แม่หลังคลอดอาจมีอาการไข้ ปวดหัว ตัวร้อนขึ้นได้ แต่หากมีไข้พร้อมกับอาการอื่น ๆ อาจเป็นสัญญาณของโรคติดเชื้อรุนแรงที่จะตามมา
4 อาการไข้หลังคลอดที่แม่หลังคลอดเป็นมากที่สุด บางอาการส่งผลถึงนมแม่
คุณแม่หลังคลอดอาจมีอาการไข้ ปวดหัว ตัวร้อน เกิดขึ้นได้ค่ะ เป็นเพราะปฏิกิริยาตอบสนอง เมื่อร่างกายมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งรักษาง่าย ไม่นานก็หาย ไม่มีอันตราย แต่ถ้าคุณแม่มีไข้พร้อมกับอาการอื่น ๆ อาจเป็นสัญญาณของโรคติดเชื้อรุนแรงที่จะตามมา และต้องได้รับการดูแลรักษาโดยด่วน เพราะบางอาการไข้หลังคลอดส่งผลต่อนมแม่ และการให้นมด้วย
อาการไข้หลังคลอดลูกเป็นอย่างไร
หลังคลอด 1 วันแรก หากคุณแม่มีอาการไข้ ปวดเมื่อยตัว ปวดหัว ตัวร้อน ถือว่าเป็นอาการไข้ธรรมดา ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้เนื่องจากร่างกายเหน็ดเหนื่อยจากการคลอด และการอักเสบของเซลล์ต่างๆ จากการคลอดหรือผ่าตัดคลอด
วิธีรักษาอาการไข้หลังคลอด
- เพื่อป้องกันอาการไข้หลังคลอด วันแรกหลังคลอด คุณแม่ควรลุกจากเตียง ขยับตัว หรือเดินเข้าห้องน้ำบ่อย ๆ เพื่อให้เลือดภายในร่างกายไหลเวียนได้ดี
- ควรดื่มน้ำวันละ 2 ลิตร เพื่อช่วยให้มีน้ำในการใช้สร้างน้ำนม อุจจาระนิ่ม ถ่ายได้ง่าย และในกรณีมีไข้จะมีการสูญเสียน้ำ จึงควรดื่มน้ำเยอะ ๆ
- ควรฝึกไอจากช่องท้อง เพื่อขับเสมหะที่ค้างอยู่ภายในหลอดลมออกมาให้หมด หากเป็นคุณแม่ที่คลอดโดยการผ่าตัด ควรใช้มือกดแผลไว้ สูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วจึงไอออกมา
- ถ้าคุณแม่กำลังมีไข้สามารถทานยาพาราเซตามอลได้ ควรเช็ดตัวเพื่อลดไข้ และ กรณีที่นอนนาน ๆ ต้องระวังเรื่องการอุดตันของหลอดเลือด จึงควรหมั่นขยับขาและกระดกข้อเท้าบ่อยๆ เพราะการอุดตันของหลอดเลือดก็ทำให้มีไข้ได้ค่ะ
4 อาการไข้หลังคลอดที่แม่หลังคลอดเป็นมากที่สุด
-
อาการไข้ ปวดหลัง ปัสสาวะบ่อย และเจ็บมาถึงท้องน้อยเวลาปัสสาวะ หนาวสั่น (หลังคลอด 2-3 วัน)
เกิดจากการอักเสบของกรวยไต หรือติดเชื้อที่ทางเดินปัสสาวะ ส่วนใหญ่จะพบในคุณแม่ที่คลอดยาก ต้องตรวจภายในหลายครั้งก่อนคลอด หรือคุณแม่หลังคลอดปัสสาวะไม่ออก แล้วต้องให้คุณหมอสวนปัสสาวะหลายๆ ครั้ง และคุณแม่หลังคลอดที่ต้องใส่สายสวนปัสสาวะไว้นานจนเกินไป ทำให้เกิดการติดเชื้อที่ทางเดินปัสสาวะ เมื่อได้รับการตรวจปัสสาวะจะพบว่ามีเม็ดเลือดขาวและแบคทีเรียเจือปน
วิธีรักษาอาการไข้ ปวดหลัง ปัสสาวะบ่อย
คุณหมอจะให้น้ำเกลือ ให้ยาปฏิชีวนะทางเส้นเลือด และดื่มน้ำเยอะ ๆ
- มีไข้สูง หนาวสั่น เจ็บเต้านม เต้านมแดงคัดมาก (หลังคลอด 7 วัน)
คุณแม่หลังคลอดจะมีอาการอักเสบที่เต้านมได้ถึง 15% โดยจะรู้สึกคัดตึงที่เต้านมและมีไข้ประมาณ 38-39 องศาเซลเซียส แต่ถ้าคุณแม่ประคบเต้านม และหมั่นให้ลูกดูดนมบ่อยๆ อาการไข้ก็จะหายเองได้ แต่ถ้ามีอาการติดเชื้อที่เต้านม จะมีไข้สูงติดต่อกัน 7-10 วัน ส่วนใหญ่จะเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียจากสิ่งสกปรกที่อยู่ในสิ่งแวดล้อม ซึ่งถ้าคุณแม่มีหัวนมแตก เชื้อโรคจะเข้าไปได้ง่าย จนกลายเป็นหนองที่เต้านมได้ค่ะ
วิธีรักษาอาการไข้สูง หนาวสั่น เจ็บเต้านม เต้านมแดงคัดมาก
ในกรณีที่ไข้สูง อักเสบมากหรือเป็นหนอง จำเป็นต้องฉีดยาปฏิชีวนะทางเส้นเลือด ให้น้ำเกลือ และเจาะดูดหนองออก
- อาการไข้ ปวดบวมแดงที่ขา กดที่ขาแล้วเจ็บ (หลังคลอด 5-6 วัน)
เป็นอาการอักเสบของหลอดเลือดดำบริเวณขา โดยปกติแล้วหลังคลอดภายใน 1-2 สัปดาห์ จะมีอาการขาบวมได้จากการที่เวลาเลี้ยงลูกแล้วต้องนั่งห้อยขานานๆ แต่ถ้าปวดบวม แดง กดเจ็บ และมีไข้ อาจมีการอักเสบของหลอดเลือดดำที่ขาได้ค่ะ
วิธีรักษาอาการไข้ ปวดบวมแดงที่ขา กดที่ขาแล้วเจ็บ
นอนหงาย ยกขาสูง พยายามหลีกเลี่ยงการยืนหรือห้อยขานาน ๆ ในระหว่างที่มีอาการปวด หรือหากมีอาการไข้และปวดมากควรทานยาลดไข้ กรณีที่หลอดเลือดดำอักเสบ อาจต้องให้ยาทางหลอดเลือดด้วย
- อาการไข้ ปวดเมื่อย ปวดท้อง ปวดมดลูก น้ำคาวปลาสีเข้มขึ้น และปริมาณมากขึ้น มีกลิ่นเหม็นและเป็นหนอง (หลังคลอด 5-6 วัน)
เป็นอาการอักเสบของมดลูกและเยื่อบุโพรงมดลูก เกิดจากการมีเชื้อโรคในโพรงมดลูก มีความเสี่ยงในกรณีที่ตอนคลอดแล้วรกค้าง ต้องใช้เครื่องมือเข้าไปในโพรงมดลูก ทำให้มีโอกาสติดเชื้อได้ หรือกรณีที่คลอดยาก รอคลอดหลายชั่วโมง ต้องตรวจภายในบ่อย ๆ ก็จะเกิดการอักเสบติดเชื้อได้ค่ะ และอาการแผลผ่าตัดติดเชื้อ ส่วนใหญ่จะเป็นในคุณแม่ที่น้ำเดินหลายชั่วโมงก่อนมาถึงโรงพยาบาลและต้องรอคลอดนานค่ะ
วิธีรักษาอาการไข้ ปวดเมื่อย ปวดท้อง ปวดมดลูก น้ำคาวปลาสีเข้มขึ้น
คุณหมอจะให้ยาปฏิชีวนะ ทางเส้นเลือด เพื่อรักษาการติดเชื้อค่ะ
อาการไข้รุนแรงหลังคลอดเหล่านี้ ถ้าไม่ได้รับการดูแลรักษาโดยเร็วจะเป็นอันตราย อาจเกิดการติดเชื้อเข้าสู่กระแสเลือดได้ ดังนั้น ถ้าคุณแม่หลังคลอดมีอาการไข้สูงพร้อมกับอาการที่รุนแรงร่วมด้วย ควรรีบปรึกษาแพทย์ค่ะ
เรียบเรียงจากการสัมภาษณ์
พญ.ธิศรา วีรสมัย สูตินรีแพทย์และแพทย์ด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย โรงพยาบาลพญาไท 1