เวลาที่ลูกโมโห โกรธ อาละวาด ร้องไห้เสียใจ งอแง พ่อแม่หลายคนเลือกจะลงโทษหรือดุลูก หรือบางคนก็นิ่ง ทำเป็นไม่สนใจลูกไปเลยก็มี... ใช่ไหมคะ ทราบไหมว่าอารมณ์ของลูกแบบนี้ไม่ใช่ปล่อยไว้แล้วจะหายไปเองเมื่อโต เพราะถ้าไม่รีบรับมือและปรับอารมณ์กันเสียตั้งแต่วันนี้ อนาคตอาจจะมีปัญหาใหญ่ตามมาได้ เช่น การทะเลาะวิวาท ยกพวกตีกัน ชอบพูดจาด่าทอคนอื่น หรือแม้แต่การพูดจาไม่ดีใส่พ่อแม่ด้วยเช่นกัน
เพื่อป้องกันปัญหาที่น่าปวดหัวและปวดใจนั้นไม่ให้เกิดขึ้นในอนาคต มาสอนให้ลูกรับมือและควบคุมอารมณ์ตัวเองด้วย 7 วิธีนี้ค่ะ
1. ตัวพ่อแม่ต้องเป็นคนมีสภาวะอารมณ์มั่นคงหนักแน่นเองก่อน เพื่อที่จะได้พร้อมเปิดรับทุกอารมณ์ของลูกได้อย่างไม่หวั่นหวั่น ไม่โมโห ไม่หงุดหงิด หรือไม่อ่อนไหวตาม
2. การโอบกอดจะช่วยให้ลูกรู้สึกผ่อนคลายและไว้วางใจที่จะเล่าความไม่สบายใจต่างๆ ให้ฟัง
3. พ่อแม่ต้องยอมรับอารมณ์ต่างๆ ของลูก เช่น “แม่เข้าใจว่าลูกโกรธ” แล้วค่อยชวนลูกหาวิธีจัดการกับอารมณ์ต่างๆ
4. ถ้าลูกมีอาการโกรธจัดและคิดจะไปทำร้ายผู้อื่นคืน พ่อแม่ต้องชวนคุย ถามว่าเรามีทางเลือกอื่นอะไรไหม ที่จะแก้ปัญหาโดยไม่ไปทำร้ายใคร
5. ถ้าลูกให้คำตอบไม่ได้ ต้องเบี่ยงเบนพาไปทำกิจกรรมอื่นที่เขาชอบ เช่น งานศิลปะ เล่นของเล่น
6. หากลูกมีอารมณ์โกรธมาจากโรงเรียน พ่อแม่ควรไปพบพูดคุยกับคุณคุณครู เพื่อหาสาเหตุและหนทางแก้ไข
7. พ่อแม่ต้องเข้าใจว่า เด็กแต่ละคนมีความแตกต่างกัน วิธีที่ใช้จัดการอารมณ์ย่อมแตกต่างกัน ดังนั้นสังเกตอารมณ์ นิสัย และพฤติกรรมลูกให้ชัดเจน แล้วปรับเปลี่ยนวิธีการอย่างเหมาะสม
คนที่ขี้โมโหหรือเบรกแตกบ่อยๆ จัดว่าเป็นคนขาดการยับยั้งชั่งใจ (Inhibitory Control) หรือขาดความสามารถในการควบคุมแรงปรารถนาของตัวเองให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เด็กที่ขาดการฝึกฝนให้มีทักษะยับยั้งชั่งใจจะเติบโตไปเหมือน ”รถที่ขาดเบรก” เป็นคนทำอะไรไม่คิด หรือมีปฏิกิริยาตอบโต้สิ่งต่างๆ ไปในทางที่สร้างปัญหา กลายเป็นเด็กมีปัญหาพฤติกรรม พ่อแม่นี่ล่ะค่ะที่ต้องช่วยให้ลูกมีอารมณ์มั่นคง และเป็นที่รักของทุกๆ คน
สั่งจอง หรือ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Line@ : @ruklukeselect
shop.line.me/@raklukeselect