บางครั้งที่ลูกเจ็บป่วย เข้าโรงพยาบาลบ่อย ๆ อาจเป็นเพราะพฤติกรรมหรือสุขนิสัยที่ลูกทำอยู่ เรื่องอะไรบ้างที่ต้องฝึกหรือส่งเสริมลูก เพื่อช่วยให้ลูกมีสุขภาพที่ดีไม่เจ็บป่วยบ่อย ทั้ง 5 นิสัยนี้คือคำตอบ
1. ล้างมือบ่อย ๆ
ความสะอาดเป็นนิสัยสำคัญที่ต้องส่งเสริมให้ลูก ถ้าไม่อยากให้ลูกป่วยบ่อย ควรสอนให้ลูกล้างมือบ่อย ๆ และล้างให้สะอาด เด็ก ๆ มักไม่ค่อยชิน นอกจากที่โรงเรียนแล้ว กลับมาบ้าน พ่อแม่ต้องชวนลูกล้างมือ หรือกึ่งบังคับทุกครั้งหลังเข้าห้องน้ำ หรือก่อนหยิบกินขนม กินข้าวทุกครั้ง ทำให้ชินจนเป็นนิสัย ที่สำคัญคือพ่อแม่ต้องเป็นตัวอย่างให้ลูกทำตามด้วย
สอนลูกล้างมือ : สอนลูกให้ล้างมือให้สะอาดทุกซอกทุกมุม และล้างให้นานพอถึง 20 วินาทีเพื่อให้สามารถกำจัดเชื้อโรคได้ อาจจะใช้การร้องเพลงที่มีความยาว 20 วินาที เพื่อให้ลูกรู้สึกสนุกและจดจำว่าต้องล้างมือนานเท่าไหร่
2. เลือกรับประทานผักสารพัดสี
นอกจากผักใบเขียวที่มีวิตามินอย่างที่เรารับประทานกันเป็นประจำแล้ว ควรให้ลูกได้รับประทานผักหลากหลายสี ทั้งสีเขียว สีขาว สีส้ม เพื่อให้ได้รับสารอาหารที่ให้ประโยชน์แตกต่างกัน เช่น ในผักสีส้มมีเบต้า-แคโรทีนที่ช่วยดูแลสร้างภูมิคุ้มกันให้กับผิวลูกด้วย ปกป้องผิวจากแสงแดด ผิวอักเสบ ผิวแดง
ฝึกลูกรับประทานผัก : ควรฝึกลูกรับประทานผักสีเขียวก่อน เพราะผักที่มีเบตา-แคโรทีน หรือผักที่มีสีส้ม สีเหลือง เช่น ฟักทอง แครอท จะมีรสหวานรับประทานง่ายกว่าผักสีเขียว หากฝึกให้ลูกเริ่มกินรับประทานผักสีส้มก่อนผักสีเขียวอาจทำให้ลูกติดรสหวาน และอาจจะไม่ยอมรับประทานผักสีเขียวค่ะ
3. ดื่มน้ำเปล่า แทนน้ำหวาน
เด็กไม่ควรได้รับน้ำตาลเกินวันละ4 ช้อนชา เพราะในแต่ละวันเราได้รับน้ำตาลจากอาหารมากเพียงพอแล้ว จึงไม่ควรฝึกให้ลูกดื่มน้ำหวาน แต่ควรฝึกลูกดื่มน้ำเปล่า เด็กบางคนดื่มน้ำน้อย ไม่ค่อยดื่มน้ำ ทำให้มีปัญหาการขับถ่าย หรือปัญหาระบบทางเดินปัสสาวะ จึงควรให้ลูกได้ดื่มน้ำเปล่าอย่างเพียงพอทุก ๆ วัน
ฝึกลูกดื่มน้ำเปล่า : หากลูกไม่ชอบดื่มน้ำ หรือไม่ยอมดื่มน้ำอาจจะหาแก้วลายการ์ตูนน่ารัก แบบต่างๆ หลอดสีสันสวย ๆ เปลี่ยนไปมาอาจจะช่วยให้ลูกดื่มน้ำบ่อยมากขึ้น หรือช่วงเล็ก ๆ ที่ยังไม่ยอมกินดื่มน้ำอาจจะใช้น้ำใส่กระบอกฉีดยาป้อนให้ดื่มก่อนเพื่อเป็นการฝึก
4. สร้างนิสัยการนอนที่ดี
ช่วงเวลาการนอนหลับเป็นช่วงเวลาสำคัญเพราะร่างกายที่เหนื่อยล้ามาทั้งวันจะได้พักผ่อน และภายในร่างกายจะได้ทำการซ่อมแซมระบบต่างๆ ของร่างกาย และเตรียมตัวสะสมพลังในช่วงนอน ซึ่งหากอดนอน หรือนอนได้ไม่เพียงพอ นอกจากจะทำให้คนเราอ่อนเพลียแล้ว ยังทำให้ระบบภูมิคุ้มกันนั้นอ่อนแอลง ทำให้ลูกเจริญเติบโตไม่เต็มที่และเจ็บป่วยง่าย
ฝึกนิสัยการนอนให้ลูก : ควรเริ่มฝึกให้ลูกเข้านอนเป็นเวลาตั้งแต่เล็ก ๆ เริ่มจากสร้างกิจวัตรที่ทำให้รู้ว่าได้เวลานอนแล้ว เช่น ดื่มนมอุ่น ๆ หรืออ่านนิทานก่อนนอน และควรจัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมกับการนอนเพื่อให้ลูกนอนหลับยาว หลับสนิทตลอดคืน
5. ดื่มนมที่มีสารอาหารที่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
การให้ลูกดื่มนมแพะจะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกไม่เจ็บป่วยได้ เพราะนมแพะระบบการสร้างน้ำนมแบบอะโพไคร์น (Apocrine) แบบเดียวกับคน ทำให้มีสารอาหารจากธรรมชาติในปริมาณสูง อย่างนิวคลีโอไทด์ ที่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้นมแพะยังมีโปรตีนที่ย่อยและดูดซึมได้ง่าย ที่สำคัญนมแพะมีพรีไบโอติก ซึ่งเป็นใยอาหารธรรมชาติ อย่างอินนูลิน (Inulin) และโอลิโกฟรุคโตส (Oligofructose) ซึ่งเป็นอาหารของจุลินทรีย์ที่ดีต่อสุขภาพ ช่วยให้การทำงานของระบบย่อยอาหารและการขับถ่ายให้ดีขึ้น ลดการเกิดท้องเสีย ท้องผูก ทำให้ลูกมีภูมิคุ้มกันดี ไม่ป่วยบ่อย
เริ่มให้ลูกดื่มนมแพะตอนไหน? : นมแม่คือนมที่มีโภชนาการครบถ้วน และสารอาหารที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกได้ดีที่สุดสำหรับลูก แต่หลังจากลูกน้อยหย่านมแม่ หรือมีความจำเป็นต้องให้นมเสริมกับลูก คุณแม่สามารถให้นมแพะกับลูกได้อย่างต่อเนื่องทันที เพราะนมแพะเป็นนมที่มีคุณค่าทางโภชนาการและมีสารอาหารครบถ้วน มีโปรตีนและไขมันที่ย่อยง่าย ให้ลูกน้อยเติบโตแข็งแรงอย่างเป็นธรรมชาติ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก นมแพะ DG
ติดตามความรู้เรื่องนมแพะ การสร้างภูมิคุ้มกัน และวิธีส่งเสริมพัฒนาการเด็กได้ที่