เมนูอาหารเสริมเด็กที่มีรสหวานธรรมชาติ เลีี่ยงนิสัยการติดรสหวาน ที่ส่งผลเสียต่อพัฒนาการและสุขภาพ ต้นเหตุโรคร้ายต่างๆ ได้ในอนาคต
ซึ่งการเลี่ยงพฤติกรรมติดหวานของลูกทำได้ไม่ยาก เพียงแค่เลือกใช้แหล่งความหวานจากธรรมชาติและให้ในปริมาณที่เหมาะสม ก็ช่วยลดการติดหวานได้แล้ว
คุณแม่สามารถเลือกวัตถุดิบที่ให้รสหวานจากธรรมชาติที่เหมาะสำหรับเด็กวัยขวบแรกได้หลากหลาย ทำให้ลูกน้อยได้เรียนรู้การกินอาหารที่นอกเหนือจากนมแม่ ด้วยวิธีการปรุงอาหารด้วยการต้ม ตุ๋น เคี่ยว นึ่ง
หมู่ที่ 1 ข้าว ธัญพืช เช่น ข้าวกล้องงอก ข้าวซ้อมมือ ถั่วเขียว ถั่วแดง ลูกเดือย ข้าวโอ๊ต ข้าวโพด มันเทศ มันฝรั่ง ฯลฯ รสหวานจากกลุ่มนี้เป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนจากเม็ดแป้งที่สะสมอยู่ เมื่อนำมาต้มจนเปื่อย หรือตุ๋น จะได้แป้งที่แตกตัว เด็กย่อยง่าย ให้วิตามินบี1 บี3 บี6 และวิตามินอีจากจมูกข้าว
หมู่ที่ 2 เนื้อสัตว์ต่างๆ เช่น อกไก่ สันในหมู ปลาน้ำจืด ปลาทะเล กุ้ง ปลาหมึก ฯลฯ รสหวานจากเนื้อสัตว์ประกอบไปด้วยกรดอะมิโนชนิดต่างๆ โดยเฉพาะกรดกลูตามิก
หมู่ที่ 3 ผักหลากชนิด เช่น ฟักทอง แครอต มันแกว แห้ว ยอดข้าวโพด ดอกกะหล่ำ ถั่วแขก ผักบุ้ง ผักกาดขาว หัวผักกาด ฟักเขียว ฯลฯ เป็นกลุ่มผักให้ความหวานจากคาร์โบไฮเดรตและเกลือแร่
หมู่ที่ 4 ผลไม้ เช่น กล้วย แอบเปิ้ล มะละกอ มะม่วง แตงโม แคนตาลูป ขนุน เงาะ ฯลฯ ความหวานของผลไม้เหล่านี้ให้คาร์โบไฮเดรตเชิงคู่จาก ฟรุกโตส มอลโตส และซูโครส
หมู่ที่ 5 ไขมัน เช่น ถั่วอัลมอนด์ เม็ดมะม่วงหิมพาน งา เนื้อมะพร้าว ฯลฯ ซึ่งให้น้ำมันและมีความหวานจากคาร์โบไฮเดรต
แหล่งความหวานจากธรรมชาติจำพวกธัญพืช ผัก ผลไม้ นอกจากจะให้รสหวานแล้ว ยังให้เส้นใยอาหาร ทำให้ลูกรู้สึกอิ่ม ดังนั้นความหวานจากพืชผัก จึงไม่ทำให้เด็กติดรสหวาน แต่ควรระวังผลไม้รสหวานที่มีความหวานไม่เท่ากัน และเด็กๆ มักชอบผลไม้ที่มีรสหวานมาก เช่น กล้วย มะม่วงสุก มะละกอสุก องุ่น จึงควรจัดสมดุลและสัดส่วนอาหารผักและผลไม้ให้พอเหมาะกับลูก ก็สามารถช่วยให้ไม่ติดผลไม้รสหวานอย่างเดียว เช่น ลูกชอบมะม่วง มะละกอ ก็จัดให้ปริมาณมากเป็นพิเศษเมื่อเทียบกับฝรั่งหรือชมพู่ บางครั้งการให้ผลไม้ทีหลัง จะทำให้เด็กได้รับอาหารในปริมาณที่เหมาะสม
ความหวานจากธรรมชาติที่ได้สัดส่วนพอเหมาะต่อความต้องการของลูกน้อย จะควบคุมน้ำหนักได้ดี ป้องกันไม่ให้ลูกเป็นโรคอ้วนในอนาคต ลดภาวะไขมันในเลือด ป้องกัน และควบคุมเบาหวานได้ แถมยังช่วยระบบย่อยอาหารให้ทำงานได้ดี อาจช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ได้อีกด้วย
เมนูรสหวานจากธรรมชาติ
ซุปข้าวกล้อง (6-8 เดือน)
เครื่องปรุง : ปลายข้าวกล้อง ¼ ถ้วยตวง
ฟักทองหั่นชิ้นสี่เหลี่ยม ¼ ถ้วยตวง
ผักกาดขาว 1 ใบตัดเป็น 4 ท่อน
น้ำเปล่า 2 ถ้วย
วิธีทำ ซาวปลายข้าวกล้องใส่ในหม้อตุ๋น ใส่ฟักทอง ผักกาดขาว เติมน้ำ ปิดฝาตุ๋นข้าวประมาณ 1 -2 ชั่วโมง หมั่นคนเพื่อไม่ให้ข้าวไหม้ติดก้นหม้อ เมื่อข้าวเปื่อยดี แบ่งตักป้อนหนูน้อย
TIP เมนูนี้ให้ความหวานธรรมชาติจากข้าว ฟักทอง ผักกาดขาว เหมาะสำหรับให้ลูกน้อยในมื้อแรก เพราะย่อยง่าย สำหรับมื้อที่สอง ผสมไข่แดงต้ม ¼ ลูก เพิ่มคุณค่าโปรตีน ผักกาดขาวตุ๋นเพื่อให้ความหวาน หรืออาจใส่แครอตร่วมด้วย เมื่อเด็กกินได้ดีขึ้น สามารถตักผักที่ตุ๋นยีผสมในซุป1-2 ช้อนชา สร้างความคุ้นเคยในการกินเส้นใยอาหาร นอกจากนี้ การใช้เครื่องปรุงไม่กี่อย่าง ทำให้ง่ายต่อการสังเกตเรื่องการแพ้อาหารได้ด้วย |
มันบดซอสถั่วลันเตา( 8-10 เดือน)
เครื่องปรุง: มันฝรั่งต้มบด 1/3 ถ้วย
แครอตนึ่งหั่นสี่เหลี่ยมเล็ก 1 ช้อนโต๊ะ
ไก่สับ 2 ช้อนโต๊ะ
ถั่วลันเตากระป๋องยีด้วยส้อมพอหยาบ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันถั่วเหลือง 1 ช้อนชา
แป้งข้าวเจ้า 2 ช้อนโต๊ะ
หอมใหญ่สับ 1 ช้อนชา
น้ำต้มกระดูก 1ถ้วย
วิธีทำ 1.รวนไก่สับ หอมใหญ่กับน้ำมันถั่วเหลืองด้วยไฟอ่อน พอสุกใส่มันบดคลุกให้เข้ากัน ใช้ช้อนเล็กตักแบ่งเป็นคำเล็กๆ เรียงใส่ถ้วย
2.ต้มแครอต ถั่วลันเตากับน้ำต้มกระดูกด้วยไฟอ่อน ละลายแป้งข้าวเจ้ากวนใส่ซุปถั่วลันเตา เคี่ยวๆ ด้วยไฟอ่อนให้เปื่อย ตักราดมันบด
TIP เมื่อลูกกินได้ดีขึ้น สามารถเพิ่มผักกาดขาวหั่นฝอย ดอกกะหล่ำหั่นเล็กๆ ใส่ลงเคี่ยวในซอสถั่ว ช่วยเพิ่มใยอาหาร รสหวานจากผักยังสามารถใส่รวมกับน้ำต้มกระดูก ต้มเคี่ยวกรองเอาน้ำสต็อกเพื่อนำมาปรุงซุปได้อีกด้วย |
ขนมปังกรอบซอสอะโวคาโด( 10-12 เดือน )
เครื่องปรุง :ขนมปัง 1 แผ่น
ฟักทองนึ่ง ¼ ถ้วย
อะโวคาโด ¼ ถ้วย
ไข่แดงต้ม ½ ฟอง
อกไก่รวนสุก 30 กรัม
มะม่วงสุก ¼ ถ้วย
วิธีทำ 1.ขนมปังหั่นเป็นแท่งยาว เรียงใส่จานอบในเตาไมโครเวฟ 2 นาที กลับด้านขนมปัง แล้วอบต่อ 2 นาที พักไว้
2.บดฟักทองนึ่ง อกไก่รวน ไข่แดง รวมกัน ในเตาไมโครเวฟ 1 นาที
3.ยีมะม่วงสุก อโวคาโดส้อมจนเนื้อเนียนเข้ากัน เสิร์ฟกับขนมปังอบกรอบ
TIP วัย10-12 เดือน หนูน้อยเริ่มหยิบของโดยกำทั้งมือ ขนมปังกรอบช่วยทำให้เจ้าหนูเพลิดเพลินกับการเรียนรู้รสชาติอาหารที่แปลกใหม่ ได้ดี เมนูนี้อโวคาโดและมะม่วงเป็นผลไม้สด แนะนำให้ทำแล้วเสิร์ฟเลย ไม่เก็บแช่ค้างไว้ |
ที่ปรึกษาทางวิชาการ : คุณกิ่งกมล เอกชาวนา นักโภชนากร โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชันแนล