หลังคลอดลูก มีทั้งข้อห้ามและข้อควรระวังเรื่องอาหาร ยา และการใช้ชีวิตประจำวันอะไรบ้างที่ควรเลี่ยง เพื่อไม่ให้แม่หลังคลอดเสี่ยงทำจนอันตรายต่อตัวเองและการเลี้ยงลูก
นอกจากจะทำให้น้ำนมน้อยแล้ว ความเครียดส่งผลกระทบต่ออารมณ์และจิตใจ ซึ่งลูกซึมซับและสัมผัสได้จากแม่โดยตรง โดยเฉพาะช่วงหลังคลอดคุณแม่อาจจะเกิดอาการซึมเศร้าหลังคลอดได้ (หากเป็นนานกว่า 4 สัปดาห์ควรพบคุณหมอค่ะ)
คำแนะนำ : ทางที่ดีคุณแม่ควรจะหาผู้ช่วยมาแบ่งเบาภาระต่างๆ เช่น งานบ้าน การดูแลลูกคนโต ฯลฯ เพื่อที่แม่จะได้มีเวลาพักผ่อนและมีอยู่กับตัวเอง จะช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายทำให้ไม่เครียดจนเกินไปด้วยค่ะ
งดกินอาหารประเภทหมักดอง อาหารค้างคืน อาหารที่มีสารปรุงแต่ง เพราะอาจจะทำให้ท้องเสีย เสาะท้อง หรือท้องอืดได้ง่าย ส่วนยาหรือสมุนไพรที่อวดอ้างว่ามีสรรพคุณช่วยเพิ่มน้ำนมหรือเร่งให้มดลูกเข้าอู่เร็วไม่ควรกิน เพราะอาจจะมีส่วนผสมของสารสเตียรอยด์ ยิ่งอยู่ในช่วงให้นมสิ่งที่แม่กินเข้าไปก็จะถ่ายทอดไปยังลูกด้วยค่ะ
คำแนะนำ : เลือกกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นผักและผลไม้ รวมถึงดื่มน้ำสะอาดเป็นประจำ
การออกกำลังกายที่หนักหน่วง รุนแรง โดยเฉพาะบริเวณหน้าท้องอาจจะส่งผลกระทบต่อมดลูก ช่องคลอดและฝีเย็บ นอกจากนั้นการขยับเขยื้อนร่างกายอย่างรุนแรงและบ่อยครั้งในช่วงนี้จะทำให้มดลูกต่ำ
คำแนะนำ : หากต้องการออกกำลังกายควรทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป และเลือกท่าบริหารที่ไม่กระทบกับช่องท้อง มดลูก ฝีเย็บ สำหรับคุณแม่ที่คลอดธรรมชาติสามารถเริ่มออกกำลังกายได้เมื่อหลังคลอดไปแล้วประมาณ 2-3 วัน ส่วนคุณแม่ผ่าคลอดคงต้องรอจนครบ 1 เดือนหรือให้แผลผ่าตัดสมานกันสนิทแล้วจึงเริ่มออกกำลังกายได้ค่ะ
อย่าเพิ่งโชว์พลังยกของหนักเลยค่ะ เพราะการออกแรงยกของหนักจะต้องเกร็งกล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้อง ซึ่งอาจจะกระทบกระเทือนกับแผลผ่าคลอดหรือมดลูก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณแม่ผ่าคลอดยิ่งต้องระวังให้มากเพราะแผลผ่าคลอดอาจจะปริ ฉีดขาดได้ค่ะ
คำแนะนำ : ปกติแล้วหลังคลอด 1 เดือน ทั้งแผลผ่าคลอดและมดลูกจึงจะกลับมาเข้าทีและแข็งแรงขึ้น ดังนั้นช่วงนี้งานหนักหรือเรื่องยกของต่างๆ ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคุณพ่อไป คุณแม่เลี้ยงลูกให้นมแม่ก็พอแล้วค่ะ
การมีเซ็กซ์หลังคลอดในช่วงที่ฝีเย็บยังไม่แห้งสนิทและน้ำคาวปลายังไหลอยู่ นอกจากจะไม่น่าอภิรมย์แล้ว ขณะร่วมเพศอาจจะเจ็บ แผลฉีกขาด เกิดการติดเชื้อได้ด้วย ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพคุณแม่อย่างแน่นอน
คำแนะนำ : ให้คุณพ่ออดใจรอหลังคลอดอย่างน้อย 6 สัปดาห์ เรียกว่าเป็นการรอให้ร่างกายกลับเข้าสู่สภาพปกติ แล้วยังถือเป็นการคุมกำเนิดอย่างธรรมชาติที่สุด เพราะคุณแม่บางคนหลังคลอด 4-5 สัปดาห์ก็เริ่มมีไข่ตกแล้ว หากตั้งครรภ์ช่วงนี้จะไม่ดีต่อสุขภาพแม่ค่ะ เพราะจะทำให้ร่างกายไม่ได้พักผ่อน
เลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมแอลกอฮอล์ทุกชนิด เพราะนอกจากแอลกอฮอล์จะส่งผลให้เกิดความดันโลหิตสูงแล้ว หากอยู่ในช่วงให้นมลูกอยู่แอลกอฮอล์ยังปนออกมากับน้ำนมแม่ นอกจากนั้นการดื่มแอลกอฮอล์ 1 แก้วจะทำให้ปริมาณน้ำนมลดลงถึง 23 % และการดื่มมากกว่า 2 แก้ว อาจจะยับยั้งปฏิกิริยาน้ำนมพุ่งด้วย นอกจากนั้นยังมีงานวิจัยพบว่าการดื่มเป็นประจำทุกวันจะมีผลทำให้ลูกน้ำหนักขึ้นช้าและกล้ามเนื้อมัดใหญ่พัฒนาช้าลงด้วยนะคะ (ข้อมูลจาก www.thaibreastfeeding.com)
คำแนะนำ : ดื่มน้ำสะอาด นมและน้ำผลไม้ จะช่วยสร้างความสดชื่นและมีประโยชน์กับสุขภาพมากกว่าเครื่องดื่มที่ทำให้มึนเมาทุกชนิดค่ะ
งดใช้ยากลุ่มรักษาสิว ยาปฏิชีวนะ ยาที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์ ยากระตุ้นฮอร์โมน หรือยารักษาโรคประจำตัว ฯลฯ รวมไปถึงยาที่อยู่ในกลุ่มสารเสพติด เช่น ยานอนหลับ ยาแก้ปวด ชนิดต่างๆ เพราะจะถ่ายทอดไปถึงลูกผ่านทางน้ำนมค่ะ
คำแนะนำ : หากคุณแม่จำเป็นต้องกินยาควรปรึกษาคุณหมอก่อนทุกครั้ง เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจจะเกิดกับลูกและตัวคุณแม่เองค่ะ