คำพูดของพ่อกับแม่นั้นมีผลต่อจิตใจและพัฒนาการของลูกมาก และถ้าหากพูดทำร้ายจิตใจลูกก็จะส่งผลเสียระยะยาว ยิ่งตอนที่ลูกกลัวบางอย่าง เช่น กลัวความมืด กลัวผี กลัวสัตว์ต่าง ๆ กลัวการเข้าโรงเรียน เป็นต้น ก่อนที่พ่อกับแม่จะพูดอะไรต้องคิดให้ดี และนึกถึงจิตใจของลูกให้มาก ๆ ค่ะ
เชื่อแม่เหอะเดี๋ยว มันจะไม่เป็นไร! คำพูดนี้มันตรงข้ามกับใจลูก มันจะต้องมีอะไรเกิดขึ้นแน่นี่คือสิ่งที่ลูกคิด ดังนั้นนั่งอยู่กับลูกสักพัก คุยกันว่าทำไมลูกถึงกลัว ให้กำลังใจลูก ให้ความเห็นทางบวกให้แตกต่างจากสิ่งที่ลูกคิดแล้วลูกจะเชื่อแม่จากใจจริงๆ
ไม่เห็นมีอะไรต้องกลัว! เมื่อลูกกำลังกลัว วิตกกังวลอยู่ภายในจิตใจ คำพูดนี้เหมือนการบอกปัดไม่อยากรับรู้เรื่องราวของลูก แม้จะเป็นการกลัวเล็กๆ น้อยๆ ก็มีผลกับใจลูกมาก ควรถามลูกอย่างเอาใจใส่ สนใจสิ่งที่ลูกเล่า และให้คำแนะนำที่มีทางเลือกให้ลูกตัดสินใจเอง
เดี๋ยวแม่จะบอกเหตุผลร้อยแปดเหตุผล ที่บอกลูกว่าลูกไม่ต้องกลัว! ลูกรู้ว่าพ่อและแม่พูดถูก แต่ตอนนี้ลูกมีความรู้สึกวิตกกังวลมากและกลุ้มใจในสิ่งนั้น จนไม่สามารถคิดอย่างชัดเจนได้ คำพูดนี้เหมือนการพูดไปลอยๆ แต่ไม่ได้บอกเหตุผลมากมายอย่างนั้นจริงๆ ควรให้คำแนะนำลูกเลย อย่าบอกปัดและเดินหนีไป
หยุดเป็นคนขี้วิตกกังวลสักที! นี่คือคำพูดที่ทำให้ลูกรู้สึกแย่กว่าเดิม ลูกก็อยากจะหยุดความวิตกกังวลนี้เหมือนกัน แต่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร คำพูดแบบนี้ยิ่งทำให้ลูกกลัว
พ่อแม่ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมลูกถึงกลัวมากขนาดนั้น! การพูดแบบนี้ยิ่งแย่ไปกว่าเดิม เหมือนการดูถูกความรู้สึกลูกด้วย ลูกรู้ว่าพ่อแม่ไม่เข้าใจ แต่ลูกอยากให้พ่อแม่พยายามเข้าใจ ว่าลูกกำลังเผชิญอะไรอยู่ ดังนั้นการพูดคุยกันกับลูกให้มากๆ คือทางออกที่ดีจะได้เข้าใจลูกด้วย
รู้แบบนี้แล้ว อย่าเผลอพูดทำร้ายจิตใจลูกอีกนะคะ เราต้องให้กำลังใจใช้เหตุผลพูดคุยกันถึงปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อหาทางออกร่วมกัน แล้วพูดกับลูกว่า พ่อแม่จะอยู่เคียงข้างหนู ไม่ต้องกลัว หนูรู้สึกอย่างไรให้พูดกับพ่อแม่ได้ตลอดเวลา พ่อแม่จะพร้อมรับฟังลูกเสมอค่ะ