5 สัญญาณบอกพัฒนาการลูกทารกผิดปกติ พัฒนาการล่าช้า
จะรู้ได้อย่างไรว่าลูกทารกมีพัฒนาการผิดปกติหรือพัฒนาการล่าช้า พ่อแม่มือใหม่ลองมาเช็กพัฒนาการตามวัยลูกทารกกันตรงนี้ค่ะ
5 สัญญาณบอกพัฒนาการลูกทารกผิดปกติ พัฒนาการล่าช้า
- ยิ้ม-พัฒนาการเด็กวัย 0-3 เดือน
เด็กๆ ยิ้มได้ตั้งแต่แรกเกิด แต่ยิ้มในช่วง 0-3 เดือนนี้จะเป็นยิ้มที่ไม่มีความหมาย เกิดขึ้นเนื่องจากเด็กยังควบคุมกล้ามเนื้อปาก กล้ามเนื้อบนใบหน้าได้ไม่ดีนัก และเป็นปฏิกิริยากล้ามเนื้ออย่างหนึ่งในเด็กทารก
หลัง 3 เดือน เด็ก ๆ จะเริ่มยิ้มแบบสื่อความหมายมากขึ้น เป็นการยิ้มเพื่อตอบสนองทางอารมณ์ และตอบสนองเชิงสังคม (Social smile) เริ่มมีการเรียนรู้ที่จะยิ้มเพราะรู้สึกพึงพอใจ มีความสุข กินอิ่มนอนหลับสบาย ได้รับการสนองตอบทางอารมณ์ที่ดีถึงยิ้ม และยิ้มให้คนคุ้นเคย เช่น คุณแม่ เพื่อสื่อความหมายว่าเขารู้สึกดีกับคุณแม่หรือคนที่พบเห็นด้วย
ดังนั้นการยิ้มของลูกจึงเป็นสัญญาณบอกว่าลูกมีพัฒนาการทางอารมณ์ที่ดี ได้รับความรักและการตอบสนองที่ดีจากคุณพ่อคุณแม่ จะทำให้มีความมั่นคงทางอารมณ์ ร่าเริงแจ่มใส เป็นเด็กน่ารักของทุก ๆ คน
ถ้าลูกไม่ยิ้ม...หลัง 3 เดือนไปแล้ว ถ้าคุณพ่อคุณแม่เล่นด้วย หรือมีคนอื่นๆ มาเล่นด้วย แต่ลูกกลับไม่ยิ้ม หรือร้องไห้งอแง อาจเกิดจากไม่ได้รับการตอบสนองเท่าที่ควร หรือเกิดความกลัวอะไรบางอย่าง รู้สึกไม่ไว้ใจคนรอบข้าง ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ต้องสังเกตว่าลูกกลัวอะไร ไม่ยิ้มแล้วร้องไห้เพราะอะไร แล้วกำจัดสิ่งนั้นทิ้งไป เพราะถ้าปล่อยไว้ เด็ก ๆ จะเติบโตมามีนิสัยก้าวร้าว ขี้กลัว ไม่มั่นใจในตนเอง และไม่ช่วยเหลือผู้อื่นได้ค่ะ
- พลิกคว่ำ พลิกหงาย-พัฒนาการเด็กวัย 4-6 เดือน
วัย 4-6 เดือน เด็ก ๆ จะเริ่มพลิกตัว และเริ่มมีการพลิกคว่ำได้ดี ชันคอได้ดี เพราะกล้ามเนื้อส่วนกลางของลำตัว กล้ามเนื้อคอเริ่มมีความแข็งแรง เมื่อพลิกตัวคว่ำจะสามารถชันคอได้ และเริ่มพลิกตัวหงายได้เอง เวลาอุ้มนั่ง อุ้มพาดบ่า คอจะตั้งตรงได้ ไม่ว่าจะอุ้มลูกท่าไหน ลำคอก็จะยังคงตั้งตรงชูคอหันไปมาได้
ถ้ายังชันคอไม่ได้...ลูกน้อยอายุ 6 เดือนขึ้นไป ยังชันคอไม่ได้ เวลาคุณแม่อุ้มแล้วคอยังเอียงไปเอียงมา ต้องคอยจับอยู่ตลอด อาจเป็นสัญญาณบอกว่ากล้ามเนื้อมีปัญหา หรืออาจมีปัญหาเรื่องสมองอ่อนแรง ที่ส่งผลให้พัฒนาการกล้ามเนื้อล่าช้าด้วย
- ลุกนั่ง-พัฒนาการเด็กวัย 7-9 เดือน
ช่วงวัยนี้เด็กจะเริ่มลุกนั่งได้เอง โดยคุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องคอยประคองแล้ว เริ่มยันแขนหมุนตัวเองให้นั่งได้ กล้ามเนื้อแขน กล้ามเนื้อหลัง คือกล้ามเนื้อมัดใหญ่มีความแข็งแรง และโน้มตัวไปหยิบจับเล่นของเล่นที่อยู่ตรงหน้าได้ มีการทรงตัวได้ดีมากขึ้น
ในช่วงเริ่มนั่งได้ใหม่ๆ คุณแม่ควรหาเบาะหรือหมอนมาวางไว้ด้านหลังและรอบๆ ตัว เพื่อป้องกันเวลาลูกหงายหลัง หรือทิ้งตัวนอนจะได้ไม่เกิดการบาดเจ็บขึ้น นอกจากนี้ การนั่งหลังตรงยังเป็นการฝึกการทรงตัวที่ดี ทำให้ลูกคลานได้ดีด้วย
ถ้านั่งเองไม่ได้... ถ้าลูกน้อยอายุ 9 เดือน แล้วยังลุกนั่งเองไม่ได้ เป็นสัญญาณบอกว่ากล้ามเนื้อมัดใหญ่บริเวณหลังอาจเกิดความผิดปกติ อาจมีปัญหากล้ามเนื้ออ่อนแรง และจะส่งผลต่อพัฒนาการขั้นอื่นต่อไป
- ใช้มือหยิบของเอง-พัฒนาการเด็กวัย 7-9 เดือน
ช่วงวัยนี้ ลูกน้อยจะหยิบจับหรือคว้าสิ่งของได้แม่นยำมากขึ้น ควบคุมนิ้วมือเล็กๆ ให้จับของได้มั่นคง เปลี่ยนสลับมือถือของ และถือของได้ 2 มือ คุณแม่ลองหาของเล่นที่เขาชอบแล้วยื่นให้เขา ให้เขาฝึกใช้มือหยิบของจากมือคุณแม่ แล้วเปลี่ยนสลับมือถือ หรือหยิบของจากพื้นยื่นให้คุณแม่ เป็นการทำให้นิ้วมือมีการทำงานดี และหาของเล่นหลาย ๆ รูปทรงที่มีพื้นผิวต่างกัน นุ่มบ้าง แข็งบ้าง ให้เขาหยิบจับเล่น เป็นการเรียนรู้เรื่องระบบประสาทสัมผัสที่ดี
ถ้ายังหยิบจับของเล่นเองไม่ได้...หยิบของเล่นแล้วหล่น หรือมือไม่มีแรงหยิบ อาจเป็นเพราะกล้ามเนื้อมือยังไม่แข็งแรงพอ ลองหาของเล่นนิ่มให้เขาบีบจับบ่อย ๆ เพื่อเป็นการบริหารกล้ามเนื้อมือให้แข็งแรงขึ้น
- เกาะยืน-พัฒนาการเด็กวัย 9-10 เดือน
ช่วงนี้เด็ก ๆ จะเริ่มเหนี่ยวตัวเองเกาะสิ่งของที่อยู่รอบตัว แล้วยกตัวเองขึ้นมาเกาะยืนและค่อยๆ เกาะเดิน จะเป็นช่วงล้มลุกคลุกคลาน คือยืนได้เอง เดิน 2-3 ก้าวแล้วล้มนั่ง แบบนี้ไม่เป็นไร เป็นพัฒนาการที่เขากำลังจะเดิน คุณแม่ควรจัดระเบียบของในบ้านให้เรียบร้อย มีพื้นที่โล่ง และเพื่อความปลอดภัย โต๊ะที่มีมุมแหลมควรห้าผ้าหรือที่กันมุมมาปิดไว้ ไม่ควรมีเก้าอี้ที่มีล้อเลื่อนเพราะถ้าเด็กๆ เกาะยืนแล้วเก้าอี้เลื่อน ก็อาจจะทำให้ลูกน้อยล้มบาดเจ็บและเกิดอาการกลัวไม่กล้าเกาะยืนอีกได้
ถ้ายังไม่ลุกยืน...ในช่วงวัย 9-10 เดือน ยังไม่ลุกยืนอาจจะยังไม่ผิดปกติอะไรมาก เพราะพัฒนาการช่วงนี้เด็กแต่ละคนจะช้าเร็วแตกต่างกัน แต่ถ้าเลยขวบครึ่งไปแล้วยังไม่ยอมลุกเดิน แสดงว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้น อวัยวะทำงานไม่ได้ตามที่ควรจะเป็น ซึ่งอาจเกิดจากกล้ามเนื้อขามีความผิดปกติ หรืออาจเกี่ยวกับระบบประสาทมีความผิดปกติและส่งผลให้การทำงานของกล้ามเนื้อมีความผิดปกติเกิดขึ้น
วัย 0-1 ปี เป็นช่วงที่ลูกน้อยจะได้ไปพบคุณหมอบ่อยๆ ดังนั้น ถ้ามีอาการผิดปกติเกิดขึ้น ควรรีบปรึกษาคุณหมอแต่เนิ่นๆ เพื่อจะรักษาได้ทัน ลูกน้อยจะได้เติบโตอย่างมีพัฒนาการที่ดีตามวัย
เรียบเรียงจากการสัมภาษณ์
พญ.ดวงรัตน์ วังเกล็ดแก้ว
กุมารแพทย์พัฒนาการเด็ก รพ.เด็กสมิติเวช ศรีนครินทร์