การคลอดก่อนกำหนดสามารถตรวจคัดกรองก่อนได้เพื่อดูแลได้อย่างถูกต้อง คุณแม่ตั้งครรภ์ตรวจคัดกรองป้องกันการคลอดก่อนกำหนดได้ 2 วิธี
การคลอดก่อนกำหนด คือ การคลอดลูกก่อนวันกำหนดคลอดที่แพทย์ประเมินไว้ ซึ่งอาจส่งผลให้คุณแม่ต้องผ่าคลอดฉุกเฉิน หรือ คลอดธรรมชาติตามแต่ความเสี่ยง การคลอดก่อนกำหนดเป็นภาวะที่แม่ตั้งครรภ์หลายคนกังวลใจ เพราะทารกที่คลอดก่อนกำหนดมักมีอาการผิดปกติ อวัยวะภายในยังทำงานไม่สมบูรณ์ มีโอกาสติดเชื้อสูง ดังนั้นการดูแลตัวเองให้ถูกต้อง พบแพทย์อย่างสม่ำเสมอจึงเป็นหนึ่งในการลดความเสี่ยงคลอดก่อนกำหนดได้ค่ะ
ปัจจัยเสี่ยงของภาวะเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนดมีทั้งปัจจัยที่ป้องกันได้และป้องกันไม่ได้ คุณแม่ตั้งครรภ์จึงควรให้ความใส่ใจในการเตรียมความพร้อมก่อนตั้งครรภ์ ตรวจคัดกรองและแก้ไขปัจจัยเสี่ยงต่างๆ และปรับพฤติกรรมให้เหมาะสม เพื่อลดโอกาสเกิดภาวะเจ็บครรภ์ก่อนกำหนดในครรภ์นั้นๆ เมื่อเริ่มตั้งครรภ์แล้วควรรีบไปฝากครรภ์เพื่อให้แพทย์ช่วยประเมินความเสี่ยงและให้การป้องกันด้วยยา
การวัดความยาวปากมดลูกโดยตรวจคลื่นเสียงความถี่สูงทางช่องคลอด (transvaginal cervical length measurement)
หากไม่มีประวัติคลอดก่อนกำหนดมาก่อน แพทย์จะแนะนำรับการตรวจคัดกรองวัดความยาวปากมดลูกด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงตั้งแต่อายุครรภ์ 18 สัปดาห์ขึ้นไป โดยเพิ่มเติมจากการตรวจดูความสมบูรณ์ของทารกในครรภ์ด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงทางหน้าท้อง ถ้าพบว่า สั้นมากกว่า 2 เซ็นติเมตร แพทย์จะให้ยาฮอร์โมนเหน็บทางช่องคลอดทุกวัน แต่ถ้าปากมดลูกสั้นกว่า 1.5 เซ็นติเมตร อาจได้รับการแนะนำให้ทำการเย็บผูกปากมดลูก เพื่อลดความเสี่ยงของการคลอดก่อนกำหนด/แท้งในไตรมาส 2
การตรวจวัดความยาวปากมดลูกนั้นมีความสำคัญและมีประโยชน์ในการคัดกรองความเสี่ยง เพราะเป็นการตรวจที่ทำได้ง่าย และหากพบว่าปากมดลูกสั้น ก็มีวิธีการดูแลด้วยยาฮอร์โมนรองรับ ดังนั้นเมื่อสตรีตั้งครรภ์ไปรับการตรวจดูความสมบูรณ์ของทารกในครรภ์ด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงตามนัดแล้ว ควรได้รับการตรวจประเมินความยาวปากมดลูกด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงทางช่องคลอดเพิ่มเติมไปด้วยในคราวเดียวกัน