นาฬิกาอัจฉริยะของเด็กรุ่นใหม่ในยุค 4G ที่กำลังจะเติบโตไป 5G คงหนีไม่พ้น กับนาฬิกา Smartwatch Kids ที่มีฟังก์ชันตอบโจทย์ความต้องการของคุณพ่อคุณแม่ เรื่องความปลอดภัยได้อย่างดีเยี่ยม
เรามาดูวิธีการเลือกซื้อนาฬิกาให้ลูกกันค่ะ เลือกอย่างไรให้มีคุณภาพ ปลอดภัยต่อเจ้าตัวน้อย และเป็นประโยชน์มากที่สุด
สมาร์ทวอทช์คืออุปกรณ์ที่สามารถสวมใส่ได้เหมือนนาฬิกาหรือเครื่องประดับติดกายชนิดหนึ่ง มีประสิทธิภาพในการวัดการเต้นของหัวใจ ปริมาณการเผาผลาญไขมัน เพิ่มความสะดวกให้ผู้ใช้สามารถดูแลสุขภาพร่างกายได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีหลากหลายแบรนด์หลากหลายดีไซน์ให้เลือก
เพื่อให้พ่อแม่ที่กำลังสนใจซื้อสมาร์ทวอทช์ให้ลูกอยู่นั้น จะได้ไอเดียในการเลือกซื้อ มาดูกันว่าจะมีวิธีการอย่างไรและมีสิ่งใดที่ต้องคำนึงก่อนตัดสินใจซื้อบ้าง
1.คุณภาพ-การรับประกัน
สินค้าที่ดีและมีคุณภาพ จะมีการรับประกัน เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ความปลอดภัยให้กับผู้ซื้อ
2.ฟังก์ชั่น Smartwatch Kids
สมัยนี้มีฟังก์ชั่นให้คุณพ่อคุณแม่เลือกเยอะแยะมากมาย มีกล้องถ่ายรูประยะใกล้ได้ สามารถโทรได้ แม้แต่ติดตาม GPS ตัวเด็กก็สามารถทำได้อีกด้วย
3.ราคา
ราคาของนาฬิกาอัจฉริยะมีช่วงความต่างค่อนข้างกว้างตั้งแต่หลักร้อย – หลักหมื่น ซึ่งโดยหลัก ๆ แล้วความต่างของราคานั้นมีผลมาจากคุณสมบัติและดีไซน์เฉพาะตัวของแต่ละรุ่น แต่หากเป็นนาฬิกาสมาร์ทวอทช์ทั่วไป ราคาไม่ถึง 1,000 บาท ฟังก์ชั่นจัดเต็ม เทียบราคาแบบไฮเอน แบบนี้คุณแม่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษนะคะ เพื่อความปลอดภัยของลูกค่ะ
4.สถานที่จัดจำหน่าย
เวลาที่คุณแม่ตัดสินใจซื้อ Smartwatch Kids ให้ลูก ควรศึกษาสถานที่จะซื้อก่อนค่ะ ร้านโดยตรงยิ่งดี หากไม่สะดวกต้องสั่งซื้อทางออนไลน์ ต้องซื้อช่องทางที่น่าเชื้อถือได้ มีการโอนเงินที่รองรับความปลอดภัยด้วยนะคะ
5.แบตเตอรี่
สำหรับอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ในแต่ละวัน ซึ่งแต่ละรุ่นก็มีความจุของแบตเตอรี่ที่แตกต่างกัน รวมถึงหน้าจอแอลซีดี หรือ หน้าจออโมเล็ตก็มีส่วนเกี่ยวกับอายุการใช้งานในแต่ละวัน ในส่วนนี้จะต้องทำการตรวจสอบข้อมูลให้ดีก่อนการตัดสินใจซื้อ
1.Scheduler แจ้งเตือนกิจกรรมของเด็ก คุณพ่อคุณแม่สามารถฝึกความรับผิดชอบของเด็กๆ โดยการตั้งตารางเวลาผ่านแอปพลิเคชั่น และระบุตารางเวลากิจกรรมประจำวันของเด็กๆ เช่น ตื่นนอน แปรงฟัน ทานอาหาร ทำการบ้าน และเข้านอน
2.Take Me Home นำทางกลับบ้าน ผู้ปกครองสามารถระบุตำแหน่งของบ้านไว้ในตัวนาฬิกาของเด็ก เมื่อเด็กมีการพลัดหลงสามารถใช้ฟังก์ชั่นนี้เป็นแผนที่นำทางกลับบ้านได้ด้วยตัวเอง
3.My Watch นาฬิกาของฉัน เด็กๆ สามารถออกแบบหน้าปัดนาฬิกาตามแบบต่างๆ ที่ชอบได้เอง และสามารถเปลี่ยนสีต่างๆ ของ Waffle Band (สายห่วง) เพื่อฝึกพัฒนาการทางด้านความคิดสร้างสรรค์
4.Voice Calling ทั้งรับ และโทร.ได้ในเครื่องเดียว คุณพ่อคุณแม่สามารถกำหนดเบอร์โทรศัพท์คนในครอบครัว และเพื่อนๆ ให้สามารถโทร.หานาฬิกา POMO ได้สูงสุด 60 เบอร์ ขณะที่นาฬิกาสามารถกดโทร.ออกไปยังเบอร์โทรศัพท์ที่ตั้งค่าไว้ได้สูงสุด 60 เบอร์ เช่นกัน ทั้งนี้ สามารถโทร.ผ่านระบบ VoIP โดยไม่เสียค่าใช้เพิ่มเติมจากแพกเกจ
5.Smart Locator ระบบ GPS ติดตามโลเคชั่น ระบบการทำงานของนาฬิกา Pomo Waffle ถูกออกแบบมาโดยเพิ่มความแม่นยำมากยิ่งขึ้น โดยทำงานร่วมกันระหว่าง Wi-Fi, GPS A, GPS และ LBS ดังนั้น ผู้ปกครองสามารถค้นหาสถานที่ของนาฬิกาได้ตลอดเวลาที่ต้องการ ซึ่งจะปรากฏบนแผนที่ และยังสามารถค้นหาสถานที่ของเด็กได้ทีละหลายคนพร้อมกัน
6.Safe Zone กำหนดพื้นที่ปลอดภัยของเด็กผู้ปกครองสามารถกำหนดพื้นที่ปลอดภัยให้กับเด็กได้ด้วยตนเอง และทำการแจ้งเตือนมายังแอปพลิเคชั่นเมื่อเด็กออกจากพื้นที่ที่กำหนด กดปุ่ม SOS แจ้งผู้ปกครองเมื่อมีเหตุฉุกเฉิน แจ้งข้อมูลโลเคชั่นย้อนหลังเพิ่มความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น โดยผู้ปกครองสามารถดูตำแหน่งย้อนหลังของเด็กๆ ผ่านแอปพลิเคชั่น เพียงเลือกตามช่วงเวลาที่ต้องการ
แม่ ๆ ที่สนใจ แนะนำนาฬิกาเด็กของ POMO HOUSE นาฬิกาโทรศัพท์เด็ก แปลภาษาได้ พร้อมฟังก์ชันความปลอดภัย ระบุตำแหน่ง พื้นที่ปลอดภัย แจ้งเตือนเหตุฉุกเฉิน ตอบโจทย์ของปลอดภัยของลูกอีกด้วย
สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ : www.raklukeselect.com