สงบสติตัวเอง เมื่อลูกดื้อ
อย่าเพิ่งใช้อารมณ์กับลูก เมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่นไม่ใช่เวลาที่จะมาสอนลูกตรงนั้น หลายครั้งที่ลูกดื้อ ซน พ่อแม่ก็ยิ่งพยายามสอน พยายามดุลูก เพื่อแสดงให้คนรอบข้างเห็นว่าตัวเองได้ทำหน้าที่แล้ว แต่ลูกไม่ฟังเอง ช่วยไม่ได้ การทำแบบนี้ไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นค่ะ แต่ถ้าพ่อแม่สงบเงียบ คุยกับลูกด้วยเหตุผล ว่าการส่งเสียงดังของลูก รบกวนผู้อื่น ลูกจะสงบนิ่ง และเชื่อฟังพ่อแม่มากขึ้น
อย่าสั่ง ถ้าอยากให้ลูกเชื่อฟัง
ลูกอยู่ในวัยที่กำลังเป็นตัวของตัวเอง การสั่งลูกเหมือนเป็นการจำกัดสิทธิ ลูกยิ่งรู้สึกไม่ชอบและอยากท้าท้าย แต่ถ้าลองเปลี่ยนจากคำสั่งเป็นการฝึกให้ลูกคิด สร้างคำถามให้ลูกตอบ ให้ทางเลือกกับลูก เช่น เมื่อลูกกำลังจะร้องเพลงเสียงดัง พ่อแม่อาจให้ทางเลือกลูกว่า หนูร้องเพลงได้นะแต่ต้องร้องเสียงเบาลงหน่อยเพราะการส่งเสียงทำให้รบกวนคนอื่น หรือ หนูคิดว่าเวลากินข้าวเราต้องอยู่ที่ไหนคะ แล้วเด็กดีต้องทำยังไงเวลากิน ถ้าพ่อแมเคยสอนเรื่องมารยาทบนโต๊ะอาหารเด็กจะตอบได้ทันทีว่าต้องทำอย่างไร
ฟังลูก ฟังให้เข้าใจลูก
ไม่ใช่แค่ฟังให้ได้ยินเท่านั้น อีกทั้งท่าทีในการฟังก็แต่พ่อแม่ต้องแสดงให้ลูกเห็นว่าคุณสนใจ ไม่ใช่ฟังแต่ไม่สนใจลูก ให้ลูกได้พัฒนาทักษะการแก้ปัญหาต่างๆ โดยไม่จำกัดความคิดของลูก ให้เขาค่อยๆคิดแก้ปัญหาด้วยตนเองไปทีละขั้นตอน ให้โอกาสและเวลาเด็กได้ฝึกคิดและ ทำสิ่งต่างๆ ด้วยตนเอง จะทำให้เขามีทักษะและภูมิใจในตนเอง เช่น กินข้าวเอง ตักอาหารเอง รวมทั้งเวลามีปัญหาอย่ารีบช่วยเหลือหรือบอกว่าเขาควรทำอะไร แต่ให้ถามว่า "หนูจะทำอย่างไร"
ขจัดอารมณ์ที่ไม่ดีของลูก
เริ่มจากพ่อแม่อย่าคิดแทนลูก อย่าสั่งลูก เช่น ขอบคุณสิลูก อิ่มแล้วใช่ไหม ลูกไม่ชอบอันนี้ใช่ไหม หรือเมื่อลูกมีปัญหาให้ถามลูกว่าเกิดอะไรขึ้น รอให้ลูกตอบ ไม่ใช่พ่อแม่จัดการให้หมดทุกอย่างทันที ลองถามลูกก่อน เพื่อให้เขาได้ฝึกคิด เพราะถ้าพ่อแม่คิดแทนลูกทั้งหมด เมื่อเขาโตขึ้น เขาจะคิดแก้ปัญหาไม่เป็น เจอปัญหาก็แก้ไม่ได้ ไม่มั่นใจ และจะกลายเป็นเด็กพึ่งพิงตลอด โตขึ้นก็ต้องคอยพึ่งพิงพ่อแม่ ไม่เห็นค่าในตนเอง ขอความช่วยเหลือคนอื่นตลอด
สกัดตัวป่วนตั้งแต่อยู่ที่บ้าน
การทำข้อตกลงกันก่อนออกจากบ้านเป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยเซฟปัญหาตัวป่วนนอกบ้านให้ลดลงได้ เมื่อลูกเริ่มดื้อ ซน พ่อแม่สามารถพูดได้ว่า เราตกลงกันแล้วนะ ว่าถ้าวิ่งเล่นทั่วร้าน แม่เตือนแล้วไม่เชื่อฟัง เราจะกลับบ้านทันที
เมื่อพาลูกออกไปนอกบ้าน พ่อแม่ต้องคำนึงถึงสิทธิคนอื่นในที่สาธารณะด้วย เราอาจจะมองว่าลูกงอแงเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าอยู่ในสถานการณ์ที่ควบคุมไม่ได้ หรือลุกลามจนคนทำให้คนอื่นเดือดร้อน ต้องพาลูกออกไปจากสถานการณ์นั้นให้ลูกสงบก่อน
คนส่วนใหญ่เข้าใจธรรมชาติของเด็กว่า ดื้อ ซน เป็นเรื่องปกติ แต่สิ่งที่ต้องการคือความรับผิดชอบ และคำขอโทษจากพ่อแม่เท่านั้นค่ะ หลายครั้งที่คนไม่พอใจคือ การนิ่งเฉย และไม่รับผิดชอบของพ่อแม่ ดังนั้นเอ่ยคำขอโทษด้วยความจริงใจ เมื่อลูกทำความเดือดร้อนให้คนอื่น นอกจากจะผ่อนคลายให้สถานการณ์ดีขึ้นแล้ว ยังเป็นแบบอย่างในการสอนให้ลูกอีกด้วยค่ะ
"รักวัวให้ผูก รักลูกให้เลี้ยงด้วย EF"
ขอบคุณความรู้ EF โดย สถาบัน RLG