โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ถือเป็นอีกหนึ่งโรคที่มักเกิดขึ้นได้ในเด็ก เนื่องจากธรรมชาติของเด็กวัยนี้มักห่วงเล่น จนทำให้ดื่มน้ำน้อย และอั้นปัสสาวะเพราะกลัวว่าจะเล่นไม่ทันเพื่อน ร่วมกับเด็กๆ ยังไม่รู้วิธีในการดูแลสุขลักษณะในการเข้าห้องน้ำที่ถูกต้องจนพานให้เจ้าเชื้อแบคทีเรียเข้าไปก่อกวนกระเพาะปัสสาวะของลูกได้ เกี่ยวกับเรื่องนี้
ผศ.พญ.วนัทปรียาพงษ์สามารถ กุมารแพทย์โรคติดเชื้อ โรงพยาบาลศิริราช จะมาไขความสงสัยเกี่ยวกับสาเหตุ พฤติกรรมที่ก่อโรค และวิธีป้องกัน (ด้วยตัวลูกเอง) เพื่อช่วยให้ลูกห่างไกลจากอาการแสบ (และสารพัดอาการอื่นๆ) จากโรคนี้กันค่ะ
จะลงลึกเรื่องโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับระบบการทำงานของกระเพาะปัสสาวะเพื่อจะได้เข้าใจเรื่องโรคนี้อย่างถึงกึ๋นกันก่อนค่ะ
ระบบการทำงานของกระเพาะปัสสาวะนั้นเริ่มจากไตมาที่ท่อไต กระเพาะปัสสาวะ และมาที่ท่อปัสสาวะ ปกติไตจะเป็นตัวทำหน้าที่ขับของเสียออกจากร่างกายแล้วขับออกมาเป็นปัสสาวะ จากไตสองข้างปัสสาวะจะไหลมาที่ท่อไตแล้วก็ลงมาที่กระเพาะปัสสาวะ ซึ่งมีลักษณะเป็นถุงบางๆ หน้าที่กระเพาะปัสสาวะคือกักเก็บปัสสาวะ หากไม่มีกระเพาะปัสสาวะปัสสาวะก็จะไหลออกมาตลอดเวลาค่ะ และเมื่อน้ำถูกกักเก็บในกระเพาะปัสสาวะจนกระเพาะปัสสาวะขยายตัวประมาณหนึ่งแล้วก็จะเกิดการกระตุ้นให้เกิดการปวดปัสสาวะขึ้นมาค่ะ
ซึ่งเมื่อปวดปัสสาวะขึ้นมาแล้วในผู้ใหญ่อย่างเราๆ ก็คงจะต้องรีบแจ้นไปเข้าห้องน้ำใช่ไหมคะ แต่สำหรับเด็กๆ ที่ยังเล็กและไม่รู้จักดูแลตัวเองในเรื่องสุขลักษณะในการเข้าห้องน้ำนั้นไม่ได้ประพฤติเหมือนเรา หากแต่… ‘ชอบกลั้น’ และ ‘ไม่ดื่มน้ำ’ เพราะติดเล่น ร่วมกับการรักษาความสะอาดหลังการเข้าห้องน้ำไม่ดีพอ คราวนี้ละค่ะปัญหาของโรคจึงบังเกิด
โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบหากแปลตรงตัวก็คือการอักเสบของกระเพาะปัสสาวะ ซึ่งส่วนใหญ่ในเด็กเกือบ 100% จะเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียค่ะ ซึ่งปกติในกระเพาะปัสสาวะไม่ควรมีเชื้อโรคใดๆ อยู่เลย แต่ในเด็กโดยเฉพาะเด็กผู้หญิงจะเป็นได้ง่าย เนื่องจากช่องในการขับถ่ายปัสสาวะของเด็กผู้หญิงจะอยู่ใกล้ช่องคลอดและรูทวารหนัก ซึ่งบริเวณนี้จะมีเชื้อแบคทีเรียอยู่จำนวนมาก และเชื้อแบคทีเรียจากบริเวณเหล่านี้อาจเล็ดลอดผ่านช่องปัสสาวะและเข้าไปในท่อปัสสาวะได้ง่ายกว่าเด็กผู้ชายค่ะ
โดยทั่วไปหากเชื้อแบคทีเรียมีปริมาณเล็กน้อย ร่วมกับเด็กๆ ดื่มน้ำและปัสสาวะออกมาบ่อยๆ ก็อาจขับเชื้อแบคทีเรียนั้นออกมาได้ แต่กรณีที่เชื้อแบคทีเรียเข้าไปในปริมาณมาก หรือเป็นเชื้อที่มีความรุนแรงมากก็อาจทำให้เด็กเกิดอาการขึ้นมาได้ค่ะ
สำหรับอาการของโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบนั้น คุณพ่อคุณแม่สามารถสังเกตได้ทั้งจากการบ่นของลูก ร่วมกับพฤติกรรมต่างๆ เหล่านี้ค่ะ
บ่นแสบ บ่นปวด เมื่อเกิดโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ จะทำให้เกิดการอักเสบบริเวณช่องปัสสาวะ และบริเวณท้องน้อย ดังนั้นเมื่อเด็กๆ เข้าห้องน้ำก็อาจบ่น “แสบ” ร่วมกับการปวดท้องน้อยได้ค่ะ เข้าห้องน้ำบ่อยผิดปกติ พร้อมบ่นอุบอิบ “ฉี่ไม่ค่อยออก” เนื่องจากมีอาการปัสสาวะขัดร่วมด้วย ปัสสาวะราดซะเฉยๆ กรณีที่เด็กๆ สามารถควบคุมเรื่องการขับถ่ายได้แล้ว แต่จู่ๆ ก็มีปัญหาปัสสาวะรดที่นอน ไม่สามารถกลั้นปัสสาวะได้ ก็ถือเป็นอาการของโรคได้เช่นกัน
นอกจากพฤติกรรมข้างต้นแล้วคุณพ่อคุณแม่ควรสังเกตอาการอื่นๆ ร่วมด้วยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นปัสสาวะมีกลิ่นแรงกว่าปกติ มีสีที่แปลกไปคือมีสีขุ่นหรือสีออกส้มๆ ซึ่งหากลูกมีอาการเหล่านี้ร่วมด้วย ก็ควรพาลูกมาพบแพทย์เพื่อรับการตรวจ ซึ่งคุณหมอจะใช้การสังเกตอาการร่วมกับการตรวจปัสสาวะเพื่อหาเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งภายในไม่กี่นาทีก็ทราบผลค่ะว่าเจ้าหนูเป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบหรือไม่ หากกรณีที่พบว่าเป็นแล้ว คุณหมอก็จะให้ยาฆ่าเชื้อมาทานเพื่อรักษาอาการ ซึ่งเด็กๆ จะหายเป็นปกติดีภายใน 7-10 วันค่ะ
สำหรับวิธีป้องกันไม่ให้เจ้าหนูเกิดเป็นโรคกระเพาะปัสสาวะขึ้นมานั้น วิธีที่ดีที่สุดก็คือการฝึกให้ลูกมีสุขลักษณะที่ดีในการเข้าห้องน้ำที่ถูกต้องค่ะ ซึ่งคุณสามารถสอนพวกเขาได้ดังนี้…
3 วิธีสอนลูกให้รู้จักป้องกันตัวเองจากโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบไม่ใช่เรื่องยากเลยใช่ไหมคะ ดังนั้นนอกจากสังเกตอาการเจ้าหนูคงไม่พอ จะให้ดีสอนวิธีป้องกันตัวเองให้พวกเขาเสียเลยคงจะดีกว่าการรอให้ลูกเป็นโรคแล้วมานั่งรักษากันภายหลัง คิดเหมือนกันไหมคะ…