แม่ท้องเช็กเลย! เป็นโลหิตจางหรือไม่ อันตรายต่อลูกในครรภ์แค่ไหน

คุณแม่เคยได้ยินโรคภาวะโลหิตจางรุนแรงไหมคะ ภาวะโลหิตจางเกิดขึ้นได้กับทุกคน โดยเฉพาะแม่ท้องที่มีภาวะโลหิตจาง จะส่งผลเสียต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของทารกในครรภ์ ทำให้ลูกตัวเล็ก เติบโตช้า เรามาดูกันว่าเกิดจากสาเหตุอะไร พร้อมวิธีการดูแลตัวเองของแม่ท้องเมื่อเป็นโลหิตจาง มาฝากกันค่ะ
 
สาเหตุโลหิตจางของแม่ตั้งครรภ์

1. กินอาหารไม่เพียงพอ ทำให้ร่างกายขาดธาตุเหล็กและกรดโฟลิกที่จำเป็นต่อแม่ตั้งครรภ์
2. คุณแม่มีภาวะรกเกาะต่ำ ทำให้เลือดออกทางช่องคลอด สูญเสียเลือดขณะตั้งครรภ์เป็นจำนวนมาก
3. เป็นพาหะหรือมีพันธุกรรมแฝงของโรคธาลัสซีเมีย  

อาการโลหิตจางของแม่ตั้งครรภ์

• วิงเวียนศีรษะ หน้ามืด ใจสั่นและเหนื่อยง่าย
• ภาวะซีด ตัวซีดไม่มีเหลืองฝาด

ช่วงตั้งครรภ์ปริมาณน้ำเลือดจะเพิ่มมากกว่าปริมาณเม็ดเลือดแดง ส่งผลให้เลือดจางกว่าปกติ โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสที่สอง เลือดจะจางมากที่สุด ทำให้เกิดภาวะซีด อาจส่งผลให้ทารกคลอดก่อนกำหนดได้ค่ะ อาการเลือดจางยังอาจส่งผลเสียต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของทารกในครรภ์ ทำให้เด็กตัวเล็ก เติบโตช้า แม้ว่าจะคลอดเมื่อครบกำหนด ก็อาจมีน้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์ปกติได้

วิธีดูแลแม่ตั้งครรภ์ภาวะโลหิตจาง

1. เมื่อพบว่าตนเองเป็นโลหิตจาง คุณหมอจะให้ยาวิตามินเสริมธาตุเหล็กประมาณ 60-70 มิลลิกรัมที่ช่วยเพิ่มเม็ดเลือดแดง เพราะการกินอาหารให้ครบ 5 หมู่เป็นปกติไม่เพียงพอต่อความต้องการธาตุเหล็กของร่างกายแม่ตั้งครรภ์ค่ะ
   
   
2. กินอาหารที่มีธาตุเหล็ก เช่น ผักใบสีเขียว ถั่ว งาดำ ธัญพืช และเนื้อสัตว์ต่างๆ เนื้อวัว เนื้อหมู ไก่ ตับ ปลาทูน่า กุ้ง ไข่แดง เป็นต้น
   
   
3. คุณแม่ต้องกินวิตามินซีควบคู่ไปด้วยค่ะ เพราะวิตามินซีมีช่วยเพิ่มการดูดซึมของธาตุเหล็กให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น เช่น ผลไม้รสเปรี้ยว ส้ม มะนาว ฝรั่ง เป็นต้น

เมื่อคุณแม่ทราบว่าตัวเองเป็นโรคโลหิตจาง ควรรีบปรึกษาคุณหมอหรือแพทย์ประจำตัวที่ไปฝากครรภ์ เพื่อตรวจเช็กให้แน่ใจก่อนนะคะ จากนั้นแพทย์จะให้ยามารับประทาน พร้อมคำแนะนำดีๆ รวมถึงวิธีการเลือกกินอาหาร และการใช้ชีวิตที่ถูกต้องของคุณแม่ตั้งครรภ์ที่เป็นโรคโลหิตจางด้วยค่ะ