เวลาที่คุณพ่อคุณแม่ได้ยินลูกพูดจาไพเราะน่าฟังไม่ว่าจะพูดกับตนเอง ญาติ หรือผู้ใหญ่ ได้ยินทีไรยิ้มแก้มปริแทบทุกครั้ง แต่บางบ้านอาจประสบปัญหาว่าทำไมลูกถึงพูดจาไม่เพราะเหมือนลูกคนอื่นๆ บ้าง วันนี้เรามีเทคนิคที่จะช่วยให้ลูกพูดเพราะฝากค่ะ
อารมณ์ร้อนมีผลกับการพูดเพราะ หากลูกเป็นคนที่อารมณ์ร้อน ฉุนเฉียว เอาแต่ใจ รับรองว่าการจะหัดให้ลูกพูดเพราะนั้นจะยากยิ่งขึ้น เริ่มต้นเลยคุณพ่อคุณแม่ต้องเริ่มที่อารมณ์ของลูกก่อน หัดให้ใจเย็น รู้จักแบ่งปัน เชยชมเมื่อลูกทำดี สร้างจินตนาการให้ลูก เมื่อลูกร่าเริงแจ่มใสการหัดให้ลูกพูดเพราะจะเป็นเรื่องง่ายทันทีค่ะ
พฤติกรรมเลียนแบบ เด็กในวัยนี้เป็นวัยที่กำลังสังเกตและจดจำ หากคนรอบข้างพูดเพราะๆ ลูกน้อยก็จะคอยฟังและหัดพูดตามด้วย หากลูกยังไม่สามารถพูดได้ประโยคยาวๆ เด็กมักจะพูดคำลงท้ายเสมอ
หัดตั้งแต่ยังอายุน้อยๆ ดั่งคำที่ว่าไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก การที่ลูกเริ่มพูดได้เป็นคำ จากเริ่มแรกอาจจะพูดได้แค่คำเดียว แต่เมื่อลูกเริ่มพัฒนาแล้วคุณพ่อคุณแม่สามารถใส่หางเสียงเข้าไป เช่น คุณแม่ถามลูกว่า “ไปเที่ยวไหมคะ” หากลูกพูดได้คำเดียวลูกจะตอบว่า “ไป” และเมื่อลูกเริ่มพูดได้ 2 คำขึ้นไป ต้องคอยบอกว่า “ไปค่ะ” การพูดและค่อยๆ สอนทุกครั้งจะทำให้เด็กชินที่จะพูดมีหางเสียงเสมอ
ร้องไห้โยเย กรีดร้อง พูดจาไม่สุภาพ การที่เด็กเริ่มก้าวร้าวร้องไห้กรีดร้องเพราะไม่ได้ดั่งใจ หรือทำผิดแล้วไม่ยอมรับ เลยใช้วิธีการกรีดร้องและพูดจาไม่เพราะ คุณพ่อคุณแม่ต้องใจเย็นนะคะ ค่อยๆ พูดด้วยเหตุผล รอให้เขาอารมณ์ลงอีกนิด แล้วเรียกมาสอบถามว่าทำผิด หรือต้องการอะไรถึงพูดจาไม่สุภาพแบบนี้ ให้เขาเข้าใจว่าการพูดไม่สุภาพเป็นสิ่งไม่ดี เด็กดีไม่ทำแบบนี้ เด็กๆ เข้าใจค่ะ แต่เราต้องเข้าใจเด็กๆ ด้วยเช่นกัน
พูดจาไม่สุภาพเพราะพูดตามเพื่อน สาเหตุแบบนี้เราสามารถแก้ไขได้ค่ะ เพียงคุณพ่อคุณแม่ต้องค่อยๆ ทำความเข้าใจกับลูกน้อยว่าการพูดไม่สุภาพตามเพื่อนแบบนี้ ยิ่งถ้าพูดกับผู้ใหญ่เป็นสิ่งไม่ดี ไม่น่ารัก ไม่ควรทำตาม
เด็กน้อยวัยนี้หากเริ่มพูดเมื่อไหร่จะพูดไม่หยุดเลยค่ะ แล้วถ้าลูกพูดได้ไพเราะอีกล่ะก็ จะเพิ่มความน่ารัก สุภาพ และน่าเอ็นดูในสายตาผู้ใหญ่ได้ไม่ยาก ขนาดเราได้ยินลูกบ้านอื่นพูดจาอ่อนหวานเรายังเคลิ้มเลยใช่ไหมคะ ลองนำเทคนิคเหล่านี้ฝึกลูกน้อยดูนะคะ รับรองคุณพ่อคุณแม่ต้องหลงลูกมากยิ่งขึ้นค่ะ