ลูกวัย 1-3 ปี จะสามารถทำอะไรด้วยตัวเองได้มากขึ้น โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวร่างกาย แต่สิ่งที่เด็กวัยนี้ยังทำได้ไม่สมบูรณ์คือพัฒนาการทางภาษา การควบคุมอารมณ์ การอดทนรอคอย คือยังไม่มีความสามารถในการควบคุมตัวเอง (self control) ด้วยสาเหตุนี้เองลูกมักแสดงความรุนแรงออกมา ซึ่งพ่อแม่มีส่วนสำคัญที่จะเป็นผู้ช่วยให้ลูกเรียนรู้และแสดงออกอย่างเหมาะสมค่ะ
นอกจากนี้ ถ้าขณะที่ลูกกำลังโกธรและต้องการระบายอารมณ์ด้วยการตีหรือขว้างปาสิ่งของ พ่อแม่ไม่ควรปล่อยให้ลูกทำแบบนั้น เพราะการปล่อยให้ลูกระบายอารมณ์ด้วยวิธีที่ไม่เหมาะสม ลูกจะคิดว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง และจะติดเป็นนิสัยเมื่อเติบโตขึ้นได้
มาช่วยให้ลูก สกัดอารมณ์ร้ายและรู้จักการระบายอารมณ์ของลูก ด้วย 5 วิธีต่อไปนี้กันค่ะ
1. สร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีให้ลูก เริ่มจากพ่อแม่ไม่ใช้ความรุนแรงต่อกัน รู้จักการระงับอารมณ์ของตัวเอง
2. ถ้าลูกแสดงอารมณ์รุนแรง ต้องหยุดลูกโดยไม่ใช้ความรุนแรงตอบ เช่น การตี แต่ควรเข้าไปจับตัวลูกให้หยุดการกระทำเพราะเด็กจะยังควบคุมตัวเองไม่ได้ สามารถหยุดด้วยการกอดไว้แน่นๆ และโยกตัวลูกเบาๆ
3. เมื่อเด็กๆ เริ่มเรียนรู้การระงับอารมณ์มากขึ้น พ่อแม่ควรเปลี่ยนจากการจับให้ลูกหยุดมาเป็น การหยุดด้วยคำพูด เช่น พูดว่า ทำไม่ได้ ไม่อนุญาต ฯลฯ ควรเป็นคำที่สั้นกระชับ ชัดเจน
4. ตั้งชื่อทางอารมณ์ให้ลูกรู้ เช่น บอกลูกว่าตอนนี้ลูกกำลังโกธร ลูกกำลังเสียใจ เพราะเด็กจะยังไม่รู้ว่าอารมณ์ที่ตัวเองรู้สึกคืออะไร เด็กจะรับรู้แค่ความรู้สึกทางร่างกายว่าหัวใจเต้นแรง น้ำตาไหล หน้าแดง เป็นต้น
5. หากลูกใช้ความรุนแรง ควรมองว่าเป็นโอกาสในการที่จะสอนสิ่งที่ถูกต้องให้กับลูก เพราะเด็กบางคนที่ไม่เคยใช้ความรุนแรงเลย อาจเพราะไม่เคยเจอกับสถานการณ์ที่ถูกขัดใจ จะทำให้ลูกไม่รู้จักอารมณ์ตัวเอง เมื่อโตขึ้นเขาจะแสดงอารมณ์รุนแรงออกมา ซึ่งก็ยากในการปรับตัวค่ะ
หากปล่อยให้ลูกใช้ความรุนแรงตั้งแต่วัยซน ลูกจะถูกบ่มเพาะและติดตั้งการใช้ความรุนแรงในสมอง ทำให้เมื่อเติบโตขึ้นจะกลายเป็นคนที่เห็นว่าความรุนแรงเป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ส่งผลเสียต่อตัวลูกเองในทุกด้าน ดังนั้นมาเริ่มหยุดความรุนแรงให้ลูกกันตั้งแต่วันนี้เลยค่ะ