ปัญหาช่องปากและฟันอาจเสี่ยงกับพัฒนาการทารกในครรภ์
คุณแม่ท้องมักจะมีปัญหาสุขภาพช่องปาก เพราะในช่วงนี้ร่างกายของคุณแม่จะมีการเปลี่ยนแปลงในหลาย ๆ ด้าน ซึ่งไม่ควรมองข้ามเรื่องการดูแลปากและฟันนะคะ เพราะกรมการแพทย์ เผยข้อมูลว่าปัญหาสุขภาพช่องปากของคุณแม่จะส่งผลต่อลูกในท้องด้วย
แม่ท้องมีโอกาสเกิดโรคเหงือกอักเสบ ปริทันต์อักเสบรุนแรง และเกิดฟันผุ ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้นมากขึ้นจึงเกิดการอักเสบ ส่วนที่เกิดฟันผุได้มากขึ้นเนื่องจากการทานอาหารบ่อยครั้ง นอกจากนี้การอาเจียนบ่อย ๆ ตอนแพ้ท้อง ก็ทำให้เกิดปัญหาฟันกร่อน จากการที่ฟันสัมผัสน้ำย่อยซึ่งมีฤทธิ์เป็นกรดด้วย
หากคุณแม่มีปัญหาสุขภาพช่องปาก จะส่งผลต่อลูกอย่างไรบ้าง
- หากคุณแม่เป็นโรคปริทันต์ หรือ โรคเหงือกอักเสบ มีความเสี่ยงที่จะคลอดก่อนกำหนดและทารกแรกคลอดมีน้ำหนักตัวน้อย สูงถึง 7.5 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับมารดาที่ไม่ได้เป็นโรคปริทันต์ ซึ่งการาคลอดก่อนกำหนดอาจจะส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของเด็กในระยะยาวด้วย
- หากคุณแม่เป็นโรคฟันผุ ก็จะทำให้ลูกมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคฟันผุเพิ่มขึ้นด้วย เพราะเชื้อจุลินทรีย์ที่เป็นสาเหตุของโรคฟันผุจะส่งต่อจากคุณแม่ไปสู่ลูกผ่านทางน้ำลาย เช่น การใช้ช้อนแก้วน้ำร่วมกันการชิมอาหาร เป่าอาหาร การจูบ ลูกจะฟันผุง่ายขึ้นหากได้รับเชื้อซ้ำๆ
วิธีดูแลช่องปากและฟันของแม่ท้อง
- เมื่ออายุครรภ์ 4 – 6 เดือน ควรไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจฟันและทำความสะอาดช่องปาก ไม่ควรรอจนกระทั่งมีอาการ
- แปรงฟันให้สะอาด อย่างน้อย วันละ 2 ครั้ง ด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ นาน 2 นาที ร่วมกับการทำความสะอาดซอกฟันทุกวัน
- หลังอาเจียนจากการแพ้ท้องหรือทานอาหารเปรี้ยว ควรบ้วนปากด้วยน้ำเปล่าทุกครั้ง
- หลีกเลี่ยง การกินอาหารที่มีน้ำตาลสูง เช่น น้ำอัดลม น้ำหวาน นมเปรี้ยว เป็นต้น
เห็นไหมคะ ว่าปัญหาสุขภาพช่องปากของคุณแม่ท้องไม่ใช่เรื่องธรรมดาที่มองข้ามได้เลย ดังนั้นตอนการฝากครรภ์ก็ควรสอบถามถึงปัญหาเกี่ยวกับเหงือกและฟันตั้งแต่ครั้งแรกด้วยนะคะ เพื่อที่จะได้รับการตรวจสุขภาพช่องปากจากทันตแพทย์ รวมถึงการดูแลรักษาสุขภาพช่องปากค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : ประชาสัมพันธ์ กรมการแพทย์