ผลการสำรวจคนไทย นอกจากอ่านหนังสือเฉลี่ยปีละไม่เกิน 10 เล่ม ว่าน่าเป็นห่วงแล้ว ล่าสุดจากข้อมูลสำนักการศึกษา ว่า นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 ของโรงเรียนสังกัด กทม. ในปี 2561 จำนวน 173,837 คน มีเด็กนักเรียนที่มีปัญหาการอ่านถึง 23,015 คน แบบนี้พ่อแม่ต้องช่วยส่งเสริมให้รักการอ่านตั้งแต่เด็กกันค่ะ เพราะการอ่านหนังสือให้ลูกฟังทุกวัน เพียง 5-15 นาที ทำให้สมองของเด็กวัย 3 ปีแรกพัฒนาถึง 70 %
6 เทคนิคง่ายๆ ฝึกลูกรักการอ่าน
1. การอ่านหนังสือให้ลูกฟังบ่อยๆ เป็นการปลูกฝังความรักต่อหนังสือและการอ่านที่ดีไม่น้อย โดยเฉพาะการอ่านนิทาน ที่คุณสามารถเสริมจินตนาการด้วยท่าทาง น้ำเสียง ซึ่งทำให้เรื่องราวมีความน่าสนใจและสนุกยิ่งขึ้น ก็จะยิ่งทำให้การอ่านเข้าไปอยู่ในใจของลูกได้ไม่ยาก
2. สังเกตว่าลูกชอบหรือสนใจสิ่งใดหรือเรื่องใดเป็นพิเศษ แล้วเชื่อมโยงเข้ากับการอ่าน โดยหาหนังสือที่มีเรื่องราวหรือสิ่งของที่ลูกชอบมาให้ นอกจากความประทับใจแล้ว ยังอาจสร้างแรงบันดาลใจให้ลูกได้อีกทาง
3. สอดแทรกการอ่านเข้ากับกิจวัตรประจำวัน เช่น การชี้ชวนให้ลูกอ่านป้าย ฉลากบนบรรจุภัณฑ์ กระทั่งเมนูอาหาร ขณะที่ออกไปทานข้าวนอกบ้านก็ยังได้
4. บรรยากาศแห่งการอ่านสร้างได้ โดยเลือกมุมใดมุมหนึ่งของบ้าน จัดเป็นมุมหนังสือ มีหนังสือหลากหลายแบบให้ลูกเลือกอ่านหรือเพื่อให้คุณอ่านให้ฟัง ซึ่งควรวางอยู่ในที่ที่ลูกเห็นและสามารถหยิบเองได้ เป็นอีกมุมกิจกรรมที่ควรมีเก้าอี้หรือโซฟานั่งสบายสำหรับเอนหลังชวนกันอ่าน
5. การพาลูกไปเลือกซื้อหนังสือเล่มโปรดด้วยตัวเอง เป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งที่สร้างการมีส่วนร่วม และเข้ากับพัฒนาการของเด็กวัยนี้ที่เริ่มเป็นตัวของตัวเอง นอกจากร้านหนังสือแล้ว อาจพาลูกเข้าห้องสมุดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อซึมซับบรรยากาศแห่งการอ่าน
6. อ่านผ่านการเล่น นี่เป็นอีกวิธีที่ได้ทั้งความสนุกและการเรียนรู้ อาจะเป็นการทายคำ หาคำจากภาพ หรือจับคู่คำกับภาพที่เห็นก็ได้ โดยเป็นคำง่ายๆ ที่ใช้บ่อยๆ ในชีวิตประจำวัน
อย่าลืมว่าคุณพ่อคุณแม่คือบุคคลสำคัญ ที่มีอิทธิพลต่อการอ่านของลูก นอกจากเทคนิคต่างๆ แล้ว การเป็นแบบอย่างของหนอนหนังสือสามารถส่งผ่านไปถึงลูกได้ ผ่านการกระทำให้เห็นเป็นแบบอย่าง เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ลูกนั่นเองค่ะ
Tips