกาะยืน ฝึกกล้ามเนื้อขา
  24. เล่นตักน้ำใส่กะละมัง
  25. เล่นตุ๊กตาไขลาน ให้ลูกคลานตาม
  26. ให้ลูกหัดใช้ช้อน ส้อม แก้วหัดดื่ม
 

กิจกรรมสำหรับวัย 9-12 เดือน

  1. เล่นแฟลชการ์ด
  2. ให้ลูกนั่งตักแล้วเล่านิทานภาพ พูดคำศัพท์ซ้ำๆ
  3. จับลูกขณะตั้งไข่
  4. ประคองลูกเดินบนพื้นต่างๆ
  5. พาลูกออกไปเล่นนอกบ้าน
  6. ให้ลูกหัดจับสีเทียน เล่นระบายสี
  7. เล่นนับเลขกับลูก
  8. เล่นต่อจิ๊กซอว์ภาพสัตว์
  9. ฝึกลูกให้แยกสีและรูปร่าง
  10. เปิดเพลงให้ลูกฟัง
  11. เต้นรำกับลูก
  12. เล่นเป่าฟองสบู่
  13. เล่นก่อกองทราย
  14. พาลูกออกไปเล่นกับเด็กวันยเดียวกันและต่างวัยเพื่อเรียนรู้การเข้าสังคม
  15. พาลูกออกไปเที่ยวนอกบ้าน ชี้ชวนลูกดูสิ่งต่างๆ รอบตัว แล้วเรียกชื่อให้ลูกฟัง
  16. สอนลูกพูดคำศัพท์ง่ายๆ เช่น หม่ำๆ พ่อ แม่ ปา มา จ้าๆ ธุจ้า
  17. พาลูกขึ้นลงบันไดโดยจับมือข้างใดข้างหนึ่งไว้
  18. เล่นหยิบของส่งของกับลูก
  19. เล่นโยนลูกบอล
  20. ชวนลูกเก็บของเล่นเมื่อเล่นเสร็จแล้ว
  21. เล่นปั้นแป้งกับลูก
  22. เล่นเลียนเสียงสัตว์กับลูก
  23. เล่นเลียนแบบท่าทางต่างๆ

บางครั้งกิจกรรมที่ทำกับลูกคุณพ่อคุณแม่ไม่จำเป็นต้องแบ่งแยกตามวัยก็ได้ เช่นการพูดคุย การเล่านิทาน การอ่านหนังสือ การร้องเพลงให้ลูกฟัง สามารถทำได้ตั้งแต่แรกเกิดจนลูกโต ไม่ต้องกังวลว่าลูกจะเบื่อเลย เพราะสิ่งที่สำคัญมากกว่าพ่อแม่ทำกิจกรรมอะไรกับลูกคือปฏิสัมพันธ์ของพ่อแม่ลูกมากว่าค่ะ 

3 เรื่องสำคัญที่ต้องดูแลลูกทารกแรกเกิดอายุ 1 เดือน

ทารกแรกเกิด 1 เดือน, พัฒนาการทารกแรกเกิด 1 เดือน, เด็กแรกเกิด 1 เดือน, พัฒนาการเด็ก 1 เดือน, ทารก 1 เดือน ต้องดูแลยังไง, สุขภาพ ทารก 1 เดือน, การดูแลทารก 1 เดือน, อาบน้ำเด็ก 1 เดือน, วิธีดูแลเด็ก 1 เดือน, วิธีอาบน้ำเด็ก 1 เดือน,

เมื่อลูกทารกอายุครบ 1 เดือนแล้ว มีเรื่องสำคัญที่พ่อแม่มือใหม่ต้องดูแลเป็นพิเศษเพิ่มขึ้นไปอีก เพื่อพัฒนาการทารกที่ดีค่ะ 

3 เรื่องสำคัญที่ต้องดูแลลูกทารกแรกเกิดอายุ 1 เดือน

1. ทารก 1 เดือนต้องดูแลความสะอาดให้มากที่สุด

โดยเฉพาะเรื่องอาหารการกิน สำหรับทารกอาหารที่ดีที่สุดคือนมแม่ ซึ่งเราต่างทราบกันดีอยู่แล้วว่าในนมแม่มีสารป้องกันภูมิแพ้ สารป้องกันไม่ให้ทารกท้องเสียหรือท้องผูก ซึ่งคุณแม่ที่กำลังให้นมลูกก็ควรเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสจัด เพราะฉะนั้นหากคุณแม่ไม่สบาย ก่อนสัมผัสตัวลูกควรล้างมือให้สะอาด และควรสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคด้วย

ไม่เฉพาะแต่คุณแม่ รวมถึงสมาชิกคนอื่นๆ ในครอบครัวหากมีใครที่กำลังไม่สบาย ก่อนสัมผัสเจ้าตัวเล็กควรล้างมือให้สะอาดและสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง

นอกจากนี้ ในเด็กทารกที่ต้องกินนมผสม ความสะอาดของขวดนมเป็นสิ่งสำคัญ ต้องต้มให้สะอาดทุกครั้ง โดยต้มจนเดือดอย่างน้อย 10 นาที หรืออาจจะใช้หม้อนึ่งก็แล้วแต่ความสะดวก

ขวดน้ำของลูกต้องเปลี่ยนทุกวัน อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง โดยขวดน้ำ จุกน้ำ และจุกนมต้องสะอาด รวมถึงที่ปั๊มนมต้องนึ่งเพื่อความสะอาดและสุขภาพอนามัยของลูก หากอุปกรณ์ไม่สะอาดลูกอาจท้องเสียหรือติดเชื้อโรคต่างๆ ได้

2. ทารก 1 เดือนอาบน้ำไม่ต้องบ่อย

ยิ่งอากาศเย็นๆ ในหน้าหนาว การอาบน้ำเช้า-เย็นไม่มีความจำเป็นสำหรับลูกเลย เจ้าตัวเล็กอยู่แต่ในบ้านไม่ได้สกปรกแต่อย่างใด เพราะฉะนั้นอาบน้ำให้ลูกเพียงวันละครั้ง ในช่วงเที่ยงหรือบ่ายก็เพียงพอ แต่ถ้าพื้นที่ไหนอากาศเย็นมากๆ 2-3 วันอาบครั้งก็ได้ หรือถ้าลูกเนื้อตัวเลอะเทอะอาจเพียงเช็ดตัวแล้วล้างก้นก็พอ

แต่ถ้าเป็นหน้าร้อน คุณพ่อคุณแม่สามารถอาบน้ำให้ลูกวันละ 3-4 ครั้ง แม้ว่าเขาจะเป็นเพียงเด็กอายุ 1 เดือนแรก เพราะการปล่อยให้ลูกตัวเปียกเฉอะแฉะทั้งวัน ลูกมีโอกาสไม่สบายมากกว่าตัวแห้ง ดังนั้นเมื่อลูกร้อน มีเหงื่อออกสามารถอาบน้ำให้ลูกได้เลย แต่ต้องไม่อาบแบบแช่ อาบเพียงแค่ให้ลูกรู้สึกสบายตัวอุณหภูมิของน้ำก็สำคัญ ในหน้าร้อนน้ำไม่ต้องอุ่นมาก แต่ถ้าเป็นหน้าหนาวอุณหภูมิของน้ำควรสูงขึ้นจากปกติเล็กน้อย โดยคุณพ่อคุณแม่ใช้หลังมือแตะดูว่าน้ำอุ่นพอดีไหม ส่วนการสระผมให้ลูกนั้น 3-4 วันสระครั้งก็ได้ ที่สำคัญต้องเช็ดตัวลูกให้แห้งหลังอาบน้ำทุกครั้ง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาผดผื่นตามมา

3. อุณหภูมิและอากาศรอบตัวลูก

เป็นเรื่องที่ละเลยไม่ได้ เพราะเจ้าตัวเล็กเพิ่งเกิด อุณหภูมิในร่างกายจึงต่ำกว่าผู้ใหญ่ ดังนั้นในช่วงแรกเกิดคุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องรักษาอุณหภูมิรอบๆ ตัวลูกให้คงที่ โดยเฉพาะเมื่อให้ลูกนอนในห้องแอร์

เพราะการปรับอุณหภูมิแบบปุบปับ หรือการปิดแอร์กะทันหันแล้วเปิดหน้าต่างเพื่อรับอากาศจากภายนอกในตอนเช้า จะทำให้ลูกปรับตัวไม่ทัน อีกทั้งยามเช้าอุณหภูมิภายนอกจะสูงกว่าภายในห้อง อาจทำให้ลูกหายใจไม่สะดวก

ดังนั้น หากกังวลว่าลูกจะร้อนหรือหนาวเกินไป ควรหมั่นสังเกตอาการของลูกอยู่เสมอ ถ้าลูกมีเหงื่อออก ตัวเปียก หัวเปียก ให้คลายผ้าออก หรือใส่เสื้อผ้าให้บางลง แต่ถ้าแขนขาลูกเย็น หมายความว่าอากาศเย็นเกินไป ลูกกำลังหนาวอยู่ ควรห่มผ้าให้ลูกเพิ่ม หรือใส่เสื้อผ้าให้หนาขึ้น

หากที่บ้านมีเครื่องกรองอากาศ สิ่งสำคัญคือต้องล้างเครื่องกรองอากาศบ่อยๆ โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็กเล็กควรล้างทุกอาทิตย์

5 นมกล่องเด็กมาแรง สำหรับเด็กวัยเรียนรู้ในยุค AI

5 นมกล่องเด็กมาแรง สำหรับเด็กวัยเรียนรู้ในยุค AI

5 นมกล่องเด็กมาแรง สำหรับเด็กวัยเรียนรู้ในยุค AI

แม่ ๆ หลายคนสงสัย ลูกครบ 1 ขวบแล้วจะให้เริ่มนมกล่อง UHT เลยได้มั้ย กังวลว่าลูกจะได้สารอาหารไม่ครบเหมือนกินนมแม่ โดยเฉพาะสารอาหารบำรุงสมอง ในนมกล่อง UHT จะเพียงพอต่อความต้องการของลูกรึเปล่า ใครอยากรู้คำตอบแม่แอดมินมาเจาะกล่องนมเช็กสารอาหารสมองในนมกล่อง UHT ให้แล้วค่ะ

ทำไมต้องเลือกนมกล่องให้เด็ก 1 ขวบ

นมกล่องแรกของลูกสำคัญที่สุด โดยเฉพาะเมื่ออายุครบ 1 ขวบแล้ว สามารถกินอาหารหลักครบ 3 มื้อได้ แต่อาจไม่เพียงพอกับความต้องการในแต่ละวัน การเสริมนมกล่อง UHT ให้ลูกจะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่หลากหลาย เหมาะสมและเพียงพอต่อความต้องการในแต่ละวัน

โดยเฉพาะสารอาหารสมอง คุณพ่อคุณแม่ต้องเสริมให้ลูกตั้งแต่เล็กเลยค่ะ เพื่อให้สมองของลูกทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ทำงานไว ช่วยให้เกิดการเรียนรู้และจดจำได้ดี เป็นการเตรียมพร้อมลูกสำหรับวัยก่อนเข้าเรียนค่ะ

ซึ่งนมกล่องเด็ก UHT สำหรับเด็ก 1 ขวบขึ้นไป ที่มีสารอาหารสมองสูงในบ้านเรามีหลายแบรนด์มาก วันนี้แม่แอดมินเลยจะมาเจาะกล่องนม UHT ที่เค้าว่ามีสารอาหารสมองสูง เช็กให้ดูกันเลยว่าแต่ละแบรนด์มีสารอาหารอะไรบ้าง

นมกล่อง UHT 6 กล่อง ที่มีสารอาหารสมองสูง

S-26 Gold PRO UHT สูตร 3

นมกล่องเด็ก S-26 Gold PRO UHT สูตร 3

นมกล่องเด็กสีทองที่มีสฟิงโกไมอีลินสูงถึง 20 มก. ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าสฟิงโกไมอีลินนี่เป็นสารอาหารสมอง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมองให้ฉับไว ช่วยให้ใยประสาททำงานรับส่งสัญญาณกันเร็วขึ้น เมื่อสมองทำงานไวขึ้น ประสิทธิภาพการเรียนรู้และการจดจำของเด็ก ๆ ก็ย่อมจะดีขึ้นนั่นเอง

นอกจากสฟิงโกไมอีลินแล้ว S-26 Gold PROยังมีสารอาหารสมองอื่น ๆ เช่น แอลฟา-แล็คตัลบูมิน ดีเอชเอ โอเมก้า 3 6 9 มีโคลีน รวมถึงวิตามินบี 12 ที่ช่วยเสริมสร้างการทำงานของเซลล์สมองด้วยค่ะ นอกจากนี้ยังมีลูทีนที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการมีส่วนช่วยบำรุงสุขภาพดวงตา ซึ่งเหมาะกับเด็กที่โตมาในยุคดิจิตอลนี้เลย

  • S-26 Gold PRO UHT สูตร 3 ขนาดบรรจุ 180 มล. เป็นนมรสจืดที่กลมกล่อม อร่อย มีความหอมหวานของน้ำนม
  • ราคา 95 บาท ต่อแพ็ค 4 กล่อง ราคาเฉลี่ยกล่องละ 23.75 บาท
  • พิกัดที่จำหน่าย ซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ ช่องทางออนไลน์

 

S-26 Gold UHT สูตร 3

นมกล่องเด็ก S-26 Gold UHT สูตร 3

นมตระกูล S-26 อีกกล่องที่มีสารอาหารสมองเพียบเช่นกัน ถ้าให้เทียบกับ นมกล่อง S-26 Gold PRO UHT คือน้องคนรองที่มีสารอาหารใกล้เคียงกับตัวพี่เลย เพราะมีสฟิงโกไมอีลิน มีแอลฟา-แล็คตัลบูมิน ดีเอชเอ โอเมก้า 3 6 9 สูง มีโคลีน และวิตามินบี 12 เช่นกันค่ะ แม้จะในมีปริมาณที่น้อยกว่าเล็กน้อย แต่ก็ถือว่าสารอาหารสมองครบอยู่นะแม่ นอกจากนี้ยังมีลูทีนที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการมีส่วนช่วยบำรุงสุขภาพดวงตา

  • S-26 Gold UHT สูตร 3 ขนาดบรรจุ 180 มล. เป็นนมรสจืดที่รสชาติใกล้เคียงกับนม S-26 Gold PRO UHT เลยค่ะ อร่อย กลมกล่อมเหมือนกันเลย
  • ราคา 75 บาท ต่อแพ็ค 4 กล่อง ราคาเฉลี่ยกล่องละ 18.75 บาท
  • พิกัดที่จำหน่าย ซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ ช่องทางออนไลน์ 

 

 

 

 

Foremost Omega 3 6 9

นมกล่องเด็ก Foremost Omega 3 6 9

เป็นนมกล่องโฟร์โมสต์สีฟ้าที่มีสารอาหารสมองเช่นกัน แม้จะสู้รุ่นพี่อย่างสีทองไม่ได้ แต่ก็ถือว่าเหมาะสมกับราคาค่ะ

  • Foremost Omega 3 6 9 Smart 1 Plus ขนาดบรรจุ 180 มล. ถ้าวางข้างนมกล่องรสจืดสีส้มฟ้าที่เป็นนมโคแท้ของโฟร์โมสต์ แม่แอดมินว่ารสชาติไม่ต่างกันเลย อร่อยเหมือนกัน 
  • ราคา 42.5 บาท ต่อแพ็ค 4 กล่อง ราคาเฉลี่ยกล่องละ 10.625 บาท
  • พิกัดที่จำหน่าย ซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ ช่องทางออนไลน์ 

 

Hi-Q1 Plus Super Gold PREBIO PROTEQ

นมกล่องเด็ก Hi-Q1 Plus Super Gold PREBIO PROTEQ

นมกล่องสีทองจาก Hi-Q  เป็นนมที่มีความโดดเด่นเรื่องใยอาหารที่ดูแลลำไส้ด้วย สำหรับสารอาหารสมองนั้น Hi-Q1 Plus Super Gold PREBIO PROTEQ มีดีเอชเอ มีโอเมก้า 3 6 9 มีโคลีน และวิตามินบี 12 แต่ไม่พบว่ามีสฟิงโกไมอีลินค่ะ

  • Hi-Q1 Plus Super Gold PREBIO PROTEQ ขนาดบรรจุ 180 มล. นมกล่องรสจืดมีความหอมมันของนมโค รสชาติดี แต่ราคาค่อนข้างสูงเลยค่ะเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่น ๆ  
  • ราคา86 บาท ต่อแพ็ค 3 กล่อง ราคาเฉลี่ยกล่องละ 28.66 บาท
  • พิกัดที่จำหน่าย ซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ ช่องทางออนไลน์ 

 

Enfagrow A+ สูตร 3  

นมกล่องเด็ก

นมกล่องนกฮูกที่นอกจากมีมีสารอาหารสมองอย่างดีเอชเอ โอเมก้า 3 6 9 โคลีน และวิตามินบี 12 สูง ยังมีเออาร์เอ ที่ช่วยพัฒนาสมองและระบบต่าง ๆ ในร่างกาย แต่ไม่พบว่ามีสฟิงโกไมอีลิน

  • Enfagrow A+ สูตร 3 ขนาดบรรจุ 180 มล. นมกล่องรสจืด มีความนัวนม แต่ด้วยความที่มีส่วนผสมของน้ำมันสกัดที่ให้ดีเอชเอและเออาร์เอ เลยอาจรู้สึกเหมือนว่ากำลังดื่มนมผสมน้ำมันปลาอยู่ค่ะ สำหรับราคารู้สึกว่าแอบแรงอยู่เหมือนกันค่ะ
  • ราคา 60 บาท ต่อแพ็ค 3 กล่อง ราคาเฉลี่ยกล่องละ 20 บาท
  • พิกัดที่จำหน่าย ซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ ช่องทางออนไลน์ 

 

เมื่อเช็กสารอาหารครบทั้ง 5 กล่องแล้ว จะเห็นว่าในนมกล่อง UHT แต่ละกล่องมีสารอาหารที่หลากหลายแตกต่างกันไป แต่ถ้าแม่ ๆ ต้องการนมกล่องที่มีสารอาหารสมองและเพิ่มสารอาหารเพื่อบำรุงสุขภาพสายตาสำหรับลูก แม่แอดมินขอยก S-26 Gold PRO UHT สูตร 3 เป็นนัมเบอร์วันค่ะ เพราะมีพระเอกอย่างสฟิงโกไมอีลิน และสารอาหารสมองสำคัญอื่น ๆ นอกจากนี้ยังมีลูทีน ที่ช่วยในเรื่องของสุขภาพดวงตา ซึ่งเหมาะกับเด็กที่โตมาในยุคดิจิตอล ที่ต้องเรียนรู้จากข้อมูลในโลกอินเตอร์เนตเยอะจริง ๆ สารอาหารครบและมากที่สุดรู้สึกคุ้มค่ากับราคาที่จ่าย ยังไม่พอรสชาติก็อร่อยด้วย

 

ตั้งครรภ์ 1 เดือน อายุครรภ์ 1 เดือน ลูกตัวเท่าเม็ดงาและมีหัวใจแล้ว

ตั้งครรภ์ 1 เดือน-อายุครรภ์ 1 เดือน-ตั้งครรภ์ 4 สัปดาห์-ตั้งครรภ์ 3 สัปดาห์-ตั้งครรภ์ 2 สัปดาห์-พัฒนาการทารกในครรภ์

แม่ตั้งครรภ์ 1 เดือน อายุครรภ์ 1 เดือน ลูกตัวเท่าเม็ดงาและมีหัวใจแล้ว

รู้ไหมคะว่า อายุครรภ์ 1 เดือน เกิดอะไรขึ้นกับลูกในท้องตัวเองบ้าง ลูกในท้องตัวแค่ไหนแล้ว ลูกในท้องกำลังทำอะไรอยู่ และตัวแม่เองมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง แม่ตั้งครรภ์ 1 เดือน จะต้องดูแลตัวเองอย่างไร มาค่ะคุณแม่ท้องทุกคน มาดู พัฒนาการทารกในครรภ์ 1 เดือน พร้อมวิธีดูแลตัวเอง กันค่ะ

พัฒนาการทารกในครรภ์ 1 เดือน อายุครรภ์ 1 เดือน ลูกในท้องตัวเท่าเม็ดงาจิ๋วหลิว

  1. ทารกในครรภ์มีความยาวประมาณ 1 เซนติเมตร น้ำหนักไม่ถึง 1 กรัม ลักษณะเหมือนลูกน้ำ หรือ ตุ่มกลม ๆ เล็ก ๆ
  2. หัวโตมีติ่งสองคู่โผล่ออกมา ซึ่งติ่งคู่หนึ่งจะพัฒนาเป็นแขน 2 ข้าง ส่วนติ่งอีกคู่หนึ่งจะพัฒนาไปเป็นขาสองข้างนั่นเอง
  3. สายสะดือค่อนข้างใหญ่ มีเส้นเลือดแดงและเส้นเลือดดำจากรก เป็นเส้นทางนำอาหารไปสู่ตัวทารก และถ่ายเทของเสียกลับคืน
  4. อายุครรภ์ 1 สัปดาห์หลังจากการปฏิสนธิทารกในครรภ์จะเป็นเพียงเซลล์เล็ก ๆ ที่ค่อย ๆ แบ่งตัวออกเป็น 2 ส่วน
    • ส่วนแรก: เริ่มพัฒนาไปเป็นรกและถุงน้ำคร่ำ มีหน้าที่ปกป้องทารก และเป็นเส้นทางลำเลียงอาหาริและของเสียของลูกในระหว่างที่อยู่ในครรภ์ รวมทั้งสร้างฮอร์โมนที่จำเป็นต่อการตั้งครรภ์
    • ส่วนที่สอง: มีการพัฒนาไปเป็นตัวอ่อนหรือทารก โดยเซลล์นี้จะแบ่งออกไปเรื่อยิๆ จนพัฒนาไปเป็นอวัยวะต่างิๆ เช่น ตับ ปอด ต่อมไทรอยด์ ท่อไต กระเพาะปัสสาวะ บางส่วนพัฒนาไปเป็นโครงกระดูก กล้ามเนื้อทั่วไป กล้ามเนื้อหัวใจ อัณฑะ รังไข่ หลอดเลือด ฯลฯ จนครบเป็นอวัยวะที่สมบูรณ์
  5. อายุครรภ์ 2 สัปดาห์ เริ่มเห็นตำแหน่งที่จะพัฒนาไปเป็นไขสันหลัง และส่วนหลังของตัวอ่อน
  6. อายุครรภ์ 3 สัปดาห์ อวัยวะสำคัญเริ่มเจริญเติบโตขึ้น ช่วงสัปดาห์นี้หัวใจของลูกเริ่มเต้นแล้ว
  7. อายุครรภ์ 4 สัปดาห์ ตัวอ่อนจะมีลักษณะคล้ายกุ้ง เอวคอดตรงกลาง ส่วนหัว ส่วนข้าง และส่วนล่างเหมือนหางโค้งงอ

แม่ท้องอายุครรภ์ 1 เดือน มีอาการคนท้องและต้องทำอะไรบ้าง

  1. เมื่อรู้ตัวว่าท้องก็ต้องรีบไปฝากครรภ์นะคะ เพื่อคุณหมอจะได้ตรวจร่างกายคุณแม่และสุขภาพของทารกในครรภ์ และแนะนำการดูแลตัวเองอย่างถูกต้อง
  2. กินอาหารที่มีโฟเลทต่อเนื่องยาว ๆ ไปจนถึง 12 สัปดาห์ของการตั้งครรภ์ เพื่อช่วยให้เซลล์เม็ดเลือดแดงและเซลล์ของตัวอ่อนแข็งแรง ป้องกันการพิการแต่กำเนิด
  3. งดออกกำลังกายหนัก ๆ เพราะเป็นช่วงที่ตัวอ่อนบอบบางมาก เป็นระยะที่เราต้องให้ตัวอ่อนได้ฝังตัวกับผนังมดลูกให้ดี
  4. นอนพักผ่อนเยอะ ๆ เพราะช่วงนี้อาหารแพ้ท้องมาแล้ว ทั้งเวียนหัว คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลียง่าย เจ็บตึงเต้านม ปัสสาวะบ่อย หรือบางคนจะหงุดหงิดง่าย เพราะฮรอ์โมนเปลี่ยนแปลงด้วย


*** เมื่อไปพบคุณหมอ อย่าลืมสอบถามเรื่องวัคซีนที่คนท้องต้องฉีด และรับสมุดบันทึกสุขภาพแม่และเด็กเล่มสีชมพูกลับมาด้วยนะคะ
 

 *************************************************

เช็กพัฒนาการทารกในครรภ์ตลอดอายุครรภ์ 9 เดือน ได้ที่นี่

  1. ตั้งครรภ์ 1 เดือน อายุครรภ์ 1 เดือน 
  2. ตั้งครรภ์ 2 เดือน อายุครรภ์ 2 เดือน 
  3. ตั้งครรภ์ 3 เดือน อายุครรภ์ 3 เดือน 
  4. ตั้งครรภ์ 4 เดือน อายุครรภ์ 4 เดือน 
  5. ตั้งครรภ์ 5 เดือน อายุครรภ์ 5 เดือน 
  6. ตั้งครรภ์ 6 เดือน อายุครรภ์ 6 เดือน 
  7. ตั้งครรภ์ 7 เดือน อายุครรภ์ 7 เดือน 
  8. ตั้งครรภ์ 8 เดือน อายุครรภ์ 8 เดือน 
  9. ตั้งครรภ์ 9 เดือน อายุครรภ์ 9 เดือน 

 

ตั้งครรภ์ 2 เดือน อายุครรภ์ 2 เดือน ลูกในท้องตัวลูกเชอร์รี่

ตั้งครรภ์ 2 เดือน-อายุครรภ์ 2 เดือน-ตั้งครรภ์ 8 สัปดาห์-ตั้งครรภ์ 7 สัปดาห์-ตั้งครรภ์ 6 สัปดาห์-พัฒนาการทารกในครรภ์
ตั้งครรภ์ 2 เดือน อายุครรภ์ 2 เดือน  ลูกในท้องตัวลูกเชอร์รี่

แม่ตั้งครรภ์ 2 เดือน อายุครรภ์ 2 เดือน หรือเราจะนับว่าเป็นการตั้งครรภ์ 8 สัปดาห์ (ครบ 2 เดือนทางจันทรคติ-เดือนไทย) ช่วงเดือนนี้ พัฒนาการทารก ในครรภ์ มีมากกว่าเดือนแรกถึง 4 เท่า เราลองมาส่องท้อง คุณแม่ อายุครรภ์ 2 เดือน กันค่ะว่าลูกในท้อง เป็นยังไงกันบ้าง

พัฒนาการทารกในครรภ์ 2 เดือน อายุครรภ์ 2 เดือน ลูกในท้องตัวเท่าลูกเชอร์รี่

  • ร่างกาย ส่วนหัวของลูกยังโตไม่มาก ลำตัวค่อย ๆ ยืดยาวออกมีความยาว 2.5 เซนติเมตร และมีน้ำหนักตัว 3 กรัม
  • ส่วนของแขนขาก็เริ่มแยกให้เห็นนิ้วมือ ข้อมือ ข้อศอก และเริ่มมีการพัฒนาให้เห็นเค้าโครงของใบหน้า สามารถมองเห็นลูกตาดำราง ๆ จมูก ริมฝีปาก และหู
  • ผิวหนัง เริ่มแบ่งเป็นสองชั้น และมีการพัฒนาต่อมเหงื่อ ต่อมไขมัน รวมทั้งเริ่มมีขนงอกออกมาจากรูขุมขน
  • อวัยวะภายใน ครบสมบูรณ์ทั้งหมด รวมทั้งการพัฒนาโครงสร้างหลักใหญ่ ๆ ของอวัยวะอื่นๆ ด้วย
  • อัตราการเต้นของหัวใจ อัตราการเต้นของหัวใจลูกจะเต้นเร็วกว่าคุณแม่ประมาณเท่าตัว คือ 140-150 ครั้งต่อนาที

แม่ท้องอายุครรภ์ 2 เดือน มีอาการคนท้องและร่างกายเปลี่ยนแปลงอย่างไร

  1. ช่วงอายุครรภ์ 2 เดือนสำหรับแม่ท้องบางคนจะแพ้ท้องหนักมาก อาการคลื่นไส้ วิงเวียนศีรษะ อาเจียน เหนื่อยง่าย เหม็นบางสิ่งบางอย่างจนทนไม่ได้ อารมณ์แปรนปรวนง่าย ดังนั้นพยายามพักผ่อนและดื่มน้ำเยอะ ๆ เลี่ยงอาหารที่มีกลิ่น และเลี่ยงบรรยากาศที่อาจจะทำให้หงุดหงิดง่ายค่ะ (แต่ถ้าเหม็นเบื่อสามีช่วงนี้ก็ช่วยไม่ได้จริง ๆ ค่ะ)  
     
  2. อายุ 2 เดือนยังต้องงดการออกกำลังกายหรือทำงานหนัก ๆ เพราะอาจจะมีความเสี่ยงเกิดภาวะแท้งได้ง่าย และช่วงนี้อาจจะมีตกขาวมากกว่าปกติ หรือมีเลือดออกบ้าง ไม่ควรซื้อยาใด ๆ มากินเองนะคะ ควรพบแพทย์เพื่อรับการดูแลและแนะนำอย่างถูกต้องค่ะ

อาหารคนท้องอายุครรภ์ 2 เดือนควรกินอะไร

    1. โฟเลท ยังต้องกินอย่างต่อเนื่องและขาดไม่ได้นะคะ ซึ่งโดยปกติแล้วคุณหมอผู้ดูแลครรภ์จะให้วิตามินแบบเม็ดมาด้วย
       
    2. โอเมก้า 3 ที่มีอยู่ในเนื้อปลาทะเลและถั่วต่าง ๆ เพราะเป็นช่วงที่ลูกน้อยกำลังพัฒนาสมอง ระบบประสาท และไขสันหลัง
       
    3. แคลเซียม คุณแม่ควรได้รับวันละ 700-800 มิลลิกรัมต่อวัน กินปลา ไข่ นม เพื่อช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้ดีขึ้น และควรออกไปรับวิตามินดีจากแสงแดดอ่อนยามเช้า
       
    4. วิตามินบี 2 จำเป็นต่อเอนไซม์ต่าง ๆ ที่ช่วยให้กระบวนการเผาผลาญพลังงานทำงานได้ดี ช่วยป้องกันไขมันอุดตันในเส้นเลือดด้วย ขณะเดียวกันก็ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีไขมันและมีรสจัด

 *************************************************

เช็กพัฒนาการทารกในครรภ์ตลอดอายุครรภ์ 9 เดือน ได้ที่นี่

      1. ตั้งครรภ์ 1 เดือน อายุครรภ์ 1 เดือน 
      2. ตั้งครรภ์ 2 เดือน อายุครรภ์ 2 เดือน 
      3. ตั้งครรภ์ 3 เดือน อายุครรภ์ 3 เดือน 
      4. ตั้งครรภ์ 4 เดือน อายุครรภ์ 4 เดือน 
      5. ตั้งครรภ์ 5 เดือน อายุครรภ์ 5 เดือน 
      6. ตั้งครรภ์ 6 เดือน อายุครรภ์ 6 เดือน 
      7. ตั้งครรภ์ 7 เดือน อายุครรภ์ 7 เดือน 
      8. ตั้งครรภ์ 8 เดือน อายุครรภ์ 8 เดือน 
      9. ตั้งครรภ์ 9 เดือน อายุครรภ์ 9 เดือน 

ตั้งครรภ์ 3 เดือน อายุครรภ์ 3 เดือน ลูกในท้องตัวเท่ามะนาว

ตั้งครรภ์ 3 เดือน-อายุครรภ์ 3 เดือน-ตั้งครรภ์ 12 สัปดาห์-ตั้งครรภ์ 11 สัปดาห์-ตั้งครรภ์ 10 สัปดาห์-พัฒนาการทารกในครรภ์

 การตั้งครรภ์อายุครรภ์ 3 เดือน ลูกในท้องตัวเท่ามะนาว-การตั้งครรภ์

ผ่านเข้าเดือนที่ 3 กับ คุณแม่ตั้งครรภ์ 3 เดือน อายุครรภ์ 3 เดือน แล้วนะคะ หรือ อายุครรภ์ 12 สัปดาห์ ( ครบ 3 เดือนทางจันทรคติ ) ช่วงนี้เริ่มเห็น การเปลี่ยนแปลงของร่างกายแม่ท้องมากขึ้น ลูกในท้องก็พัฒนาการดีขึ้นมากด้วย เราลองมาเช็กกันค่ะ ว่าเมื่อ แม่ตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 3 เดือนร่างกายแม่เปลี่ยนแปลงแค่ไหน น้ำหนักตัวขึ้นเท่าไหร่ ลูกในท้อง อายุครรภ์ 3 เดือน มีพัฒนาการอย่างไร และ แม่ท้อง 3 เดือน ควรกินอะไรบ้าง

พัฒนาการทารกในครรภ์ 3 เดือน อายุครรภ์ 3 เดือน ลูกในท้องตัวเท่าลูกมะนาว

  1. ทารกจะมีความยาวตั้งแต่หัวจรดเท่า ประมาณ 9 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 15 กรัม
  2. ส่วนหัวทารกจะดูใหญ่กว่าลำตัว มีซี่โครง และ กระดูกลำตัวชัด
  3. อวัยวะเพศเริ่มพัฒนาภายนอกให้เห็น แต่ยังระบุเพศที่ชัดเจนไม่ได้
  4. ขากรรไกร เหง้าฟันแท้ทั้ง 32 ซี่ จะซ่อนอยู่ในปุ่มเหงือกอย่างครบถ้วน
  5. ทารกเริ่มกลืนน้ำคร่ำได้ เพราะลำไส้เริ่มทำงานแล้ว
  6. ปัสสาวะออกมาได้เล็กน้อยในถุงน้ำคร่ำด้วย เนื่องจากระบบขับถ่ายเริ่มทำงาน
  7. หัวใจจะเต้นเร็วมาก ประมาณ 160-170 ครั้งต่อนาที แต่ในบางรายหมออาจจะยังฟังเสียงหัวใจไม่ได้เพราะผนังท้องคุณแม่หนามาก

แม่ท้องอายุครรภ์ 3 เดือน มีอาการคนท้องและร่างกายเปลี่ยนแปลงอย่างไร

  1. คุณแม่จะมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น แต่จะยังไม่มากนัก บางคนน้ำหนักอาจลดลงด้วยซ้ำ เนื่องจากอาการแพ้ท้อง และ หากเพิ่มก็ไม่เกิน 2 กิโลกรัม ซึ่งจะเป็นส่วนของทารกเพียง 48 กรัม ที่เหลือเป็นส่วนขยายของมดลูก เต้านม รกและน้ำคร่ำ รวมทั้งปริมาณเลือดที่เพิ่มขึ้นระบบไหลเวียนโลหิต
     
  2. ยอดมดลูกชัดจนคุณหมอคลำเจอแล้ว เมื่อคุณหมอคลำจะพบยอดมดลูกบริเวณหัวหน่าวโตขึ้น ทำให้คุณแม่มั่นใจได้ว่าตั้งครรภ์แน่นอน ซึ่งขนาดครรภ์ก็จะสมดุลกับอายุของทารก
     
  3. อารมณ์ช่วงเดือนที่ 3 นี้ คุณแม่ยังคงมีอารมณ์แปรปรวนอยู่บ้าง แต่ก็เริ่มทุเลาลง ซึ่งเกิดจากระดับฮอร์โมนที่เริ่มปรับสภาพให้สมดุล

อาหารคนท้องอายุครรภ์ 3 เดือน

  1. โฟเลทยังสำคัญอยู่เช่นเคย แต่ควรเริ่มกินอาหารที่มีโฟเลทเพิ่มมากขึ้นนอกเหนือจากวิตามินของคุณหมอ เช่น นม ผัก ผลไม้ หรือเนื้อสัตว์ เป็นต้น
  2. ช่วงนี้อาจอยากกินอะไรแปลกๆ หรือ รสชาติจัด คุณแม่วครระวังเรื่องความสะอาด หรือทางที่ดีควรเลี่ยงอาหารรสจัด อาหารดิบ อาหารหมักดอง ฯลฯ ไปก่อน
  3. ช่วงนี้ใครที่ยังแพ้ท้องอยู่ ควรกินอาหารร้อน ๆ เช่น ข้าวต้ม ซุป ต้มจืดต่าง ๆ จะช่วยให้รู้สึกดีขึ้นและยังได้สารอาหรรครบถ้วนสำหรับลูกในท้อง
  4. แม่ท้อง 3 เดือนบางคนเริ่มมีปัญหาช่องปากบ้างแล้ว ควรเพิ่มการกินผลไม้ที่มีวิตามินซีมากขึ้น จะช่วยป้องกันโรคเหงือกบวมและเลือดออกตามไรฟันให้คุณแม่ และที่สำคัญยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิวหนัง ลดโอกาสแตกลายบริเวณผิวหน้าท้องได้ด้วย

 *************************************************

เช็กพัฒนาการทารกในครรภ์ตลอดอายุครรภ์ 9 เดือน ได้ที่นี่

  1. ตั้งครรภ์ 1 เดือน อายุครรภ์ 1 เดือน 
  2. ตั้งครรภ์ 2 เดือน อายุครรภ์ 2 เดือน 
  3. ตั้งครรภ์ 3 เดือน อายุครรภ์ 3 เดือน 
  4. ตั้งครรภ์ 4 เดือน อายุครรภ์ 4 เดือน 
  5. ตั้งครรภ์ 5 เดือน อายุครรภ์ 5 เดือน 
  6. ตั้งครรภ์ 6 เดือน อายุครรภ์ 6 เดือน 
  7. ตั้งครรภ์ 7 เดือน อายุครรภ์ 7 เดือน 
  8. ตั้งครรภ์ 8 เดือน อายุครรภ์ 8 เดือน 
  9. ตั้งครรภ์ 9 เดือน อายุครรภ์ 9 เดือน 

 

นาฬิกาชีวิตของทารกเดือนแรก ทารกอายุ 1 เดือน ช่วยพ่อแม่ใช้ชีวิตง่ายขึ้น

ทารก 1 เดือน, ทารก 1 เดือนทำอะไรบ้าง, กิจวัตร ทารก 1 เดือน, เลี้ยง ทารก 1 เดือน, ตารางกินนม ทารก 1 เดือน, ตารางขับถ่าย ทารก 1 เดือน, การของทารก 1 เดือน, นาฬิกาชีวิตของเด็กทารก, ตารางชีวิตเด็กทารก,พ่อแม่มือใหม่
 
ลูกทารกอายุ 1 เดือน ตื่นตอนไหน กินนมตอนไหน เล่นตอนไหน ถ้ารู้ตารางชีวิตลูกทารกแบบนี้ พ่อแม่มือใหม่เลี้ยงวลูกง่ายแน่ ๆ ค่ะ ลองมาเช็กนาฬิกาชีวิตลูกทารก 1 เดือนกันค่ะ

นาฬิกาชีวิตของทารกเดือนแรก ทารกอายุ 1 เดือน ช่วยพ่อแม่ใช้ชีวิตง่ายขึ้น

หากคุณพ่อคุณแม่รู้จักนาฬิกาชีวิตของลูกน้อย จะทำให้เข้าใจจังหวะชีวิตของลูกมากขึ้น โดยนาฬิกาชีวิตของทารกหมุนเวียนทุก 3 ชั่วโมง แบ่งเป็นป้อนนม 30 นาที เล่น 30 นาที และนอน 2 ชั่วโมง เมื่อรู้นาฬิกาชีวิตของลูกแล้ว คุณพ่อคุณแม่จะได้ปรับนาฬิกาชีวิตของตัวเองให้ดูแลลูกน้อยได้ดีขึ้นไงคะ

 
7.00 น.  : เปลี่ยนผ้าอ้อม, ให้นม
7.30 น.   : เล่น
8.00 น.   : นอน
10.00 น. : เปลี่ยนผ้าอ้อม, ให้นม
10.30 น. : เล่น
11.00 น. : นอน
13.00 น. : เปลี่ยนผ้าอ้อม, ให้นม
13.30 น. : เล่น
14.00 น. : นอน
16.00 น. : เปลี่ยนผ้าอ้อม, ให้นม
16.30 น. : เล่น
17.00 น. : นอน
19.00 น. : เปลี่ยนผ้าอ้อม, ให้นม
19.30 น. : เล่นนานเป็นพิเศษ
21.30 น. : เริ่มนอน, ให้นม
22.00 น. : นอน


ทารก 1 เดือน, ทารก 1 เดือนทำอะไรบ้าง, กิจวัตร ทารก 1 เดือน, เลี้ยง ทารก 1 เดือน, ตารางกินนม ทารก 1 เดือน, ตารางขับถ่าย ทารก 1 เดือน, การของทารก 1 เดือน, นาฬิกาชีวิตของเด็กทารก, ตารางชีวิตเด็กทารก,พ่อแม่มือใหม่


ตารางนี้เป็นแค่ตัวอย่างเพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ได้ค้นพบแนวทางการเลี้ยงลูก เพราะนาฬิกาชีวิตของทารกแต่ละคนอาจไม่เหมือนกัน หากลูกมีสัญญาณว่าหิวหรือง่วง ก็ปรับตารางเวลาให้เข้ากับลูกได้ ควรสังเกตและบันทึกนาฬิกาชีวิตของลูกไว้เสมอ เพื่อดูข้อมูลย้อนหลัง ในการเฝ้าติดตามพฤติกรรม การพัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์ สัญญาณเจ็บป่วย หากลูกผ่านช่วงเดือนแรกไปแล้ว คุณพ่อคุณแม่คงพอจับทางได้ ว่าลูกทำกิจกรรมอะไรใช้เวลาเท่าไหร่บ้าง หรือควรสลับตารางอย่างไรลูกถึงจะงอแงน้อยลง นอนยาวขึ้น และเข้ากับวิถีชีวิตของคุณพ่อคุณแม่ที่สุดค่ะ

ที่มา : incredibleinfant.com
 

พัฒนาการทารกแรกเกิด 1 สัปดาห์แรก ทารกแรกเกิดมีพัฒนาการอย่างไรบ้าง

ทารกแรกเกิด 1 สัปดาห์ก็มีพัฒนาทารกให้พ่อแม่เช็กได้แล้วนะคะ ลองมาเช็กพัฒนาการทารกแรกเกิด 1 สัปดาห์กันในบทความนี้ค่ะ 

พัฒนาการทารกแรกเกิด 1 สัปดาห์แรก ทารกแรกเกิดมีพัฒนาการอย่างไรบ้าง

ปฏิกิริยารีเฟล็กซ์

ปฏิกิริยารีเฟล็กซ์หรือเรียกอีกอย่างว่าปฏิกิริยาสะท้อนกลับ เป็นพัฒนาการสำคัญของทารกแรกเกิดที่จะตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้นหรือสิ่งเร้าโดยอัติโนมัติ ปฏิกิริยานี้จะเกิดขึ้นบ่อยในช่วงเดือนแรกของทารก และหลังจากนั้นก็จะค่อย ๆ หายไป

ปฏิกิริยาสะท้อนกลับที่คุณพ่อคุณแม่สามารถตรวจสอบได้เองมีดังนี้

  1. หากคุณอุ้มลูกในท่ายืน และปล่อยให้เท้าสัมผัสพื้นเล็กน้อย ลูกจะชักขาขึ้นละม้ายคล้ายการเดินบนอากาศ
  2. เมื่อถูกอุ้มอย่างรุนแรง เสียงดัง หรือแสงจ้าบาดตา ลูกจะสะดุ้งตกใจพร้อมกับแอ่นหลังขึ้นมา ศีรษะห้อยไปด้านหลัง แขนขากางกว้างออก และกลับมาอยู่ในท่าห่อตัวอย่างรวดเร็ว
  3. ทารกมักร้องไห้จ้าเพราะตกใจเสียงร้องไห้ของตนเอง ลูกจะสงบได้ด้วยการวางมืออุ่น ๆ ไว้ที่ร่างกายลูก หรืออุ้มพาดบ่าไว้
  4. หากแตะฝ่ามือหรือฝ่าเท้าลูก ลูกจะจับนิ้วของคุณไว้แน่น และสามารถดึงตัวเองขึ้นจากที่นอนได้
  5. หากแตะหลังมือหรือหลังเท้าด้านนอก นิ้วมือและนิ้วเท้าของลูกจะกางออก เรียกว่า Babinski Reflex
  6. เมื่อแตะที่มุมปากลูก ปากก็จะเผยอตามและหันมาหานิ้วมือที่แตะ ทำท่าทางพร้อมจะดูดนม เมื่อแตะสันจมูกหรือเปิดไฟใส่หน้า ลูกจะหลับตาปี๋
  7. จิ้มที่ฝ่าเท้าเบา ๆ เข่าและเท้าจะงอ
  8. เมื่ออุ้มเอาส่วนอกจุ่มน้ำ ลูกจะทำท่าว่ายน้ำ
  9. ดึงลูกขณะที่นอนอยู่ให้ขึ้นมาสู่ท่านั่ง ลูกจะพยายามตั้งหัวให้ตรง ตาเบิกกว้าง ไหล่ตึง เรียกว่าปฏิกิริยาตุ๊กตาจีน

ผิวทารกแรกเกิด

ทารกแรกเกิดจะมีเลือดของแม่และไขมันเคลือบอยู่ตามผิวที่เรียกว่า เวอร์นิกซ์ (Vernix) ทำหน้าที่ช่วยหล่อลื่นให้ทารกไหลลื่นออก มาจากช่องคลอดได้สะดวกยิ่งขึ้น ดังนั้นเมื่อคุณพ่อคุณแม่ได้เห็นลูกในครั้งแรกก็จะพบว่าลูกมีผิวหนังเหี่ยวย่นจากการคุดคู้อยู่ในครรภ์มารดา และมีเมือกเลือดต่างๆ ที่ติดอยู่ตามตัว หลังจากคลอดเสร็จพยาบาลจะเป็นผู้ทำความสะอาดให้

เมื่อไขมันเริ่มหลุดไปก็มักทำให้ผิวชั้นนอกของทารกแห้งและลอก แต่เพียงแค่ 1-2 สัปดาห์เท่านั้นผิวหนังเก่าก็จะค่อยๆ หลุดหายไป และกลายเป็นผิวหนังที่แสนสดใสอมชมพูขึ้นมาแทน ในช่วงนี้คุณแม่อย่าแกะ เกา ขัดผิวของลูกเป็นอันขาด เพราะอาจจะทำให้ผิวลูกถลอก เป็นแผล และติดเชื้อโรคได้ง่ายขึ้นด้วย ทารกแรกเกิดหลายคนก็มักมีปานต่างๆ แต้มตามผิวมาด้วย

  • ปานดำแต่กำเนิด (Congenital Melanocytic Nevus) ทารกแรกเกิดอาจเห็นเป็นสีค่อนข้างแดง ต่อมาภายในเวลาไม่กี่เดือนจะมีสีน้ำตาลดำเข้มขึ้น ปานดำส่วนใหญ่จะมีขนาดโตกว่าไฝธรรมดา ผิวอาจเรียบนูน หรือขรุขระเล็กน้อย และอาจมีขนปนอยู่ด้วย ปานชนิดนี้มักไม่มีอันตราย นอกจากความสวยงาม แต่ถ้ามีขนาดใหญ่อาจมีโอกาสกลายเป็นมะเร็งได้
  • ปานมองโกเลียน (Mongolian spot) จะมีลักษณะเป็นปื้นสีเทาหรือสีน้ำเงินอ่อนขนาดใหญ่ ขนาดตั้งแต่ 0.5 – 11 ซม. มักจะพบบริเวณก้น หลัง อาจพบที่ไหล่หรือศีรษะได้บ้าง ปานชนิดนี้ไม่มีอันตรายใดๆ และมักจะจางหายไปได้เองใน 1 ขวบปีแรก
  • ปานแดงสตรอเบอรี่ (Strawberry Nevus) มักพบบริเวณใบหน้าและลำคอ ลักษณะเป็นตุ่มหรือก้อนนูนสีแดงเข้ม พบในช่วง 1-4 สัปดาห์หลังคลอด ระยะแรกจะขยายเร็วจนถึงอายุประมาณ 1 ขวบ จากนั้นสีจะม่วงคล้ำขึ้น โดย 85% จะหายไปได้เองภายในอายุประมาณ 7 ขวบ
  • ปานแดงจากผนังเส้นเลือดผิดปกติ (Capillary Hemangioma) ลักษณะเป็นตุ่มนูนหรือปื้นสีแดงขนาดใหญ่ที่บริเวณใบหน้าซีกใดซีกหนึ่งของร่างกาย ซึ่งอาจพบความผิดปกติของตาร่วมด้วย เช่น ถ้าพบปานชนิดนี้บริเวณเปลือกตาหรือขมับ อาจมีขนาดใหญ่ขึ้นเบียดตาหรือเกิดต้อหินทำให้ตาบอดได้ การรักษาปานชนิดนี้มักใช้แสงเลเซอร์ (Vascular laser) ซึ่งผลของการรักษาขึ้นอยู่กับขนาดและตำแหน่งของปานแดง
  • ปานโอตะ (Nevus of Ota)อาจพบในทารกแรกเกิด หรือบางรายพบในตอนเป็นผู้ใหญ่แล้ว ลักษณะจะคล้ายปานมองโกเลียนที่มีสีเทาหรือน้ำเงิน แต่มักพบบริเวณโหนกแก้ม หรือขมับ ปานลักษณะนี้จะไม่จางหายไปเหมือนปานมองโกเลียน และจะไม่กลายเป็นมะเร็ง จึงไม่มีอันตรายใดๆ นอกจากไม่สวยงามเท่านั้น เมื่อเด็กโตขึ้นสามารถใช้เลเซอร์รักษาได้

รูปร่างทารกแรกเกิด

โดยเฉลี่ยแล้วเด็กผู้ชายจะมีน้ำหนักประมาณ 3.3 กก. สูง 50.5 ซม. ส่วนเด็กผู้หญิงจะมีน้ำหนักประมาณ 3.2 กก. สูง 49.9 ซม.

ร่างกายของทารกในช่วงแรกคลอดนี้จะดูแล้วไม่น่ารัก เพราะว่าศีรษะจะโตมากกว่าลำตัว อีกทั้งมีใบหน้าอูม คอสั้น แขนขาก็สั้นไม่เข้าที่ เมื่อจับศีรษะก็จะพบว่าค่อนข้างนุ่ม เนื่องจากกระโหลกยังประสานไม่สนิทเท่าไรนัก โดยเฉพาะกระหม่อมหน้า ส่วนมือเท้าจะค่อนข้างเย็นเพราะระบบหมุนเวียนเลือดยังทำงานไม่ประสานกันเท่าไหร่

  • ส่วนอวัยวะเพศชาย จะมีไข่อยู่ในถุงอัณฑะเรียบร้อยแล้ว แต่ทารกบางคนก็มีไข่เพียงข้างเดียว ซึ่งอีกข้างจะตามมาในภายหลังในเวลาไม่นานนัก ปลายองคชาติ จะปิดแต่สามารถปัสสาวะได้และจะเปิดภายหลังเช่นกัน
  • ส่วนอวัยวะเพศหญิง จะมีสีคล้ำเล็กน้อย ส่วนอวัยวะเพศเด็กหญิงบางคนมีมูกคล้ายตกขาวหรือเลือดออกมาจากช่องคลอด เพราะเกิดจากฮอร์โมนของแม่ที่ผ่านมาทางสายรก และจะหายไปในเวลา 1-2 สัปดาห์

การมองเห็นของทารกแรกเกิด

การมองเห็นเป็นพัฒนาการที่ทารกเพิ่งได้เรียนรู้เมื่อออกมาจากครรภ์มารดา ดังนั้นคุณแม่จะเห็นว่าลูกจะหน้านิ่วคิ้วขมวดและเพ่งไปยังจุดที่เขาสนใจในระยะประมาณ 8-12 นิ้ว ทั้งนี้ ทารกจะสามรถมองเห็นได้อย่างเลือนลางและมองในลักษณะเลื่อนลอยบ้างในบางครั้ง ที่สำคัญดวงตาของทารกจะมีความไวต่อแสงมาก ดังนั้นอย่าพาลูกเดินไปในห้องที่มีแสงจ้า หรือออกกลางแดดแบบฉับพลัน เพราะเขาจะหลับตาปี่ เพื่อปกป้องดวงตาของตัวเองทันที

ทารกจะชอบมองสิ่งที่เป็นเหลี่ยมมุมมากกว่าสิ่งของที่เป็นทรงกลม และชอบลวดลายที่มีสีสันตัดกันมากกว่าสีพื้นเรียบๆ อีกสิ่งหนึ่งที่ทารกชอบมอง คือ ใบหน้าของคน เพราะมีลักษณะสีหน้าที่แสดงอารมณ์ และมีจุดโฟกัสที่ดวงตา ลูกจะเรียนรู้ได้ว่าเขาควรจะมีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างไร อย่างเช่น คุณแม่ยิ้มให้ ลูกก็จะเรียนรู้ที่จะยิ้มตาม

การได้ยินของทารกแรกเกิด

ทารกจะมีพัฒนาการด้านการได้ยินขึ้นทันทีตั้งแต่ออกจากท้องแม่ โดยทารกจะมีปฏิกิริยาเมื่อมีเสียงแปลกๆ เข้ามากระทบ อย่างเช่น สะดุ้งตกใจ กะพริบตาถี่ๆ หรือกลับกันถ้าเป็นเสียงเห่กล่อม ลูกจะนอนง่ายขึ้น ร้องไห้โยเยน้อยลง อย่างไรก็ตามทารกชอบได้ยินเสียงที่ทอดยาวประมาณ 10 วินาที และไม่ชอบเสียงสั้นๆ แบบหยุดๆ หายๆ ราว 1 – 2 วินาที และชอบเสียงสูงมากกว่าเสียงต่ำ อีกทั้งสามารถแยกแยะเสียงของคุณแม่จากเสียงอื่นๆ ได้แล้วด้วย

การสัมผัสของทารกแรกเกิด

ทารกแรกเกิดมีความไวต่อประสาทสัมผัสทางกาย โดยเฉพาะอ้อมกอดและการสัมผัสของแม่ที่เป็นตัวกระตุ้นให้ทารกรับรู้ประสาทสัมผัสต่างๆ มากขึ้น นอกจากนั้นทารกยังรับรู้ได้อีกว่าคุณแม่กำลังอยู่ในอารมณ์ใด แต่หากทารกน้อยยังต้องอยู่ในตู้อบ ทางการแพทย์ก็แนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ลูบเนื้อตัวลูกผ่านถุงมือ เพราะว่าลูกจะรู้สึกถึงการสัมผัสได้เช่นกัน

การได้กลิ่นของทารกแรกเกิด

 ประสาทสัมผัสด้านการดมกลิ่นเป็นพัฒนาการสำคัญ ที่จะช่วยให้ทารกน้อยปรับตัวกับโลกภายนอก หลังจากอุดอู้ในครรภ์คุณแม่มานาน ทารกแรกเกิดจะสามารถแยกความแตกต่างของกลิ่นสองกลิ่นได้ และสามารถแสดงออกว่าไม่ชอบกลิ่นเหม็นๆ ได้เช่นกัน ซึ่งหากไม่ชอบก็จะหันหัวหนี สะดุ้ง และดิ้นรนจนร้องไห้ออกมาในที่สุด ส่วนกลิ่นที่ชอบที่สุดจะเป็นกลิ่นของแม่ เพราะรู้สึกปลอดภัยและรับรู้ถึงความอบอุ่น ดังนั้นเมื่อลูกร้องไห้โยเยและคุณแม่เข้ามาอุ้ม ลูกก็จะรู้สึกอุ่นใจและสงบลงได้

ทารกแรกเกิดขาโก่ง

คุณพ่อคุณแม่บางคนกังวลว่าทารกแรกเกิดที่คลอดออกมาแล้วขาโก่งจะผิดปกติหรือไม่ จริงๆ แล้วเป็นเรื่องธรรมชาติที่ขาของลูกน้อยจะโก่งเล็กน้อยโดย เฉพาะขาด้านล่าง แต่ไม่ต้องกังวลเพราะขาของลูกจะค่อยๆ เหยียดตรงขึ้นเรื่อยๆ สามารถยืดยาวตรงได้ในภายหลัง

การกินของทารกแรกเกิด

 นมแม่เป็นอาหารที่เหมาะสมที่สุดสำหรับทารกแรกเกิด ซึ่งนมแม่หลังคลอดจะมีลักษณะเป็นน้ำนมเหลืองที่เรียกว่า โคลอสตรัม (Colostrum) ที่ถือเป็นหัวอาหารชั้นยอดของทารก ซึ่งน้ำนมเหลืองจะให้ทั้งพลังงาน โปรตีน ไขมัน วิตามิน เกลือแร่ พร้อมทั้งภูมิคุ้มกันธรรมชาติแก่ทารกด้วย ที่สำคัญคุณแม่ควรให้ลูกดูดนมข้างละประมาณ 15 นาที เพื่อกระตุ้นน้ำนมด้วย

ช่วงแรกลูกจะร้องกินนมไม่ค่อยเป็นเวลา เป็นหน้าที่ของคุณแม่ที่จะต้องค่อยๆ จัดตารางเวลาให้ลูกกินนมในช่วงกลางวัน เพราะนอกจากจะทำให้คุณพ่อคุณแม่ได้พักผ่อน ลูกก็จะมีระบบการย่อยที่ดีและท้องไม่อืด

การขับถ่ายของทารกแรกเกิด

 หากลูกกินนมแม่จะถ่ายอุจจาระบ่อย บางคนถ่ายทุกครั้งหลังดูดนม ซึ่งในทารกแรกเกิดจะมีอุจจาระที่ดำๆ เขียวๆ ที่เรียกว่า “ขี้เทา” มีลักษณะนุ่มเหนียว ซึ่งเป็นสิ่งที่ตกค้างอยู่ในลำไส้ของทารกจากเมื่อตอนที่ยังอยู่ในท้แงแม่ และจะถูกขับออกมาตามกระบวนการขับถ่าย และต่อไปอุจจาระของลูกก็จะกลายเป็นสีเหลืองเอง ทั้งนี้ หากสังเกตว่าลูกยังไม่อุจจาระภายใน 24 ชั่วโมงแล้ว ให้รีบปรึกษาแพทย์เพราะลูกอาจจะเกิดลำไส้อุดตันได้

พัฒนาการทารกแรกเกิด, พัฒนาการ ทารก 7 วัน, พัฒนาการทารก 1 สัปดาห์, พัฒนาการ ทารก แรก เกิด 1 เดือน, พัฒนาการ ทารก 2 สัปดาห์, พัฒนาการ ทารก 10 วัน, พัฒนาการ ทารก 15 วัน, พัฒนาการเด็กแรกคลอด, เช็กพัฒนาการทารกแรกเกิด, พัฒนาการ เด็กแรกเกิด เป็นอย่างไร, ปฏิกิริยารีเฟล็กซ์, ทารกแรกเกิดมองเห็นรึยัง, ทารกแรกเกิด ได้ยินเสียงรึยัง, เช็กสุขภาพ ทารกแรกเกิด

พัฒนาการเด็ก 1 ขวบ ลูกวัย 12 เดือนมีพัฒนาการอะไรที่โดดเด่น พร้อมวิธีเสริมพัฒนาการเด็ก 1 ขวบ

 พัฒนาการเด็ก 1 ขวบ, พัฒนาการทารก 12 เดือน, พัฒนาการเด็ก อายุ 12 เดือน, พัฒนาการเด็ก 1 ขวบ พัฒนาการทางร่างกาย, เด็ก 1 ขวบ พัฒนาการทางสมอง, 1 ขวบ พัฒนาการทางจิตใจ อารมณ์, 1 ขวบ  ทำอะไรได้บ้าง, เด็ก 1 ขวบ เป็นยังไง, เด็ก 1 ขวบต้องดูแลเรื่องอะไร, เด็ก 1 ขวบมีพัฒนาการอะไรบ้าง, เช็กพัฒนาการเด็ก 1 ขวบ

ลูกวัย 1 ขวบมีพัฒนาการอะไรที่โดดเด่นบ้าง พ่อแม่ต้องส่งเสริมพัฒนาการเด็กวัย 12 เดือนอย่างไรให้สมวัย และพร้อมพัฒนาต่อยอด เรามีคำแนะนำค่ะ

พัฒนาการเด็ก 1 ขวบ ลูกวัย 12 เดือนมีพัฒนาการอะไรที่โดดเด่น พร้อมวิธีเสริมพัฒนาการเด็ก 1 ขวบ

พัฒนาการทางร่างกายเด็กวัย 1 ขวบ

เมื่อลูกอยู่ที่บ้านอาจจะเดินเล่นได้อย่างเพลิดเพลิน เพราะว่าอยู่ในสถานที่ที่คุ้นเคย สามารถเดินชะลอเพื่อสำรวจสิ่งที่ตนเองสนใจ และสามารถหยุดมอง นั่ง และเล่นได้อย่างเบิกบานมีความสุข เพราะว่าเขาสามารถเคลื่อนตัวเองไปยังจุดที่น่าสนใจได้ ด้วยตนเองโดยไม่ต้องพึ่งพิงใคร แต่เมื่ออยู่ในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยลูกอาจจะไม่ยอมเดิน อยู่เกาะติดกับคุณแม่ และมีความรู้สึกกลัวเข้ามาแทรกทั้งๆ ที่อยู่บ้านเคยทำได้ อย่างเช่น จะคลานแทนทั้งๆ ที่เคยเดินได้คล่องแคล่ว ลูกสามารถใช้มือทั้งสองข้างได้ อย่างคล่องแคล่วว่องไว โดยเฉพาะนิ้วโป้งและนิ้วชี้ที่จะสามารถหยิบของต่างๆ ได้เต็มมือ มีการหยิบวางอย่างบรรจงและแม่นยำ ถือของต่างๆ ได้เหนียวแน่นและตกยาก

พัฒนาการทางร่างกายของเด็กวัย 1 ขวบ ได้แก่

  1. ยืนได้เอง และยืนได้ตรง
  2. ย่อตัวลงนั่งได้แข้งขัน
  3. เดินได้ แต่ก็ยังชอบคลาน
  4. ชอบคลานขึ้นลงบันได
  5. ใช้มือขณะเดินได้ อย่างเช่น เดินไปพร้อมกับเล่นของเล่น เดินพร้อมกับโบกมือ ชอบใช้มือข้างเดียว และอีกข้างก็สามารถทำอย่างอื่นได้
  6. ใช้นิ้วชี้สิ่งของและผลักของ ถอดเสื้อผ้าออกได้เอง
  7. ชอบเปิดฝากล่องและฝาขวด
  8. ทำท่าเหมือนว่ายน้ำในอ่างอาบน้ำ

พัฒนาการทางอารมณ์ จิตใจ เด็กวัย 1 ขวบ

ลูกจะเริ่มกลับมาติดแม่อีกครั้ง โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในสิ่งแวดล้อมข้างนอก การติดแม่แจในวัยนี้ลูกจะไม่ยอมเล่นกันใคร จนทำให้คุณแม่หลายคนคิดมาก แต่พฤติกรรมนี้จะค่อย ๆ หายไปเองเมื่อโตขึ้น ลูกจะรู้สึกว่าเริ่มอยู่ได้เมื่อปราศจากแม่ เขาจะปรับตัวและจัดการอารมณ์ของตนเอง เพื่อนำไปสู่พัฒนาการทางอารมณ์ที่จะเข้มแข็งขึ้นทีละน้อย โดยเฉพาะเวลาที่ลูกโกรธหรือโมโห ต้องปล่อยให้ลูกได้เรียนรู้อารมณ์ตรงนี้และสงบได้ด้วยตนเอง

พัฒนาการทางอารมณ์ จิตใจของเด็กวัย 1 ขวบที่เด่นชัด ได้แก่

  1. มีปฏิกิริยารุนแรงเมื่อจับแยกจากแม่
  2. มีอารมณ์ขัน
  3. มีอารมณ์แห่งการปฏิเสธมากขึ้น อย่างเช่น ไม่กิน ไม่ไป ยืนยันความต้องการของตนเอง

พัฒนาการทางภาษาเด็กวัย 1 ขวบ 

ลูกยังไม่สามารถพูดเป็นภาษาได้ แต่ก็สามารถฟังคุณพ่อคุณแม่และแปลความหมายที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ ในชีวิตประจำวันได้อย่างแม่นยำ

การพัฒนาด้านภาษาของลูกขึ้นอยู่กับคุณพ่อคุณแม่ โดยพูดและอธิบายให้ลูกฟังบ่อย ๆ ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ โดยเริ่มจากของใกล้ตัวที่สุดคืออวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายของเขา อย่างเช่น มือ เท้า ท้อง เพื่อให้ลูกได้เรียนรู้คำศัพท์ และรู้จักบอกความต้องการของตนเองได้ โดยเฉพาะเมื่อตนเองเกิดเจ็บปวดขึ้นมา

พัฒนาการทางภาษาของเด็กวัย 1 ขวบที่เด่นชัด ได้แก่

  1. จับโทนเสียงบ่งบอกอารมณ์ได้
  2. พูดเสียงอื่น ๆ ได้มากขึ้น
  3. พยายามพูดเสียงต่าง ๆ บางครั้งใช้การแผดเสียงเพื่อเรียนรู้ลำดับของโทนเสียง

พัฒนาการทางสังคมเด็กวัย 1 ขวบ

แม้ลูกจะมีความผูกพันกับคุณแม่มาก แต่กลับมักออกฤทธิ์และมีพฤติกรรมที่ไม่น่ารักออกมาเมื่ออยู่กับคุณแม่ ราวกับว่าไม่กลัวใครเมื่อมีคุณแม่อยู่ด้วย อย่างเช่น ชอบตีพี่เลี้ยง สั่งอะไรก็ไม่ยอมทำ เป็นต้น กลับกันคุณจะเห็นว่าเมื่อฝากลูกไว้ กับคุณตาคุณยายหรือพี่เลี้ยงเพียงลำพังโดยที่คุณแม่ไม่ได้อยู่ด้วย ก็มักจะได้ยินเสียงบอกเล่าว่าลูกเป็นเด็กน่ารัก ให้ทำอะไรก็เชื่อฟัง แต่พอมาอยู่กับคุณแม่อีกครั้งกลับเป็นเหมือนเดิม สั่งอะไรก็ไม่ยอมทำตามแถมอาจจะก้าวร้าวอีกด้วย พฤติกรรมนี้จะค่อย ๆ หายเมื่ออาการติดแม่มีน้อยลงไปเมื่อเขาโตขึ้น

พัฒนาการทางสังคมของเด็กวัย 1 ขวบที่เด่นชัด ได้แก่

  1. แสดงอารมณ์มากขึ้น และก็เข้าใจอารมณ์คนอื่นมากขึ้น
  2. ระแวงคนแปลกหน้าและสถานที่ใหม่ ๆ
  3. เข้าใจการเล่นเกมง่าย ๆ เป็นกลุ่ม ใครขอของเล่นก็จะให้บ้าง บางครั้งก็แยกตัวเล่นคนเดียว
  4. จะทำสิ่งต่าง ๆ ได้ดีเมื่อมีคนชมเชยอยู่ข้าง ๆ

พัฒนาการทางสมองเด็กวัย 1 ขวบ

เมื่อลูกมีพลังงานเยอะเหลือเฟือและโลกใบใหม่ก็น่าสนุกและน่าเรียนรู้ ทำให้เจ้าหนูวัยนี้ส่วนใหญ่นอนยาก และไม่ชอบที่จะเข้านอนสักเท่าไร ทั้ง ๆ ที่การนอนเป็นส่วนหนึ่งการพักผ่อนเพื่อให้ร่างกายได้ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และผลิต Growth Hormones ออกมาเพื่อช่วยในการเจริญเติบโตได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นหากอยากให้ลูกแจ่มใสคุณพ่อคุณแม่จะต้องจัดตารางเวลาการนอนของลูกให้ดี รวมทั้งสร้างบรรยากาศการนอนที่เป็นสุข ไร้แสงสว่างกวนตาและเสียงรบกวนด้วย

พัฒนาการทางสมองของเด็กวัย 1 ขวบที่เด่นชัด ได้แก่

  1. ชอบจับของแยกออกจากกัน อย่างเช่น แกะห่อของเล่น
  2. เรียนรู้เรื่องการแทนที่ การหมุน และการกลับหัวกลับท้ายของสิ่งของ
  3. ค้นหาของเล่นที่มองไม่เห็น แต่จำได้ว่ามีอยู่
  4. จดจำเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้นานขึ้น และจำรายละเอียดได้มากขึ้น
  5. เริ่มรู้ว่าตนเองใช้มือถนัดด้านไหน
  6. เมื่อเกิดปัญหาหรือความผิดผลาด จะหาทางแก้ปัญหา
  7. สามารถแยกของเล่นตามสีและรูปร่างได้
  8. รู้ว่าตัวเองแตกต่างจากสิ่งของ
  9. เลียนแบบกิริยาท่าทางได้ดีขึ้น
  10. ไม่ค่อยยอมนอน

พัฒนาการเด็ก 1 ขวบ, พัฒนาการทารก 12 เดือน, พัฒนาการเด็ก อายุ 12 เดือน, พัฒนาการเด็ก 1 ขวบ พัฒนาการทางร่างกาย, เด็ก 1 ขวบ พัฒนาการทางสมอง, 1 ขวบ พัฒนาการทางจิตใจ อารมณ์, 1 ขวบ  ทำอะไรได้บ้าง, เด็ก 1 ขวบ เป็นยังไง, เด็ก 1 ขวบต้องดูแลเรื่องอะไร, เด็ก 1 ขวบมีพัฒนาการอะไรบ้าง, เช็กพัฒนาการเด็ก 1 ขวบ

พัฒนาการเด็กวัย 1 เดือน พัฒนาการทารกแรกเกิด และการส่งเสริมพัฒนาการตามวัย

 พัฒนาการทารก 1 เดือน, พัฒนาการเด็ก อายุ 1 เดือน, พัฒนาการทารกแรกเกิด 1 เดือน, พัฒนาการของทารก, ทารกแรกเกิด มีพัฒนาการอย่างไร, ทารก 1 เดือน พัฒนาการทางร่างกาย, เด็ก 1 เดือน พัฒนาการทางสมอง, ทารก 1 เดือน พัฒนาการทางจิตใจ อารมณ์, การดูแลทารกแรกเกิด, ทารก 1 เดือน ทำอะไรได้บ้าง, เด็ก อายุ 1 เดือน เป็นยังไง, ทารก  1 เดือน ต้องดูแลยังไง

ทารก 1 เดือน เป็นช่วงบอบบางและต้องปรับตัวอย่างมากกับโลกภายนอก พัฒนาการเด็กอายุ 1 เดือนเป็นอย่างไร เช็กกันตรงนี้ค่ะ

พัฒนาการเด็กวัย 1 เดือน พัฒนาการทารกแรกเกิด และการส่งเสริมพัฒนาการตามวัย 

 

พัฒนาการทางร่างกายของทารก 1 เดือน และการส่งเสริมพัฒนาการตามวัย

ทารกในช่วงหนึ่งเดือนแรกยังต้องการการนอนหลับพักผ่อนมากถึง 12-14 ชั่วโมง และเมื่อตื่นก็มักจะใช้เวลาไปกับการดูดนม การเปลี่ยนผ้าอ้อม และการมองสิ่งต่าง ๆ รอบตัวในบางครั้งคราว และหลายครั้งก็จะร้องไห้อย่างหาสาเหตุไม่ได้ อย่างไรก็ตามการนอนของทารกไม่ได้หยุดยั้งพัฒนาการแต่อย่างใด แต่เขาสามารถรับรู้ถึงแรงกระตุ้นและตอบสนองกับสิ่งเร้าต่างๆ แม้ว่าดวงตาของเขาจะปิดก็ตาม หรืออาจะกล่าวได้ว่าทารกจะหลับสนิทประมาณ 20-30% เท่านั้น นอกนั้นจะเป็นการเคลิ้มหลับ ตารางเวลาของทารกจะตื่นทุก ๆ 3 ชั่วโมงในช่วงสัปดาห์แรกตั้งแต่แรกเกิด และเมื่อเข้าสัปดาห์ที่ 2 คุณพ่อคุณแม่ก็จะเริ่มจับกิจวัตรประจำวันและอากัปกิริยาของลูกเวลานอนได้มากขึ้น อาทิ

  • ครางหงิง ๆ เบา ๆ
  • ทำหน้าเหยเก
  • แสยะยิ้มหรือทำหน้านิ่วคิ้วขมวด
  • ดูดปากเองเสียงดังจุ๊บจั๊บ
  • หายใจไม่สม่ำเสมอ
  • มีอาการกระตุกที่ใบหน้า
  • เปลือกตาเผยอเล็กน้อยและดวงตาคู่เล็กๆ มักชำเลืองไปมา

พัฒนาการทางร่างกายของทางรก 1 เดือน และการส่งเสริมพัฒนาการตามวัย

ร่างกายของทารกช่วงนี้มักจะอยู่ในผ้าห่มอุ่น และยังต้องการความปลอดภัยจากการห่อหุ้มนี้ เพราะถ้าผ้าหลวมเกินไปก็จะทำให้ผวาและร้องไห้ได้ และจะเห็นได้ว่าพัฒนาการทางร่างกายของทารกยังไม่มีการพัฒนามากนัก แต่สิ่งสำคัญที่สุดที่จะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายทารกวัย 1 เดือนมีพัฒนาการที่ดี คือ การเตรียมเสื้อผ้าให้พอดีตัว ผ้าอ้อมแห้งไม่เปียกชื้น และผ้าห่มที่อุ่นสบาย จะช่วยให้เขามีพัฒนาการทางร่างกายที่ดีได้เช่นกัน

พัฒนาการทางร่างกายที่เด่นชัดของทารก 1 เดือน ได้แก่

  • ถ้าดึงแขนลูกขณะนอน ทารกจะพยายามยกศีรษะตั้งตรงกับแนวหลัง
  • เมื่อนอนหงายจะพลิกตัวได้
  • ยังไม่สามารถพยุงศีรษะให้ตั้งตรงเองได้
  • ชอบเอากำปั้นเข้าปาก เมื่อแกะมือออกจะทำท่าเหมือนฉวยจับด้ามช้อน

เปิดประสบการณ์อย่างแรกด้วยดวงตาของทารก 1 เดือน

นักวิจัยและนักพัฒนาการเด็กมีความเชื่อว่า การจัดสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อพัฒนาการด้านสายตา จะช่วยให้ลูกตอบสนองได้ดีกว่าการปล่อยให้ลูกมองสิ่งต่างๆ เองตามธรรมชาติ เพราะจะช่วยให้การมองแบบไร้จุดหมายมีจุดหมายขึ้น อย่างเช่น โมบาย ภาพเคลื่อนไหว เสียงกระดิ่ง เป็นต้น

  • เด็กจะมองชัดเมื่อวัตถุเข้าใกล้ประมาณ 8-10 นิ้ว
  • มองตามแสงหรือใบหน้าคน
  • มองตามสิ่งของจากบนลงล่างและไปด้านข้างได้แล้ว นัยตา 2 ข้างเริ่มประสาน กัน

พัฒนาการปฎิกิริยาสะท้อนกลับของทารก 1 เดือน

ทารกวัย 1 เดือนมีปฎิกิริยาสะท้อนกลับไวขึ้น ก็จะมีการกระตุกน้อยลง เพราะสมองและเส้นประสาทต่างๆ เริ่มทำงานเป็นระบบควบคู่กับกล้ามเนื้อได้ดีขึ้น บวกกับลูกจะหายใจเป็นจังหวะมากขึ้น มีอาการสะดุ้ง ตกใจ ผวา ลดลง อาจจะสังเกตว่าเหลือแต่มือและเท้าที่กระตุกในบางครั้งเท่านั้น

พัฒนาการทางอารมณ์ จิตใจของทารก 1 เดือน และการส่งเสริมพัฒนาการตามวัย

ในเดือนแรกนี้ทารกมักจะหงุดต่อสิ่งเร้าที่เข้ามารบกวน ไม่ว่าจะเป็นการรบกวนจากสิ่งเร้าภายนอก หรือการบิดตัวของตนเองก็สามารถหงุดหงิดิได้เช่นกัน แต่เป็นช่วงที่ทารกกำลังเรียนรู้ที่จะปรับตัว ซึง่จะพบว่าทารกจะร้องไห้เก่งขึ้นและกินนมบ่อยขึ้นกว่าสัปดาห์แรก บางครั้งคุณก็จะเห็นลูกยิ้มน้อยๆ เหมือนกับอารมณ์ดีทักทายคนอื่นๆ แต่ว่าการยิ้มนี้มักจะเกิดขึ้นช่วงนอนหลับ และเกิดจากกล้ามเนื้อกระตุกยิ้มให้เท่านั้นเอง

สิ่งหนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่เป็นกังวลคือ การร้องไห้ ลูกมักจะร้องเพราะหิวนม เปียกชื้น หงุดหงิด และการร้องไห้มิใช่เรื่องของอารมณ์เพียงอย่างเดียว สิ่งสำคัญคือลูกต้องการสื่อสารให้เราทราบบางอย่างที่เขาต้องการ ซึ่งจะแสดงออกด้วยการร้องไห้นั่นเอง บางครั้งลูกจะร้องไห้ 4-5 ครั้ง นาน 20-30 นาทีต่อวัน ดังนั้นเมื่อลูกร้องไห้ คุณพ่อคุณแม่สามารถปรับอารมณ์ของลูกได้โดยการอุ้มปลอบโยน ปล่อยให้ลูกนอนเล่นเงียบๆ พูดคุยจ้องหน้า เพื่อให้ลูกรู้สึกผ่อนคลาย แล้วลูกก็มักจะผลอยหลับไปเอง

แม้ว่าลูกจะมีอายุได้แค่เดือนเดียวแต่เขาก็สามารถรับคลื่นความเครียดจากคุณพ่อคุณแม่ได้ ถ้าคุณแม่เริ่มเครียดเรื่องค่าใช้จ่าย คุณพ่อเครียดเรื่องงาน ลูกจะรับรู้ได้ทันทีและจะโยเยอย่างไม่มีเหตุผลบ่อยครั้ง แต่หากคุณพ่อคุณแม่เข้าหาลูกด้วยท่าทีอารมณ์ดี ลูกก็จะเป็นเด็กที่แจ่มใสโยเยน้อยกว่าด้วย

พัฒนาการทางอารมณ์ จิตใจที่เด่นชัดของทารก1 เดือน ได้แก่

  • ทำสีหน้าพอใจเมื่อสบาย และทำสีหน้าทางลบเมื่อรู้สึกเจ็บ
  • หากได้สบตาคุณพ่อคุณแม่หรือคนคุ้นเคย จะมีอารมณ์ดีขึ้น
  • เริ่มจำเสียงพ่อแม่ได้แล้ว
  • ปรับท่าทางตัวเองให้เหมาะกับการอุ้มของคุณพ่อคุณแม่

พัฒนาการทางภาษาของทารก 1 เดือน และการส่งเสริมพัฒนาการตามวัย

ภาษาและการสื่อสารของทารกวัย 1 เดือนยังเป็นการร้องไห้เพื่อเรียกร้องความต้องการของตนเอง คุณพ่อคุณแม่จะเริ่มเข้าใจลักษณะการร้องว่าลูกต้องการอะไร แต่เด็กยังไม่สามารถแยกแยะการกระทำต่างๆ ของตนเองและคุณพ่อคุณแม่ได้ แต่สิ่งพิเศษสุดคือเขาสามารถจดจำเสียงคุณพ่อคุณแม่และคนในครอบครัวได้แล้ว

พัฒนาการทางภาษาที่เด่นชัดของทารก 1 เดือน ได้แก่

  • โต้ตอบอือออบ้างเมื่อได้ยินเสียงคน
  • สนใจและตอบสนองของของเล่นที่มีสีสันสดใส
  • มองหาต้นกำเนิดเสียงที่ตนเองคุ้นเคย

พัฒนาการทางสังคมของทารกวัย 1 เดือน และการส่งเสริมพัฒนาการตามวัย

สังคมของทารกวัย 1 เดือนจะมีเพียงบรรยากาศรอบๆ ตัวและคุณพ่อคุณแม่เท่านั้น ซึ่งช่วงนี้เขาสามารถปรับตัวให้เข้ากับโลกภายนอกได้บ้างแล้ว และพร้อมเรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ๆ จะสังเกตได้ว่าลูกชอบมองหาสิ่งแปลกใหม่เสมอ และลูกจะเริ่มนอนน้อยลง จะชอบมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นๆ ชอบให้อุ้ม คุย กอด ทำให้อารมณ์ดีและมีรอยยิ้มอยู่เรื่อยๆ

พัฒนาการทางสมองของทารก 1 เดือน และการส่งเสริมพัฒนาการตามวัย 

พัฒนาการทางสมองของทารกวัย 1 เดือนจะเรียนรู้ได้อย่างเป็นขั้นตอน สมองและระบบประสาทกำลังเชื่อมต่อได้อย่างดีขึ้นเรื่อยๆ และรู้จักการปฏิบัติตัวกลับบ้างในบางครั้ง อย่างเช่น ขยับร่างกายให้แม่อุ้มได้ง่ายขึ้น เป็นต้น สิ่งสำคัญของการพัฒนาสมองคือการกระตุ้นจากสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะสายตาดังที่กล่าวไปแล้วในข้างต้น

พัฒนาการทารก 1 เดือน, พัฒนาการเด็ก อายุ 1 เดือน, พัฒนาการทารกแรกเกิด 1 เดือน, พัฒนาการของทารก, ทารกแรกเกิด มีพัฒนาการอย่างไร, ทารก 1 เดือน พัฒนาการทางร่างกาย, เด็ก 1 เดือน พัฒนาการทางสมอง, ทารก 1 เดือน พัฒนาการทางจิตใจ อารมณ์, การดูแลทารกแรกเกิด, ทารก 1 เดือน ทำอะไรได้บ้าง, เด็ก อายุ 1 เดือน เป็นยังไง, ทารก  1 เดือน ต้องดูแลยังไง

 

รีวิวนมกล่อง UHT 5 แบรนด์ เทียบพลังงานและสารอาหารข้างกล่องที่เหมาะสำหรับลูกวัยคิดส์

รีวิวนม-รีวิวนมกล่อง UHT-นมกล่อง UHT-นม S-26 Gold Stars-S-26 Gold Stars-สารอาหารในนม UHT-นม UHT สำหรับเด็ก-รีวิว นม S-26 Gold Stars-สารอาหารบำรุงสมอง-นมสำหรับเด็ก 1 ปี-แอล-ทริปโตเฟน-สฟิงโกไมอีลิน-Hi-Q1 Plus Super Gold PREBIO PROTEQ-Enfagrow A+ Superior 360° DHA+ MFGM PRO 3-Foremost Omega 3 6 9 Gold 1 Plus-การเลือกนมกล่อง UHT

 

รีวิวนมกล่อง UHT 5 แบรนด์ เทียบพลังงานและสารอาหารข้างกล่องที่เหมาะสำหรับลูกวัยคิดส์

การจะพัฒนาประสิทธิภาพสมองและสติปัญญาของลูก ไม่ใช่แค่การส่งเสริมการเล่นและเรียนรู้ตามวัยเท่านั้น แต่การกินและการนอนก็สำคัญกับช่วงวัยที่สมองของลูกกำลังเติบโตด้วยเช่นกัน

เพราะสมองของลูก ทำงานทั้งยามหลับยามตื่น นอกจากการกินอาหารให้ครบ 5 หมู่แล้ว การเลือกนมกล่อง UHT ที่มีสารอาหารบำรุงสมองก็ช่วยให้ลูกนอนหลับแบบมีคุณภาพและสมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นกัน 

รีวิวนมกล่อง UHT 5 แบรนด์ ที่เหมาะสำหรับลูกวัยคิดส์

S-26 Gold Stars

รีวิวนม-รีวิวนมกล่อง UHT-นมกล่อง UHT-นม S-26 Gold Stars-S-26 Gold Stars-สารอาหารในนม UHT-นม UHT สำหรับเด็ก-รีวิว นม S-26 Gold Stars-สารอาหารบำรุงสมอง-นมสำหรับเด็ก 1 ปี-แอล-ทริปโตเฟน-สฟิงโกไมอีลิน-Hi-Q1 Plus Super Gold PREBIO PROTEQ-Enfagrow A+ Superior 360° DHA+ MFGM PRO 3-Foremost Omega 3 6 9 Gold 1 Plus-การเลือกนมกล่อง UHT

S-26 Gold Stars ปริมาณ 180 มล. พลังงาน 130 กิโลแคลอรี มีแคลเซียม 20% เป็นนมกล่อง UHT รสจืดกลิ่นวานิลลาเหมาะสำหรับเด็กวัย 1 ปีขึ้นไป แต่ผู้ใหญ่ก็ดื่มได้ เป็นนมที่เหมาะกับทุกวัย มีสารอาหาร อย่าง แอล-ทริปโตเฟน 70 มก. ซึ่งเป็นกรดอะมิโนจำเป็นที่ร่างกายสร้างเองไม่ได้

มีสฟิงโกไมอีลิน 15 มก. เพิ่มขึ้น 50% เมื่อเทียบกับ S-26 Gold UHT ซึ่งสฟิงโกไมอีลินนี้เป็นไขมันจำเพาะและสารตั้งต้นในการสร้างเยื่อหุ้มเซลล์ประสาทในสมอง ช่วยนำข้อมูลจากเซลล์ประสาทหนึ่งไปยังเซลล์ประสาทอื่นอย่างรวดเร็ว หรือเรียกว่าเป็นสารที่ทำให้สมองทำงานอย่างรวดเร็วมีประสิทธิภาพนั่นเอง

นอกจากนี้ S-26 Gold Stars ยังมีดีเอชเอ 12 มก. เพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับ S-26 Gold UHT มีวิตามินบี12 ที่ช่วยในการทำงานตามปกติของระบบประสาทและสมอง มีแอลฟา-แล็คตัลบูมิน 224 มก. มีโอเมก้า 3 131 มก. โอเมก้า 6 842 มก. โอเมก้า 9 1,965 มก. มีลูทีน 34 มคก. และโคลีน 12 มก. ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนจำเป็นต่อการทำงานและการพัฒนาสมองของเด็ก

 

Hi-Q1 Plus Super Gold PREBIO PROTEQ

รีวิวนม-รีวิวนมกล่อง UHT-นมกล่อง UHT-นม S-26 Gold Stars-S-26 Gold Stars-สารอาหารในนม UHT-นม UHT สำหรับเด็ก-รีวิว นม S-26 Gold Stars-สารอาหารบำรุงสมอง-นมสำหรับเด็ก 1 ปี-แอล-ทริปโตเฟน-สฟิงโกไมอีลิน-Hi-Q1 Plus Super Gold PREBIO PROTEQ-Enfagrow A+ Superior 360° DHA+ MFGM PRO 3-Foremost Omega 3 6 9 Gold 1 Plus-การเลือกนมกล่อง UHT

Hi-Q 1 Plus Super Gold PREBIO PROTEQ ปริมาณ 180 มล. พลังงาน 130 กิโลแคลอรี แคลเซียม 30% นมกล่อง UHT สูตร 3 รสจืดสำหรับเด็กวัย 1 ปีขึ้นไป

มีวิตามินบี 12 35% ดีเอชเอ 27 มก. โอเมก้า 3 88 มก. โอเมก้า 6 423 มก. โอเมก้า 9 1,591 มก. มีโคลีน 12 มก. ทอรีน 15 มก. และใยอาหาร GOS / lcFOS 1,435 มก. ด้วยค่ะ

 

Enfagrow A+ Superior 360° DHA+ MFGM PRO 3

รีวิวนม-รีวิวนมกล่อง UHT-นมกล่อง UHT-นม S-26 Gold Stars-S-26 Gold Stars-สารอาหารในนม UHT-นม UHT สำหรับเด็ก-รีวิว นม S-26 Gold Stars-สารอาหารบำรุงสมอง-นมสำหรับเด็ก 1 ปี-แอล-ทริปโตเฟน-สฟิงโกไมอีลิน-Hi-Q1 Plus Super Gold PREBIO PROTEQ-Enfagrow A+ Superior 360° DHA+ MFGM PRO 3-Foremost Omega 3 6 9 Gold 1 Plus-การเลือกนมกล่อง UHT

Enfagrow A+ Superior 360° DHA+ MFGM PRO 3 ปริมาณ 180 มล. พลังงาน 140 กิโลแคลอรี นมกล่อง UHT สูตร 3 สำหรับเด็กวัย 1 ปีขึ้นไป และทุกคนในครอบครัว มีแคลเซียม 30% มีสารอาหารบำรุงสมองได้แก่ วิตามินบี 12 35 % สฟิงโกไมอีลิน 32 มก. ฟอสโฟลิปิด 167 มก. ดีเอชเอ 25 มก. โอเมก้า 3 40 มก. โอเมก้า 6 240 มก. โอเมก้า 9 900 มก. โคลีน 40 มก. ทอรีน 5.4 มก. และมี MFGM (Milk Fat Globule Membrane) ด้วยค่ะ 

Foremost Omega 3 6 9 Gold 1 Plus

รีวิวนม-รีวิวนมกล่อง UHT-นมกล่อง UHT-นม S-26 Gold Stars-S-26 Gold Stars-สารอาหารในนม UHT-นม UHT สำหรับเด็ก-รีวิว นม S-26 Gold Stars-สารอาหารบำรุงสมอง-นมสำหรับเด็ก 1 ปี-แอล-ทริปโตเฟน-สฟิงโกไมอีลิน-Hi-Q1 Plus Super Gold PREBIO PROTEQ-Enfagrow A+ Superior 360° DHA+ MFGM PRO 3-Foremost Omega 3 6 9 Gold 1 Plus-การเลือกนมกล่อง UHT

Foremost Omega 3 6 9 Gold 1 Plus ปริมาณ 180 มล. พลังงาน 100 กิโลแคลอรี เป็นนมรสจืดที่มีแคลเซียมสูงถึง 40% มี DHA 27 มก. เพิ่มขึ้น 12 เท่า เมื่อเทียบกับสูตรเดิม มีโอเมก้า 3 66 มก. โอเมก้า 6 277 มก. โอเมก้า 9 1,253 มก วิตามินบี 12 40% และมีสฟิงโกไมอีลิน 7 มก. มีฟอสโฟลิปิด 30 มก. มีโคลีน 15 มก. มีทอรีน 24 มก. และมี MFGM อีกด้วย

ดูเม็กซ์ ดูโกร

รีวิวนม-รีวิวนมกล่อง UHT-นมกล่อง UHT-นม S-26 Gold Stars-S-26 Gold Stars-สารอาหารในนม UHT-นม UHT สำหรับเด็ก-รีวิว นม S-26 Gold Stars-สารอาหารบำรุงสมอง-นมสำหรับเด็ก 1 ปี-แอล-ทริปโตเฟน-สฟิงโกไมอีลิน-Hi-Q1 Plus Super Gold PREBIO PROTEQ-Enfagrow A+ Superior 360° DHA+ MFGM PRO 3-Foremost Omega 3 6 9 Gold 1 Plus-การเลือกนมกล่อง UHT

ดูเม็กซ์ ดูโกร ปริมาณ 180 มล. พลังงาน 90 กิโลแคลอรี แคลเซียม 25% เป็นนมโคแท้รสจืด มีวิตามินบี 12 25% มีโอเมก้า 3 112 มก. โอเมก้า 6 536 มก. โอเมก้า 9 1,208 มก. มีโคลีน 21 มก. ทอรีน 21 มก. และมีส่วนผสมของผสมใยอาหาร ผสมผงผักผลไม้ วิตามินและเกลือแร่ด้วยค่ะ

 

5544 8

 

พ่อแม่หลายคนอาจเข้าใจว่านมกล่องไหนก็เหมือนกัน แต่ความจริงแล้วหลาย ๆ แบรนด์มีความต่างเรื่องของสารอาหารที่หลากหลายและสัดส่วนของสารอาหารแต่ละอย่างไม่เท่ากันอยู่ค่ะ ถ้าคุณแม่สังเกตจะเห็นสารอาหารชนิดหนึ่งที่น่าสนใจ นั่นคือ แอล-ทริปโตเฟน (L-Tryptophan) ในนมกล่อง S-26 Gold Stars ซึ่งแอล-ทริปโตเฟน (L-Tryptophan) เป็นกรดอะมิโนจำเป็นที่ร่างกายสร้างเองไม่ได้ ต้องได้รับจากการกินอาหารเท่านั้น พบในอาหารที่มีโปรตีน เช่น นม เนื้อสัตว์ ไข่ อาหารทะเล ธัญพืช ถั่วเหลือง ถั่วลิสง งา กล้วย สับปะรด กีวี แคนตาลูป เป็นต้น

เพราะฉะนั้นนอกจากให้ลูกกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม การเลือกนมกล่อง UHT ให้ลูกดื่มก็สำคัญมากเช่นกัน เพราะสารอาหารจากนมจะช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของร่างกาย ช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองให้มีประสิทธิภาพทั้งยามหลับและยามตื่นเลยละค่ะ

 

พื้นที่โฆษณาและประชาสัมพันธ์

รีวิวนมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 15 แบรนด์ 30 กล่อง นมกล่องยี่ห้อไหนดี

นม UHT, นมกล่อง UHT, รีวิวนมกล่อง UHT, นมยูเอชที, นมกล่องยูเอชที, นม UHT นมโค 100%, นม UHT นมปรุงแต่ง, นมถั่วเหลือง, uht ยี่ห้อ ไหน ดี, นม กล่อง เด็ก, นม กล่อง s26, นม กล่อง ตรา หมี, นม กล่อง ไฮ คิว, นม กล่อง สำหรับ เด็ก 1 ขวบ, นมกล่อง เอนฟา, นมกล่อง โฟร์โมสต์, นมกล่อง หนองโพ, นมกล่อง ไทยเดนมาร์ค, นมกล่อง ดัชมิลล์, นมกล่อง คาร์เนชั่น, นมกล่อง ไวตามิล, นมกล่อง สารอาหารสูง

นมกล่องเด็ก UHT ในท้องตลาดมีให้เลือกหลายแบรนด์ รักลูกหยิบนมกล่องยูเอชที (UHT) ชื่อคุ้นเคยที่หาซื้อได้ในร้านสะดวกซื้อและห้างสรรพสินค้า มา 30 กล่องจาก 15 แบรนด์ มาดูกันค่ะว่ามีนมกล่อง UHT แต่ละยี่ห้อที่สารอาหารอะไรบ้างที่เหมาะสมกับวัยของลูกเรา

รีวิวนมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 15 แบรนด์ 30 กล่อง นมกล่องยี่ห้อไหนดีแม่ต้องรู้ถึงสารอาหาร

หลังจากหย่านมแม่แล้ว พ่อแม่ควรให้ลูกดื่มนมเป็นอาหารเสริมเพื่อให้ลูกได้รับสารอาหารที่เพียงพอในแต่ละวัน นมกล่อง UHT เป็นทางเลือกอย่างหนึ่งที่ได้รับความนิยมจากพ่อแม่ เนื่องจาก หาซื้อได้ง่าย เก็บไว้ได้นาน สะดวกในการดื่ม มีหลากหลายรสชาติให้เลือก

รักลูกลองไปสำรวจร้านค้าและห้างสรรพสินค้าชั้นนำ พบว่ามีนมกล่อง UHT ให้เลือกหลากหลายแบรนด์ หลายรสชาติเลยทีเดียว จะมีแบรนด์ไหนบ้างไปดูกัน

นม UHT ประเภทนมปรุงแต่ง 

นมกล่องเด็ก UHT เป็นนมที่ได้จากการนำน้ำนมโค หรือนมโคชนิดนมผงมาผ่านกรรมวิธีการผลิตต่างๆ แล้วปรุงแต่งด้วยรสหรือกลิ่น หรืออาจเติมสารอาหารอื่น ๆ ที่ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพเข้าไป

 

1. นมกล่อง UHT เอส-26 โกลด์ ขนาด 180 มิลลิลิตร 

นม UHT-นมกล่อง UHT-รีวิวนมกล่อง UHT-นมยูเอชที-นมกล่องยูเอชที-นม UHT นมโค 100%-นม UHT นมปรุงแต่ง-นมถั่วเหลือง

นมกล่องสำหรับเด็ก 1 ขวบขึ้นไป สูตร 3 รสจืด สูตรเฉพาะที่มีสฟิงโกไมอีลินและ DHA เพิ่มขึ้น นมที่มีสารอาหาร สฟิงโกไมอีลิน, ดีเอชเอ,โอเมก้า 3, 6, 9, โคลีน และลูทีน ให้พลังงาน 120 กิโลแคลอรี น้ำตาล 13 กรัม ไขมัน 5 กรัม โซเดียม 55 มิลลิกรัม นมสูตร 3สำหรับเด็ก สารอาหารถูกใจแม่ หอมอร่อยถูกใจลูก ราคาแพ็คละ 68 บาท­­­­­­­­­

 

2. นมกล่องเด็ก UHT ผสมน้ำผึ้งแท้ ไม่เติมน้ำตาลทราย (นมยูเอชที ตราหมี โพรเท็กซ์ชัน) ขนาด 180 มิลลิลิตร 

5143 33

UHT ตราหมี รสน้ำผึ้ง ไม่เติมน้ำตาลทราย สูตร 3 เพิ่ม DHA และโอเมก้า3สามเท่า นมกล่องเด็ก เหมาะสำหรับเด็ก 1 ปีขึ้นไป และทุกคนในครอบครัว ให้พลังงาน 120 กิโลแคลอรี น้ำตาล 10 กรัม ไขมัน 6 กรัม โซเดียม 90 มิลลิกรัม ได้รับเครื่องหมาย เครื่องดื่มทางเลือกเพื่อสุขภาพ ราคา 15 บาท

 

3. นมกล่องเด็ก UHT รสจืด (ตราหมี โพรเท็กซ์ชัน) ขนาด 180 มิลลิลิตร

นม UHT เด็ก-นม กล่อง สำหรับ เด็ก-นม กล่อง สำหรับ เด็ก 1 ขวบ-นม UHT-นม กล่อง UHT-รี วิว นม กล่อง UHT-นมยูเอชที-นมกล่องยูเอชที-นม ตรา หมี-นม หมี UHT

UHT ตราหมี รสจืด สูตร 3 เพิ่ม DHA และโอเมก้า3สามเท่า นมกล่องสำหรับเด็ก 1 ขวบขึ้นไป และทุกคนในครอบครัว ให้พลังงาน 120 กิโลแคลอรี น้ำตาล 10 กรัม ไขมัน 6 กรัม โซเดียม 90 มิลลิกรัม ได้รับเครื่องหมาย เครื่องดื่มทางเลือกเพื่อสุขภาพ ราคา 15 บาท

 

4. นมกล่อง UHT ตราหมี ขนาด 180 มิลลิลิตร

นม UHT-นมกล่อง UHT-รีวิวนมกล่อง UHT-นมยูเอชที-นมกล่องยูเอชที-นม UHT นมโค 100%-นม UHT นมปรุงแต่ง-นมถั่วเหลือง

นมกล่อง UHT รสจืด หน้ากล่องระบุ แคลเซียมสูง 35% วิตามินดีสูง 30% ให้พลังงาน 80 กิโลแคลอรี น้ำตาล 7 กรัม ไขมัน 4 กรัม โซเดียม 85 มิลลิกรัม ได้รับเครื่องหมาย เครื่องดื่มทางเลือกเพื่อสุขภาพ ราคา10 บาท

 

5. นมกล่อง UHT ตราหมี เอ็นริช ฮันนี่ นิวตริสตรอง ขนาด 180 มิลลิลิตร

นม UHT-นมกล่อง UHT-รีวิวนมกล่อง UHT-นมยูเอชที-นมกล่องยูเอชที-นม UHT นมโค 100%-นม UHT นมปรุงแต่ง-นมถั่วเหลือง

นมกล่อง UHT สูตรผสมน้ำผึ้งแท้ หน้ากล่องระบุ แคลเซียมสูง ธาตุเหล็กสูง ให้พลังงาน 110 กิโลแคลอรี น้ำตาล 14 กรัม ไขมัน 4 กรัม โซเดียม 75 มิลลิกรัม ได้รับเครื่องหมาย เครื่องดื่มทางเลือกเพื่อสุขภาพ ราคา 13 บาท 

 

6. นมกล่อง UHT ตราหมี เอ็นริช มอลต์มิลค์ นิวตริสตรอง ขนาด 180 มิลลิลิตร 

นม UHT-นมกล่อง UHT-รีวิวนมกล่อง UHT-นมยูเอชที-นมกล่องยูเอชที-นม UHT นมโค 100%-นม UHT นมปรุงแต่ง-นมถั่วเหลือง

นมกล่อง UHT สูตรผสมมอลต์สกัด หน้ากล่องระบุ แคลเซียมสูง ธาตุเหล็กสูง ให้พลังงาน 130 กิโลแคลอรี น้ำตาล 14 กรัม ไขมัน 2.5 กรัม โซเดียม 60 มิลลิกรัม ได้รับเครื่องหมาย เครื่องดื่มทางเลือกเพื่อสุขภาพ ราคา 13 บาท

 

7. นมกล่อง UHT คาร์เนชัน สมาร์ทโก ขนาด 180 มิลลิลิตร 

นม UHT-นมกล่อง UHT-รีวิวนมกล่อง UHT-นมยูเอชที-นมกล่องยูเอชที-นม UHT นมโค 100%-นม UHT นมปรุงแต่ง-นมถั่วเหลืองนม UHT-นมกล่อง UHT-รีวิวนมกล่อง UHT-นมยูเอชที-นมกล่องยูเอชที-นม UHT นมโค 100%-นม UHT นมปรุงแต่ง-นมถั่วเหลือง-นมกล่องเด็ก-นม กล่อง uht ยี่ห้อไหนดี

นมกล่อง UHT รสจืด หน้ากล่องระบุ โอเมก้า369 แคลเซียมสูง วิตามินซีสูง วิตามินดีสูง ให้พลังงาน 90 กิโลแคลอรี น้ำตาล 11 กรัม ไขมัน 4 กรัม โซเดียม 50 มิลลิกรัม ได้รับเครื่องหมาย เครื่องดื่มทางเลือกเพื่อสุขภาพ ราคาแพ็คละ 39 บาท

 

8. นมกล่อง UHT ดูโกร ออล เอ็น วัน ขนาด 180 มิลลิลิตร

นม UHT-นมกล่อง UHT-รีวิวนมกล่อง UHT-นมยูเอชที-นมกล่องยูเอชที-นม UHT นมโค 100%-นม UHT นมปรุงแต่ง-นมถั่วเหลืองนม UHT-นมกล่อง UHT-รีวิวนมกล่อง UHT-นมยูเอชที-นมกล่องยูเอชที-นม UHT นมโค 100%-นม UHT นมปรุงแต่ง-นมถั่วเหลือง-นมกล่องเด็ก-นม กล่อง uht ยี่ห้อไหนดี

นมกล่อง UHT รสจืด หน้ากล่องระบุ นมโคแท้ วิตามินบี 12 โอเมก้า369 ผสมใยอาหาร ผสมผงผักผลไม้ วิตามินและเกลือแร่ พลังงาน 90 กิโลแคลอรี น้ำตาล 8 กรัม ไขมัน 4 กรัม โซเดียม 40 มิลลิกรัม ราคาแพ็คละ 47 บาท

 

9. นมกล่อง UHT เอนฟาโกร เอพลัส 4 ขนาด 180 มิลลิลิตร

นม UHT-นมกล่อง UHT-รีวิวนมกล่อง UHT-นมยูเอชที-นมกล่องยูเอชที-นม UHT นมโค 100%-นม UHT นมปรุงแต่ง-นมถั่วเหลืองนม UHT-นมกล่อง UHT-รีวิวนมกล่อง UHT-นมยูเอชที-นมกล่องยูเอชที-นม UHT นมโค 100%-นม UHT นมปรุงแต่ง-นมถั่วเหลือง-นมกล่องเด็ก-นม กล่อง uht ยี่ห้อไหนดี

นมกล่อง UHT สูตร 4 รสจืด หน้ากล่องระบุ DHA 8 มก.มีโคลีน ไอโอดีน แคลเซียม โอเมก้า369 ARA 12.6 มก. วิตามินบี 12 วิตามิน A C D สูง ให้พลังงาน 120 กิโลแคลอรี น้ำตาล 10 กรัม ไขมัน 6 กรัม โซเดียม 40 มิลลิกรัม ราคาแพ็คละ 57 บาท

 

10. นมกล่อง UHT เอนฟาโกร เอพลัส ซุพีเรียร์ ขนาด 180 มิลลิลิตร

นม UHT-นมกล่อง UHT-รีวิวนมกล่อง UHT-นมยูเอชที-นมกล่องยูเอชที-นม UHT นมโค 100%-นม UHT นมปรุงแต่ง-นมถั่วเหลืองนม UHT-นมกล่อง UHT-รีวิวนมกล่อง UHT-นมยูเอชที-นมกล่องยูเอชที-นม UHT นมโค 100%-นม UHT นมปรุงแต่ง-นมถั่วเหลือง-นมกล่องเด็ก-นม กล่อง uht ยี่ห้อไหนดี

นมกล่อง UHT สูตร 3 รสจืด หน้ากล่องระบุ DHA 25 มก. ให้พลังงาน 140 กิโลแคลอรี น้ำตาล 11 กรัม ไขมัน 6 กรัม โซเดียม 60 มิลลิกรัม ราคาแพ็คละ 72 บาท

 

11. นมกล่อง UHT  โฟร์โมสต์ โอเมก้า 3,6,9 ขนาด 180 มิลลิลิตร

นม UHT-นมกล่อง UHT-รีวิวนมกล่อง UHT-นมยูเอชที-นมกล่องยูเอชที-นม UHT นมโค 100%-นม UHT นมปรุงแต่ง-นมถั่วเหลืองนม UHT-นมกล่อง UHT-รีวิวนมกล่อง UHT-นมยูเอชที-นมกล่องยูเอชที-นม UHT นมโค 100%-นม UHT นมปรุงแต่ง-นมถั่วเหลือง-นมกล่องเด็ก-นม กล่อง uht ยี่ห้อไหนดี

นมกล่อง UHT รสจืด หน้ากล่องระบุ DHA 50% เท่า มีโอเมก้า 3 2 เท่า โอเมก้า6 9 แคลเซียม วิตามินบี 1 2 6 12 ไอโอดีน ให้พลังงาน 100 กิโลแคลอรี น้ำตาล 9 กรัม ไขมัน 5 กรัม โซเดียม 75 มิลลิกรัม ได้รับเครื่องหมาย เครื่องดื่มทางเลือกเพื่อสุขภาพ ราคาแพ็คละ 40 บาท

 

12. นมกล่อง UHT  โฟร์โมสต์ โอเมก้า 3,6,9 โกลด์ ขนาด 180 มิลลิลิตร

นม UHT-นมกล่อง UHT-รีวิวนมกล่อง UHT-นมยูเอชที-นมกล่องยูเอชที-นม UHT นมโค 100%-นม UHT นมปรุงแต่ง-นมถั่วเหลืองนม UHT-นมกล่อง UHT-รีวิวนมกล่อง UHT-นมยูเอชที-นมกล่องยูเอชที-นม UHT นมโค 100%-นม UHT นมปรุงแต่ง-นมถั่วเหลือง-นมกล่องเด็ก-นม กล่อง uht ยี่ห้อไหนดี

นมกล่อง UHT รสจืด หน้ากล่องระบุ DHA 12 เท่า มีโอเมก้า 369วิตามินบี 12 วิตามินA C แคลเซียม โฟเลต ให้พลังงาน 100 กิโลแคลอรี น้ำตาล 9 กรัม ไขมัน 5 กรัม โซเดียม 75 มิลลิกรัม ราคาแพ็คละ 38 บาท

 

13. นมกล่อง UHT โฟร์โมสต์ รสหวาน ขนาด 225 มิลลิลิตร

นม UHT-นมกล่อง UHT-รีวิวนมกล่อง UHT-นมยูเอชที-นมกล่องยูเอชที-นม UHT นมโค 100%-นม UHT นมปรุงแต่ง-นมถั่วเหลืองนม UHT-นมกล่อง UHT-รีวิวนมกล่อง UHT-นมยูเอชที-นมกล่องยูเอชที-นม UHT นมโค 100%-นม UHT นมปรุงแต่ง-นมถั่วเหลือง-นมกล่องเด็ก-นม กล่อง uht ยี่ห้อไหนดี

นมกล่อง UHT รสหวาน หน้ากล่องระบุ มีแคลเซียมสูง วิตามินบี 2 4 เท่า วิตามินบี 12 สูง 15 วิตามินแร่ธาตุ มีโอเมก้า3,6,9 ให้พลังงาน 160 กิโลแคลอรี น้ำตาล 20 กรัม ไขมัน 6 กรัม โซเดียม 105 มิลลิกรัม ราคา 12 บาท

 

14. นมกล่อง UHT เจ็นไอ วีคิวพลัส ขนาด 180 มิลลิลิตร (GEN i Vi-Q+)

นม UHT-นมกล่อง UHT-รีวิวนมกล่อง UHT-นมยูเอชที-นมกล่องยูเอชที-นม UHT นมโค 100%-นม UHT นมปรุงแต่ง-นมถั่วเหลือง

นมกล่อง UHT รสจืด หน้ากล่องระบุ ผงกีวี่สกัด วิตามินเอสูง มีโอเมก้า369 วิตามินบี 12 สูง มีไอโอดีน  แคลเซียมสูง ฟอสฟอรัสสูง วิตามินบี 2 สูง วิตามินบี 12 สูง ไอโอดีนสูง ให้พลังงาน 90 กิโลแคลอรี น้ำตาล 8 กรัม ไขมัน 4กรัม โซเดียม 70 มิลลิกรัม ได้รับเครื่องหมาย เครื่องดื่มทางเลือกเพื่อสุขภาพ ราคาแพ็คละ 38 บาท

 

15. นมกล่อง UHT ไฮคิว วันพลัส พรีไบโอ โพรเทก ขนาด 180 มิลลิลิตร

นม UHT-นมกล่อง UHT-รีวิวนมกล่อง UHT-นมยูเอชที-นมกล่องยูเอชที-นม UHT นมโค 100%-นม UHT นมปรุงแต่ง-นมถั่วเหลือง

นมกล่อง UHT สูตร 3 รสจืด หน้ากล่องระบุ มี วิตามินบี 12 มี DHA 8 mg มีโอเมก้า 369 ให้พลังงาน 120 กิโลแคลอรี น้ำตาล 2 กรัม ไขมัน 6 กรัม โซเดียม 55 มิลลิกรัม ราคาแพ็คละ 75 บาท 

 

16. นมกล่อง UHT ไฮคิว วันพลัส ซูเปอร์โกลด์ พรีไบโอ โพรเทก ขนาด 180 มิลลิลิตร

นม UHT-นมกล่อง UHT-รีวิวนมกล่อง UHT-นมยูเอชที-นมกล่องยูเอชที-นม UHT นมโค 100%-นม UHT นมปรุงแต่ง-นมถั่วเหลือง

นมกล่อง UHT สูตร 3 รสจืด หน้ากล่องระบุ มี DHA 27 mg มี GOS/lcFOS 1,435 mg ให้พลังงาน 130 กิโลแคลอรี น้ำตาล 9 กรัม ไขมัน 6 กรัม โซเดียม 75 มิลลิกรัม ราคาแพ็คละ 75 บาท 

 

17. นมกล่อง UHT หนองโพ รสหวาน ขนาด 225 มิลลิลิตร

นม UHT-นมกล่อง UHT-รีวิวนมกล่อง UHT-นมยูเอชที-นมกล่องยูเอชที-นม UHT นมโค 100%-นม UHT นมปรุงแต่ง-นมถั่วเหลือง

นมกล่อง UHT รสหวาน หน้ากล่องระบุ แคลเซียมสูง วิตามินบี 2 สูง วิตามินบี 12 สูง ฟอสฟอรัสสูง มีโปรตีน ให้พลังงาน 180 กิโลแคลอรี น้ำตาล 20 กรัม ไขมัน 8 กรัม โซเดียม 90 มิลลิกรัม ราคา 10 บาท

 

18. กล่อง UHT โอวัลติน สมาร์ท ขนาด 170 มิลลิลิตร 

 5143 23

นมกล่อง UHT รสไวท์มอลต์วานิลลา หน้ากล่องระบุ DHA 4.6 มก.บี 12 โอเมก้า369 GABA ให้พลังงาน 110 กิโลแคลอรี น้ำตาล 15 กรัม ไขมัน 2.5 กรัม โซเดียม 75 มิลลิกรัม ราคาแพ็คละ 44 บาท

  

19. นมกล่อง UHT ไทย-เดนมาร์ค รสหวาน ขนาด 200 มิลลิลิตร 

นม UHT-นมกล่อง UHT-รีวิวนมกล่อง UHT-นมยูเอชที-นมกล่องยูเอชที-นม UHT นมโค 100%-นม UHT นมปรุงแต่ง-นมถั่วเหลือง

นมกล่อง UHT รสหวาน หน้ากล่องระบุ ไม่ผสมนมผง แคลเซียมธรรมชาติสูง ให้พลังงาน 150 กิโลแคลอรี น้ำตาล 12 กรัม ไขมัน 7 กรัม โซเดียม 80 มิลลิกรัม ราคา 11 บาท

 

นมกล่อง UHT ประเภทนมโค 100%

นมโคแท้คือนมเต็มมันเนยที่ผ่านกรรมวิธีฆ่าเชื้อ สารอาหารที่ได้มาจากนมโคทั้งหมดไม่มีการปรุงแต่งกลิ่น รส หรือสารอาหารอื่นๆ เพิ่มเติม 

20. นมกล่อง UHT ไทย-เดนมาร์ค ขนาด 200 มิลลิลิตร

นม UHT, นมกล่อง UHT, รีวิวนมกล่อง UHT, นมยูเอชที, นมกล่องยูเอชที, นม UHT นมโค 100%, นม UHT นมปรุงแต่ง, นมถั่วเหลือง, uht ยี่ห้อ ไหน ดี, นม กล่อง เด็ก, นม กล่อง s26, นม กล่อง ตรา หมี, นม กล่อง ไฮ คิว, นม กล่อง สำหรับ เด็ก 1 ขวบ, นมกล่อง เอนฟา, นมกล่อง โฟร์โมสต์, นมกล่อง หนองโพ, นมกล่อง ไทยเดนมาร์ค, นมกล่อง ดัชมิลล์, นมกล่อง คาร์เนชั่น, นมกล่อง ไวตามิล, นมกล่อง สารอาหารสูง

เป็นนมโคแท้ UHT รสจืด หน้ากล่องระบุ ไม่ผสมนมผง และมีแคลเซียมธรรมชาติสูง ให้พลังงาน 130 กิโลแคลอรี น้ำตาล 9 กรัม ไขมัน 7กรัม โซเดียม 70 มิลลิกรัม ราคา 11 บาท

 

21. นมกล่อง UHT หนองโพ ขนาด 225 มิลลิลิตร

นม UHT-นมกล่อง UHT-รีวิวนมกล่อง UHT-นมยูเอชที-นมกล่องยูเอชที-นมกล่องเด็ก-นม กล่อง uht ยี่ห้อไหนดี

เป็นนมโคแท้ UHT รสจืด หน้ากล่องระบุ มีแคลเซียมสูง วิตามินบี 2 สูง วิตามินบี 12 สูง ฟอสฟอรัสสูง มีโปรตีน ให้พลังงาน 140 กิโลแคลอรี น้ำตาล 9 กรัม ไขมัน 8กรัม โซเดียม 95 มิลลิกรัม ราคา 10 บาท

 

22. นมกล่อง UHT โฟร์โมสต์ ขนาด 225 มิลลิลิตร 

นม UHT-นมกล่อง UHT-รีวิวนมกล่อง UHT-นมยูเอชที-นมกล่องยูเอชที-นม UHT นมโค 100%-นม UHT นมปรุงแต่ง-นมถั่วเหลือง-นมกล่องเด็ก-นม กล่อง uht ยี่ห้อไหนดี

เป็นนมโคแท้ UHT รสจืด หน้ากล่องระบุเป็นนมโคแท้ 100% แคลเซียมสูง วิตามินบี 2 สูง วิตามินบี 12 สูง วิตามินบี 5 สูง มีโปรตีนจากธรรมชาติ ให้พลังงาน 150 กิโลแคลอรี น้ำตาล 10 กรัม ไขมัน 9กรัม โซเดียม 90 มิลลิกรัม ได้รับเครื่องหมาย เครื่องดื่มทางเลือกเพื่อสุขภาพ ราคา 12 บาท

 

23. นมกล่อง UHT ดัชมิลล์ ซีเล็คเต็ด ขนาด 225 มิลลิลิตร

นม UHT-นมกล่อง UHT-รีวิวนมกล่อง UHT-นมยูเอชที-นมกล่องยูเอชที-นม UHT นมโค 100%-นม UHT นมปรุงแต่ง-นมถั่วเหลืองนม UHT-นมกล่อง UHT-รีวิวนมกล่อง UHT-นมยูเอชที-นมกล่องยูเอชที-นม UHT นมโค 100%-นม UHT นมปรุงแต่ง-นมถั่วเหลือง-นมกล่องเด็ก-นม กล่อง uht ยี่ห้อไหนดี

เป็นนมโคแท้ UHT หน้ากล่องระบุ นมโคแท้ 100%แคลเซียมสูง ฟอสฟอรัสสูง วิตามินบี 2 สูง วิตามินบี 12 สูง ไอโอดีนสูง ให้พลังงาน 140 กิโลแคลอรี น้ำตาล 10 กรัม ไขมัน 8 กรัม โซเดียม 95 มิลลิกรัม ได้รับเครื่องหมาย เครื่องดื่มทางเลือกเพื่อสุขภาพ ราคา 12 บาท

 

24. นมกล่อง UHT จิตรลดา ขนาด 200 มิลลิลิตร

นม UHT-นมกล่อง UHT-รีวิวนมกล่อง UHT-นมยูเอชที-นมกล่องยูเอชที-นม UHT นมโค 100%-นม UHT นมปรุงแต่ง-นมถั่วเหลืองนม UHT-นมกล่อง UHT-รีวิวนมกล่อง UHT-นมยูเอชที-นมกล่องยูเอชที-นม UHT นมโค 100%-นม UHT นมปรุงแต่ง-นมถั่วเหลือง-นมกล่องเด็ก-นม กล่อง uht ยี่ห้อไหนดี

นมกล่อง UHT รสจืด หน้ากล่องระบุ นมโคแท้ 100% แคลเซียมสูง วิตามินบี 2 สูง วิตามินบี 12 สูง วิตามินบี 5 สูง มีโปรตีนจากธรรมชาติ ให้พลังงาน 130 กิโลแคลอรี น้ำตาล 7 กรัม ไขมัน 8กรัม โซเดียม 95 มิลลิกรัม ราคาแพ็คละ 44 บาท

 

นมกล่อง UHT นมถั่วเหลือง

เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพโดยการนำเมล็ดถั่วเหลืองไปผ่านกรรมวิธีต่าง ๆ เพื่อกลั่นออกมาเป็นเครื่องดื่ม ที่มีคุณค่าทางโภชนาการต่าง ๆ มากมาย ซึ่งนมถั่วเหลือง UHT นับเป็นผลิตภัณฑ์ทางเลือกที่ได้รับความสนใจจากครอบครัวที่มีปัญหาแพ้โปรตีนนมวัว หรือมีปัญหาการย่อยน้ำตาลแลคโตสได้อย่างดี 

25. นมกล่อง UHT แลคตาซอย ขนาด 300 มิลลิลิตร 

นม UHT-นมกล่อง UHT-รีวิวนมกล่อง UHT-นมยูเอชที-นมกล่องยูเอชที-นม UHT นมโค 100%-นม UHT นมปรุงแต่ง-นมถั่วเหลือง

นมถั่วเหลือง UHT รสหวาน หน้ากล่องระบุ มีกรดอะมิโน 9 ชนิด ให้พลังงาน 220 กิโลแคลอรี น้ำตาล 22 กรัม ไขมัน 10 กรัม โซเดียม 150 มิลลิกรัม ได้รับเครื่องหมาย ราคา 10 บาท 

 

26. นมกล่อง UHT แลคตาซอย สูตรไม่หวาน ขนาด 300 มิลลิลิตร 

นม UHT-นมกล่อง UHT-รีวิวนมกล่อง UHT-นมยูเอชที-นมกล่องยูเอชที-นม UHT นมโค 100%-นม UHT นมปรุงแต่ง-นมถั่วเหลือง

นมถั่วเหลือง UHT สูตรไม่หวาน หน้ากล่องระบุ มีกรดอะมิโน 9 ชนิด ให้พลังงาน 140 กิโลแคลอรี น้ำตาล 2 กรัม ไขมัน 9 กรัม โซเดียม 125 มิลลิกรัม ได้รับเครื่องหมาย เครื่องดื่มทางเลือกเพื่อสุขภาพ ราคา 10 บาท 

 

27. นมกล่อง UHT ซังซัง ขนาด 300 มิลลิลิตร

นม UHT-นมกล่อง UHT-รีวิวนมกล่อง UHT-นมยูเอชที-นมกล่องยูเอชที-นม UHT นมโค 100%-นม UHT นมปรุงแต่ง-นมถั่วเหลือง

นมถั่วเหลือง UHT สูตรหวานน้อย หน้ากล่องระบุ มีโปรตีน มีกรดอะมิโน 9 ชนิด ให้พลังงาน 150 กิโลแคลอรี น้ำตาล 8 กรัม ไขมัน 8 กรัม โซเดียม 100 มิลลิกรัม ได้รับเครื่องหมาย เครื่องดื่มทางเลือกเพื่อสุขภาพ ราคา 10 บาท

 

28. นมกล่อง UHT ไวตามิลค์ ขนาด 250 มิลลิลิตร

นม UHT-นมกล่อง UHT-รีวิวนมกล่อง UHT-นมยูเอชที-นมกล่องยูเอชที-นม UHT นมโค 100%-นม UHT นมปรุงแต่ง-นมถั่วเหลือง

นมถั่วเหลือง UHT สูตรออริจินัล หน้ากล่องระบุ มีโปรตีน โอเมก้า 3,6,9 ให้พลังงาน 190 กิโลแคลอรีน้ำตาล 17 กรัม ไขมัน 9 กรัม โซเดียม 65 มิลลิกรัม ราคา 10 บาท 

 

29. นมกล่อง UHT ไวตามิ้ลค์ สูตรน้ำตาลน้อย ขนาด 300 มิลลิลิตร 

นม UHT-นมกล่อง UHT-รีวิวนมกล่อง UHT-นมยูเอชที-นมกล่องยูเอชที-นม UHT นมโค 100%-นม UHT นมปรุงแต่ง-นมถั่วเหลือง

นมถั่วเหลือง UHT สูตรน้ำตาลน้อยลง 45% หน้ากล่องระบุ มีโปรตีน9 กรัมมีโอเมก้า369 ให้พลังงาน 220 กิโลแคลอรี น้ำตาล 14 กรัม ไขมัน 11 กรัม โซเดียม 115 มิลลิกรัม ราคา 10 บาท 

 

30. นมกล่อง UHT ไวตามิ้ลค์ แชมป์ ขนาด 180 มิลลิลิตร 

นม UHT-นมกล่อง UHT-รีวิวนมกล่อง UHT-นมยูเอชที-นมกล่องยูเอชที-นม UHT นมโค 100%-นม UHT นมปรุงแต่ง-นมถั่วเหลือง

นมถั่วเหลือง UHT รสจืด สูตรปราศจากน้ำตาลแลคโตส หน้ากล่องระบุ มีแคลเซียม โปรตีน โคลีน ใยอาหาร วิตามินบี 12 และโอเมก้า 3,6, 9 ให้พลังงาน 100 กิโลแคลอรี น้ำตาล 1 กรัม ไขมัน 4 กรัม โซเดียม 55 มิลลิกรัม ได้รับเครื่องหมาย เครื่องดื่มทางเลือกเพื่อสุขภาพ ราคาแพ็คละ 45 บาท 

 

Play Golden Pokies and enjoy the most popular features of other casino games with a first deposit bonus worth up to $1,000. We've compiled a wealth of games that come in different styles and types, including Slots, Video Poker, Roulette, Blackjack, Live Dealer Games, Baccarat and more.

ลูกสูญเสียอะไรไปบ้าง จากการสอบ

การสอบ-การสอบเข้าเรียนต่อ-การสอบเข้า ป.1-การสอบเข้า ม. 1-การสอบเข้ามหาวิทยาลัย-การสอบ O-Net-เด็ก 64-DEK64-ลูกเสียอะไรไปจากการสอบ-การเลือกโรงเรียน-ข่าวการศึกษา

ลูกสูญเสียอะไรไปบ้าง จากการสอบ

สถานการณ์การสอบในบ้านเราเริ่มน่ากลัวขึ้นทุกที แม้บางโรงเรียนจะยกเลิกการสอบเข้า ป. 1 แล้ว แต่ในระดับมัธยมศึกษาและอุดมศึกษายังคงดุเดือดมากขึ้นทุกปี

พ่อแม่หลายคนอาจจะคิดว่าการเลือกโรงเรียนดีๆ มหาวิทยาลัยดีๆ คณะดีๆ คือสิ่งที่จะนำความสำเร็จมาสู่ลูก แต่ว่าการแข่งขันที่มากเกินไป การเร่งเรียนก่อนวัยอันควร และความกดดันจากพ่อแม่จากการสอบเข้าเรียนต่อของลูก ก็ทำให้ลูกพลาดโอกาสดีๆ หลายอย่างในชีวิตได้เช่นกัน 

ลูกสูญเสียอะไรไปบ้าง จากการสอบ

การสอบทำให้ลูกสูญเสียโอกาสในการเล่น เด็กที่ทุ่มเทกับการสอบ ถูกเร่งให้เรียนมักไม่มีโอกาสได้เล่นอิสระ รวมถึงการเล่นต่างๆ ที่เพิ่มทักษะชีวิตให้ลูก

การสอบทำให้ลูกสูญเสียโอกาสในการค้นหาตัวเอง เมื่อต้องอ่านหนังสือตลอดเวลา วันหยุดยังต้องไปเรียนพิเศษ ทำให้ลูกขาดโอกาสในการทำกิจกรรมอื่นที่ชอบ ลูกกลับต้องไปติวหนังสือเพื่อสอบเข้าเรียนต่อ

การสอบทำให้ลูกสูญเสียเพื่อนสนิทไป ลูกอาจจะมีเพื่อนจากที่เรียนพิเศษ แต่ต่างคนต่างทำแบบฝึกหัด ไม่ได้เล่นสนุก แต่ในแง่ความสัมพันธ์ลูกอาจไม่ได้เพื่อนที่จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ไปพร้อมกับเขา และอาจทำให้ขาดทักษะในการเข้าสังคมด้วย

การสอบทำให้ลูกสูญเสียโอกาสในการพัฒนาตนเอง เด็กที่เคร่งเครียดกับการสอบ ต้องท่องหนังสือ เรียนพิเศษตลอดเวลา โดยเฉพาะเด็กที่ถูกบังคับให้แข่งขันตั้งแต่ยังเล็ก จะเกิดความเครียด ส่งผลให้เซลล์สมองถูกทำลายได้

การสอบทำให้ลูกเสี่ยงกับความเจ็บป่วย เพราะความเครียดจากการแข่งขัน ความกดดันจาครอบครัว สังคมรอบข้าง จากความความคาดหวังกับพ่อแม่ เหล่านี้อาจนำมาซึ่งโรคซึมเศร้า โรควิตกกังวล กลายเป็นปัญหาในเด็กและวัยรุ่นเรื้อรังต่อไป

 

สุดท้ายแล้วอยากบอกพ่อแม่ว่า การสอบไม่ใช่ที่สุดของชีวิต อย่าให้การสอบและการเร่งเรียนมาบั่นทอนจิตใจและทำลายตัวตนของลูกค่ะ คุณค่าของลูกไม่ได้อยู่ที่สอบติดโรงเรียนดัง หรือมหาวิทยาลัยรัฐ แต่คุณค่าของลูกเกิดจากการนับถือตัวเอง เคารพตัวเอง และใช้ชีวิตอย่างมีความสุขตามแนวทางที่เขาเลือกค่ะ

 

เลือกนมกล่องสำหรับเด็ก 1 ขวบยังไงดี นมกล่องเด็กยี่ห้อไหนดีกับลูกที่สุด

นมกล่อง, นม กล่อง เด็ก 1 ขวบ, นมกล่อง uht, นมกล่องยูเอชที เด็ก, เด็ก 1 ขวบกินนมกล่องได้ไหม, เด็ก 1 ขวบกินนม uht ยู เอช ที ได้ไหม, นม uht ยี่ห้อไหนดี, วิธีเลือกนม กล่อง uht เด็ก, เด็กกินนมกล่องได้ตอนกี่ขวบ, ลูก 1 ขวบกินนมกล่อง uht ได้ไหม, นมกล่อง เด็ก ท้องไม่ผูก, นม กล่อง uht เด็ก สูตรไหนดี, สารอาหาร นม uht

เด็ก 1 ขวบสามารถดื่มนมกล่อง UHT ได้แล้วค่ะ เพราะนมจะเป็นอาหารเสริมในทุก ๆ วัน วิธีเลือกนมกล่องเด็ก UHTนมสำหรับเด็ก 1 ขวบ ยี่ห้อไหนดี คุณแม่ควรมีหลักการในการพิจารณาตามนี้

เด็ก 1 ขวบกินนม UHT ได้ไหม

เด็กอายุ 1 ขวบสามารถเริ่มดื่มนมกล่อง UHT ได้แล้วค่ะ เพราะช่วงวัยนี้เขาจะกินอาหารหลัก 3 มื้อแล้ว นมจะเป็นอาหารเสริมและขาดไม่ได้ เพราะเขาจะได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วนมากขึ้นจากนม UHT แม้ร่างกายเด็กจะต้องการสารอาหารหรือแร่ธาตุบางชนิดในปริมาณเพียงเล็กน้อย แต่ก็ขาดไม่ได้ เพื่อทำให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการทำงานของสมองและระบบประสาท รวมทั้งระบบภูมิคุ้มกันด้วย ดังนั้น นมสำหรับเด็ก 1 ขวบก็สำคัญมากนะคะ

นมกล่อง UHT ยี่ห้อไหนดี

วิธีเลือกนมกล่องเด็ก UHT สำหรับเด็กว่ายี่ห้อไหนดีที่สุดคงตอบยากมากค่ะ เพราะนมสำหรับเด็ก 1 ขวบแต่ละแบรนด์จะมีสารอาหารทั้งคล้ายและต่างกัน รวมถึงปริมาณของสารอาหารด้วย แต่ก่อนเลือกนมกล่องเด็ก UHT สำหรับลูก คุณแม่ต้องเข้าใจก่อนว่า ลูกอยู่ในวัยที่ร่างกายกำลังพัฒนาแบบก้าวกระโดด ทั้งร่างกาย สมอง และ อารมณ์ ดังนั้นสารอาหารในนมกล่องเด็ก UHT จึงต้องช่วยเสริมสร้างสิ่งเหล่านี้ เช่น ลูกวัย 1-5 ขวบ

  • กำลังพัฒนากล้ามเนื้อ การเคลื่อนไหว - นมกล่องเด็ก UHT ควรจะมีโปรตีนคุณภาพเหมาะสมสำหรับเด็ก
  • กระดูกกำลังพัฒนา - นมกล่องเด็ก UHT ควรจะมีแคลเซียมในปริมาณที่เพียงพอในแต่ละวัน
  • สมองกำลังสร้างเซลล์ประสาท นมกล่องเด็ก UHT ควรจะมีสารอาหารช่วยในการทำงานของสมอง เช่น DHA, โอเมก้า 3 6 9, วิตามินบี 12, โคลีน เป็นต้น

สำหรับข้อมูลข้างต้น เป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้นนะคะ คุณแม่ที่กำลังมองหานมกล่องเด็ก UHT และกำลังจะตัดสินใจเลือกนมสำหรับเด็ก 1 ขวบให้กับลูก นอกจากจะต้องพิจารณาจากหลาย ๆ ปัจจัยแล้ว คุณแม่ควรดูในเรื่องของสารอาหารต่าง ๆ ในนมกล่องสำหรับเด็ก 1 ขวบ ด้วยนะคะ ว่าสารอาหารที่เหมาะกับลูก มีอะไรที่จำเป็นและดีกับลูกบ้าง หากลูกมีอาการท้องผูกบ่อย แนะนำให้เลือก นมกล่องเด็ก UHT ที่มีส่วนช่วยป้องกันท้องผูกและมีใยอาหารสูง เป็นต้น

นมวัว 100% แตกต่างกับนมกล่องสำหรับเด็กอย่างไร?

เมื่อต้องเริ่มนมเสริมสำหรับเด็กวัย 1 ขวบอาจเริ่มเปรียบเทียบประเภทนมเสริม โดยเฉพาะเรื่องสารอาหารสำคัญมากขึ้นค่ะ อย่างปัจจุบันก็จะมีนม 2 ประเภทที่คุณแม่กำลังหาข้อมูลอยู่ คือ นมกล่องสำหรับเด็กประเภท Fortified Milk ที่เติมสารอาหารจำเป็น และ นมโค 100% (แบบไม่เติมสารอาหาร) เราลองมากันหน่อยค่ะว่า นมกล่องสำหรับเด็กทั้ง 2 ประเภทมีสารอาหารต่างกันยังไง

นมกล่องยูเอชทีสำหรับเด็ก ให้สารอาหารที่เหมาะกับเด็กมากกว่านมโค 100% ที่มีแค่แคลเซียม, ธาตุเหล็ก และวิตามินบี 1 บี 2 แต่ในขณะที่เด็กในวัย 1 ปี ต้องการสารอาหารที่มากกว่านั้น ไม่ว่าจะเป็นโอเมก้า 369 กรดโฟลิค และวิตามินต่าง ๆ เพื่อการเจริญเติบโตที่สมวัย ตามตารางด้านล่างนี้

นมกล่อง, นม กล่อง เด็ก 1 ขวบ, นมกล่อง uht, นมกล่องยูเอชที เด็ก, เด็ก 1 ขวบกินนมกล่องได้ไหม, เด็ก 1 ขวบกินนม uht ยู เอช ที ได้ไหม, นม uht ยี่ห้อไหนดี, วิธีเลือกนม กล่อง uht เด็ก, เด็กกินนมกล่องได้ตอนกี่ขวบ, ลูก 1 ขวบกินนมกล่อง uht ได้ไหม, นมกล่อง เด็ก ท้องไม่ผูก, นม กล่อง uht เด็ก สูตรไหนดี, สารอาหาร นม uht

ดังนั้น เพื่อให้ลูกวัย 1 ขวบเริ่มดื่มนม UHT ที่ได้รับสารอาหารครบถ้วน เหมาะสมกับพัฒนาการรอบด้าน คุณแม่จึงต้องมั่นใจว่าเลือกนมกล่องสำหรับเด็กที่มีสารอาหารสำคัญครบถ้วนเช่นกันค่ะ

ปริมาณนมสำหรับเด็ก 1 ขวบ เด็กควรกินนม UHT วันละกี่กล่อง

เด็กวัย 1-5 ปี ควรดื่มนมกล่องเด็ก UHT วันละ 2-3 กล่อง เพื่อให้ได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วนและเพียงพอเสริมจากอาหารมื้อหลัก เพราะในบางมื้อลูกอาจกินไม่ครบ เลือกกิน การดื่มนมจึงช่วยเสริมได้ แต่ก็มีข้อควรระวังเช่นกัน

  • ไม่ควรให้ลูกดื่มนมมากเกินไป หรือ ดื่มนมแทนการกินข้าวบ่อย ๆ เพราะจะทำให้ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอกับร่างกาย
  • การดื่มนมกล่องเด็ก UHT มากเกินไป และเน้นไปที่นมกล่องเด็กรสหวาน อาจทำให้ลูกมีภาวะโรคอ้วนได้

นมกล่อง, นม กล่อง เด็ก 1 ขวบ, นมกล่อง uht, นมกล่องยูเอชที เด็ก, เด็ก 1 ขวบกินนมกล่องได้ไหม, เด็ก 1 ขวบกินนม uht ยู เอช ที ได้ไหม, นม uht ยี่ห้อไหนดี, วิธีเลือกนม กล่อง uht เด็ก, เด็กกินนมกล่องได้ตอนกี่ขวบ, ลูก 1 ขวบกินนมกล่อง uht ได้ไหม, นมกล่อง เด็ก ท้องไม่ผูก, นม กล่อง uht เด็ก สูตรไหนดี, สารอาหาร นม uht

วิธีเลือกนมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 1 ขวบขึ้นไป 

  • การเลือกนมสำหรับเด็ก 1 ขวบ อย่างนมกล่อง UHT ต้องคำนึงถึงสารอาหารจำเป็นที่ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการตามช่วงวัย เช่น กล้ามเนื้อ กระดูก และสมอง เป็นต้น
  • ควรเลือกนมสำหรับเด็ก 1 ขวบ ที่ผลิตได้มาตรฐาน มีวันเดือนปีการผลิต/หมดอายุ 
  • นมกล่องที่เลือก ต้องไม่บุบยับ ไม่รั่วซึม ไม่บวม หากซื้อนมกล่องเด็กแบบยกลัง ลังนมต้องไม่เปียกชื้นเพราะส่งผลต่อคุณภาพของนมกล่อง

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

https://www.s-momclub.com/articles/toddler/นมกล่องแรกสำหรับลูก

(พื้นที่เพื่อการโฆษณาและประชาสัมพันธ์)

แบบประเมินพัฒนาการเด็กวัย 1 ขวบ ลูกอายุ 1 ขวบมีพัฒนาการอย่างไร

พัฒนาการ 1 ขวบ, เสริม พัฒนาการ 1 ขวบเสริม, พัฒนาการ 1 ขวบ ครึ่ง, ของเล่น เสริม พัฒนาการ 1 ขวบ, เช็กพัฒนาการลูก  1 ขวบ, แบบประเมินพัฒนาการลูก 1 ขวบ, ลูก 1 ขวบ มีพัฒนาการยังไง, ประเมินพัฒนาการเด็ก, เด็ก 1 ขวบ ทำอะไรได้บ้าง

พัฒนาการลูก 1 ขวบ เติบโตแค่ไหน และพ่อแม่ช่วยกระตั้น ส่งเสริมพัฒนาการลูกวัย 1 ขวบได้อย่างไรบ้าง เช็กกันเลยค่ะ 

แบบประเมินพัฒนาการเด็กวัย 1 ขวบ ลูกอายุ 1 ขวบมีพัฒนาการอย่างไร

  1. เด็กทารกวัย 1 ขวบ ยืนได้อย่างน้อย 2 วินาที : ทำได้ หรือ ทำไม่ได้
    แนวทางกระตุ้นและส่งเสริมพัฒนาการ
    • จับลูกยืนและจับมือ 2 ข้างของให้เหยียดขึ้นสูงระดับไหล่ เมื่อทรงตัวได้ค่อยปล่อยมือ

  2. เด็กทารกวัย 1 ขวบ หยิบของชิ้นเล็กเท่าเมล็ดถั่ว โดยใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้ : ทำได้ หรือ ทำไม่ได้
    แนวทางกระตุ้นและส่งเสริมพัฒนาการ
    • วางวัตถุชิ้นเล็ก เช่น ลูกเกด บนโต๊ะหน้าลูกให้เห็นวัตถุนั้นชัดเจนแล้งหยิบให้ดูและให้ลูกทำตาม
    • ช่วยโดยจับรวบนิ้วกลาง นิ้วนาง และนิ้วก้อยเข้าหาฝ่ามือเพื่อให้ใช้หัวแม่มือและนิ้วชี้หยิบวัตถุ
    • เล่นเกม หรือร้องเพลงที่ลูกต้องใช้หัวแม่มือ และนิ้วชี้แตะกันเป็นจังหวะ

  3. เด็กทารกวัย 1 ขวบ หันมองคนในบ้านเมื่อถาม : ทำได้ หรือ ทำไม่ได้
    แนวทางกระตุ้นและส่งเสริมพัฒนาการ
    • ขณะมีเหตุการณ์หรือกิจกรรมกับคนในบ้าน ให้เอ่ยชื่อบุคคลนั้นเช่น “พ่อมาแล้ว” ,”พี่อาบน้ำ”
    • ขณะเล่นกับลูกให้ระบุชื่อผู้ที่เล่นด้วย เช่น “จ๊ะเอ๋ พี่…” “โยนบอลให้พ่อ”
    • ขณะลูกอยู่กับสมาชิกในครอบครัว 2 คน หรือมากกว่า 2 คนให้เล่นเกม “อยู่ไหน” เช่น “ยายอยู่ไหน” ถ้าลูกไม่หันมอง หรือไม่ชี้ ให้ยายพูดแนะว่า “ยายอยู่นี่” หรือชี้ไปที่ยาย และพูดว่า “ยายอยู่นั่น” และให้โอกาสลูกลองทำเอง

  4. เด็กทารกวัย 1 ขวบ หันมองคนในบ้านเมื่อถาม : ทำได้ หรือ ทำไม่ได้
    แนวทางกระตุ้นและส่งเสริมพัฒนาการ
    • สอนให้เลียนแบบคำพูดง่าย ๆ ในขณะเล่น เช่น ขณะเล่นตุ๊กตาพูดว่า “ป้อนข้าวน้อง” “ป้อนน้ำน้อง” ให้ลูกเลียนเสียง “น้อง”
    • สอนเรียกคนในบ้าน เช่น พ่อ แม่ ตา ยายา ป้า อา
    • สอนเรียกชื่อสัตว์ เช่น หมา ปลา ปู
    • สอนพูดคำกริยา เช่น มา ไป เอา

  5. เด็กทารกวัย 1 ขวบ บอกความต้องการโดยใช้ท่าทางหรือเสียง : ทำได้ หรือ ทำไม่ได้
    แนวทางกระตุ้นและส่งเสริมพัฒนาการ
    • สอนให้รู้จักปฏิเสธด้วยการใช้มือผลักของออก หรือสั่นศีรษะพร้อมพูด “ไม่”
    • ให้ลูกเลือกอาหารหรือของเล่นจาก 2 อย่าง โดยถามว่า “เอาอย่างไหน” สอนให้ชี้อันที่ต้องการ พร้อมออกเสียง “เอา” ถ้าลูกไม่ต้องการสอนให้สั่นศีรษะพร้อมออกเสียง “ไม่”
    • เมื่อลูกอิ่มถามว่า “เอานมไหม” สอนให้สั่นศีรษะและพูดว่า “ไม่”


สรุปผลการประเมินพัฒนาการเบี้องต้น
(1 ข้อเท่ากับ 1 คะแนน) ** กรณีทำได้มากกว่า 3 ข้อ ถือว่าปกติ **