2 เชื้อร้าย กับภัยจากหูชั้นกลางอักเสบ

คุณแม่ทั้งหลายรู้จักโรคหูชั้นกลางอักเสบกันหรือยังคะ ทราบไหมว่า80% ของเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี มีโอกาสเกิดโรคหูชั้นกลางอักเสบอย่างน้อย 1 ครั้ง โรคนี้มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อไวรัส หรือแบคทีเรีย หากเกิดจากไวรัสมักหายไปได้เอง หากเป็นแบคทีเรียมักเป็นเรื้อรังและจำเป็นต้องรับการรักษา

โดยแบคทีเรียที่พบได้บ่อยคือ เชื้อนิวโมคอคคัส และเชื้อเอ็นทีเอชไอ เจ้า 2 เชื้อร้ายนี่ล่ะค่ะ ที่ทำให้เกิดโรคร้าย 3 โรคอันตรายที่คุณแม่คาดไม่ถึง คือนอกจากโรคหูชั้นกลางอักเสบแล้ว ทั้ง 2 เชื้อยังเป็นสาเหตุของโรคปอดบวม เชื้อนิวโมคอคคัสเองยังทำให้เกิดโรคไอพีดี เช่น เยื่อหุ้มสมองอักเสบ หรือติดเชื้อในกระแสเลือดได้

คุณแม่ส่วนใหญ่มักไม่รู้ว่าการที่ลูกร้องไห้ งอแง เอามือจับหู อาจเป็นอาการของโรคหูชั้นกลางอักเสบ คิดว่าลูกเป็นไข้ธรรมดาจึงไม่ได้พาไปพบแพทย์ หากปล่อยทิ้งไว้นาน ไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจทำให้เด็กมีปัญหาในการเรียนรู้และพัฒนาการด้านต่างๆ ร้ายไปกว่านั้นอาจทำให้เยื่อแก้วหูทะลุ มีปัญหาต่อการได้ยิน และอาจนำไปสู่โรคต่างๆ ที่รุนแรงดังที่กล่าวมาแล้วได้ เช่น เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ฝีในสมอง

วันนี้ลองมาอ่านประสบการณ์จริงจากคุณอมรรัตน์ สิริรุ่งเรือง ในฐานะคุณแม่คนหนึ่งกันค่ะว่า ต้องทำอย่างไรบ้างเพื่อให้เขาห่างไกลจากโรคอันตรายอย่างหูชั้นกลางอักเสบ

ตอนนี้ลูกอายุ 1 ขวบ 4 เดือนแล้วค่ะ ก่อนหน้านี้กลัวและเครียดมาก กลัวว่าลูกจะเป็นหูชั้นกลางอักเสบ เพราะเคยเห็นลูกเพื่อนเป็น แล้วสงสารค่ะ เพราะเด็กร้องไห้ไม่ยอมหยุดเลย คงจะเป็นเพราะเป็นไข้และปวดหูมาก เคยคิดว่าถ้าเป็นลูกเราจะทำยังไง ดิฉันคงไม่เป็นอันกินอันนอนแน่ๆ เพราะเห็นเด็กๆ เป็นกันหลายคนแล้ว ยิ่งพอมาอ่านเจอว่าเป็นเชื้อที่มีอยู่ในลำคอ ซึ่งจะทำให้เกิดโรคได้เมื่อร่างกายอ่อนแอ

โรคนี้มักจะเป็นในเด็กอายุระหว่าง 3 เดือนถึง 3 ปี และต้องรักษาให้หายขาดเพราะถ้าเกิดอักเสบเรื้อรังเด็กอาจจะมีความพิการทาง การได้ยิน และแย่ว่านั้นอาจทำให้เกิดโรครุนแรง เช่น โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบได้ แต่ตอนนี้ดิฉันโล่งใจแล้วค่ะ เพราะได้รับคำแนะนำจากคุณหมอว่ามีวัคซีนที่ป้องกันโรคไอพีดี ปอดบวม และหูชั้นกลางอักเสบได้ในคราวเดียวกัน

นอกจากจะเสริมภูมิให้ลูกด้วยวัคซีนแล้ว ที่สำคัญคุณแม่ต้องหมั่นคอยดูแลให้ลูกมีสุขภาพแข็งแรง หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกับผู้ที่เป็นหวัด หากลูกมีอาการหวัดนานเกิน 1 สัปดาห์ต้องไปพบคุณหมอนะคะ

คุณอมรรัตน์ สิริรุ่งเรือง

แล้วอย่าลืมพาลูกไปฉีดวัคซีนนะคะ เพื่อสุขภาพอนามัยที่ดีของเจ้าตัวเล็กแก้วตาดวงใจของคุณแม่และทุกคนในครอบครัวค่ะ