แม่ท้องต้องรู้ ! ท้องนอกมดลูก อันตรายของการตั้งครรภ์
ฝันร้ายของคุณแม่ในช่วงตั้งครรภ์ และไม่มีใครอยากให้เกิด นั่นคือ การท้องนอกมดลูก ซึ่งเป็นอันตรายอย่างมากต่อทั้งตัวแม่และเด็ก แต่เพื่อหลีกเลี่ยงภัยเงียบต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต เรามารู้จักสิ่งนี้กัน
การตั้งครรภ์นอกมดลูก (Ectopic pregnancy) เป็นความผิดปกติของการตั้งครรภ์ประเภทหนึ่ง ที่ตัวอ่อนเกิดการฝังตัวนอกโพรงมดลูก รวมไปถึงที่ปีกมดลูก ท่อนำไข่ รังไข่ ปากมดลูก หรือช่องท้อง ทำให้ตัวอ่อนไม่สามารถเจริญเติบโตเป็นทารกได้ ซึ่งสิ่งนี้เป็นอันตรายต่อทั้งแม่และเด็ก และยังทำให้อวัยวะภายในของคุณแม่ได้รับความเสียหาย จนอาจทำให้เลือดออกในช่องท้องจนถึงเสียชีวิตได้ จึงควรเริ่มพบแพทย์ทันทีที่ประจำเดือนเริ่มขาดไป
สาเหตุของการท้องนอกมดลูก
- การติดเชื้อของอวัยวะในระบบสืบพันธุ์ เช่น ภาวะอุ้งเชิงกราน มดลูก ท่อนำไข่และรังไข่เกิดการอักเสบหรือติดเชื้อ
- มีรอยแผลเป็นที่เกิดจากการผ่าตัดที่บริเวณอุ้งเชิงกรานในอดีต
- เคยมีประวัติท้องนอกมดลูกมาก่อน
- การทำหมันหญิง หรือการผ่าตัดแก้หมันหญิง หรือการใส่ห่วงอนามัยคุมกำเนิด
- การใช้ยา หรือการรักษาภาวะมีบุตรยาก เช่น การทำเด็กหลอดแก้ว
- การใช้ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน
- การมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย
- การสูบบุหรี่
- ความผิดปกติของการพัฒนาภายในไข่หลังเกิดการปฏิสนธิ
อาการของการตั้งครรภ์นอกมดลูก
- ประจำเดือนขาด
-
เลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด
-
มีอาการเจ็บหน้าอก คลื่นไส้อาเจียน วิงเวียนศีรษะ ซึ่งเป็นอาการแสดงของการตั้งครรภ์
-
ปวดบริเวณอุ้งเชิงกราน ไหล่ คอ และบริเวณทวารหนัก
-
มีภาวะช็อก
หากเกิดความสงสัยว่าตนเองอาจท้องนอกมดลูกให้รีบไปพบแพทย์ เพื่อตรวจหาความผิดปกติโดยเร็ว เพราะการท้องนอกมดลูกที่ได้รับการตรวจวินิจฉัยช้าเกินไป อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้ เนื่องจากท่อนำไข่ และอวัยวะภายในเกิดความเสียหาย ฉีกขาด ทำให้เกิดการติดเชื้อ ผู้ป่วยมีการตกเลือด เกิดอาการช็อก และอาจนำไปสู่การเสียชีวิตได้
ภาวะท้องนอกมดลูก ไม่อาจป้องกันได้ แต่เราสามารถลดปัจจัยเสี่ยงที่นำไปสู่การท้องนอกมดลูกได้
- มีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย ใช้ถุงยางอนามัยและไม่เปลี่ยนคู่นอนบ่อยๆ
- หลีกเลี่ยงการใช้ยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉิน
- งดสูบบุหรี่ เพราะผู้ที่สูบบุหรี่มีความเสี่ยงท้องนอกมดลูกสูงกว่าคนปกติ
- สังเกตอาการ และเข้ารับการตรวจวินิจฉัย เพื่อรับการรักษาให้ทันเวลา
เมื่อคุณตั้งครรภ์ย่อมมีความเสี่ยงต่างๆ ตามมามากมาย สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความปลอดภัย พ่อแม่ทั้งหลายจึงควรเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อรับมือกับปัญหาต่างๆที่อาจตามมาในอนาคต นอกจากนี้กำลังใจก็ถือเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะล้มเหลวอีกกี่ครั้ง ท้อได้แต่อย่าถอย หากคุณทั้งคู่จับมือกันผ่านพ้นปัญหาต่างๆเหล่านี้ไปได้ ก็จะสามารถสร้างครอบครัวที่แข็งแรงได้ในอนาคต
โดย แพทย์หญิงกมลภัทร วิจักขณ์พันธ์
สูตินรีแพทย์ด้านเวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์
โรงพยาบาลวิชัยยุทธ