สัญญาณของ 7 โรคตาที่พบได้บ่อยในเด็กวัยเรียนรู้ บางอาการส่งผลกระทบกับการมองเห็นโดยตรง บางอาการสัมพันธ์กับเรื่องสมอง พ่อแม่ต้องรู้และสังเกตอาการ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อพัฒนาการด้านอื่น ๆ โดย นพ.จรินทร์ ศักดิ์ธนะเศรษฐ จักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาโรคตาเด็กตาเหล่ มะเร็งลูกตา โรงพยาบาล BNH
ตอนนี้หมอมีคนไข้ที่คุณพ่อคุณแม่พามาตรวจตาด้วยเรื่องกะพริบตาบ่อยค่อนข้างเยอะ การกะพริบตาเกิดได้จากหลายสาเหตุ อาจจะเกิดจากการที่เด็กเคืองตาก็ได้ เกิดจากตาแห้งก็ได้ ไม่สบายตาก็ได้ ส่วนใหญ่พ่อแม่กังวลว่าการกะพริบตาแบบนี้เด็กจะเสียบุคลิกแล้วก็จะติดไปจนถึงเป็นผู้ใหญ่ แต่อย่างไรก็ดีส่วนใหญ่มักมีสาเหตุ การตรวจหาสาเหตุของกะพริบตาเป็นเรื่องที่สำคัญ
สาเหตุของการกะพริบตาส่วนใหญ่เพื่อให้ตาสบายขึ้น กะพริบตาเป็นการบีบเอาน้ำตาธรรมชาติให้ออกมาในผิวตา เพราะฉะนั้นก็จะสัมพันธ์กับอาการตาแห้งได้ เด็กหลายๆ คนพอดูจอไปนานก็จะกะพริบตาน้อยลง เด็กจ้องนานกะพริบตาน้อยลงตาแห้ง เขาก็ใช้วิธีการกะพริบตาเป็นการปั้มน้ำตาออกมาให้ตาชุ่มชื้นขึ้นสบายตามากขึ้นพอทำไปสักพักก็จะเริ่มติดแล้วเด็กก็จะทำแบบนี้มากขึ้น
หรือโรคบางอย่าง เช่น ภูมิแพ้ขึ้นตา เช่น ฝุ่นเข้าตา เหมือนเวลาที่มีฝุ่นเข้าตาเราเองเราก็จะมีการกะพริบตาให้เยอะขึ้น หลังจากกะพริบตาสักพักหนึ่งก็จะมีอาการเคืองตาก็จะมีน้ำตาไหลออกมาเป็นการล้างฝุ่นนั้นออก เด็กที่เป็นภูมิแพ้ตาก็มีมาด้วยอาการกะพริบตาได้ กลุ่มถัดมา เช่น อาจจะมีขนตาทิ่มตาเขาอยู่ มีเศษฝุ่นอยู่ในตาเด็กก็กะพริบตาได้
โรคสายตาผิดปกติ เช่น สายตาสั้น เด็กบางคนก็จะใช้วิธีการกะพริบตา โรคตาเข เด็กที่ตาเขออกบางรายก็จะใช้วิธีการกะพริบตาแบบนี้เป็นการควบคุมตาให้ตาเขากลับมาตรง เพราะฉะนั้นถ้าเด็กมีการกะพริบตาที่ผิดปกติ หมอก็แนะนำว่าไปตรวจก่อนว่าเกิดจากสาเหตุใดเพราะเกิดได้จากหลายสาเหตุ พอเราหาสาเหตุได้คุณหมอก็จะทำการรักษาตามสาเหตุต่อไป เช่น ถ้ามีขนตาก็เอาขนตาออกให้แนะนำอาจจะป้ายเจลเพื่อให้ตาสบายขึ้น ปรับเวลาการดูจอให้น้อยลง หรือจะสวมแว่นกรองแสง หรือว่าต้องหยอดยาเพื่อป้องกันโรคภูมิแพ้ เป็นต้น
กะพริบตาเป็นคนละอาการกับติกส์ไหม
คนละอาการ ถ้าติกส์จะเป็นอาการเคลื่อนไหวลักษณะผิดปกติมักมีอาการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อใบหน้าส่วนอื่นๆ ด้วย แล้วมันจะคอนโทรลไม่ได้ ติกส์จะมีอาการขยับปากเอียงคอแล้วก็มีอะไรหลายอย่างร่วมกันไม่ใช่แค่กะพริบตา เด็กกะพริบตาถ้าในบางคนที่ช่วงเขาเพลินๆ เช่น พาไปวิ่งเล่นออกนอนบ้านจะหายไม่กระพริบ ติกส์จะไม่กระพริบจะขยับตลอดเวลาไม่ว่าเด็กจะทำอะไร
บางทีการกะพริบตาอาจเกิดจากการที่เริ่มจากบางอย่าง เช่น เด็กดูจอนานแล้วเขากะพริบตาแล้วเขาสบาย เขาก็จะติดการกะพริบตานั้นได้ติดแต่ไม่ติดรุนแรง เขาอาจจะติดกะพริบตาหลังจากดูจอต่อเนื่องมาได้ กลุ่มนั้นก็อาจจะกะพริบตาแต่ถ้าเพลินๆ ก็อาจจะหาย อาจจะหยอดน้ำตาเทียมช่วยให้หายได้ แต่ถ้าเป็นติกส์จะมีอาการขยับเยอะมากแล้วก็คอนโทรลไม่ได้บอกให้หยุดก็ไม่หยุด
ตาเหล่มีแบ่งได้ทั้งตาเหล่เข้าและตาเหล่ออก และก็อาจจะมีตาเหล่ขึ้นตาเหล่ลงได้ด้วย ตาเหล่เป็นกรรมพันธุ์บ้านไหนหรือครอบครัวไหนมีพ่อแม่หรือปู่ยาตายายพี่น้องที่เป็นตาเขหรือตาเหล่ก็สามารถถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ได้หรือเป็นเองก็ได้แบบไม่มีสาเหตุ ตาเหล่เข้าในมีแบบชนิดที่เป็นแต่กำเกิดและชนิดที่เกิดจากสายตายาว
ฉะนั้นถ้าเราสงสัยว่าเป็นตาเหล่อาจจะต้องมาตรวจโรงพยาบาลเพราะว่าการรักษาไม่เหมือนกัน ถ้าเป็นตาเหล่เข้าในแต่กำเนิดก็อาจจะต้องผ่าตัด ถ้าเกิดจากสายตาก็ใส่แว่นก็อาจจะหาย ตาเขออกจะพบบ่อยในช่วงเด็ก 2-4 ขวบ ตาจะเขออกไปข้างหนึ่ง
ตาเหล่กับตาเขผลกระทบต่อการมองเห็น
ธรรมชาติให้ตาเรามา 2 ข้าง ตา 2 ข้างทำงานพร้อมกันเวลาเราจ้องมองวัตถุ สมมติเราให้เด็กมองเลขหนึ่งที่กระดานตาซ้ายก็จะมองเห็นเลขหนึ่งตาขวาก็จะมองเห็นเลขหนึ่งทั้งคู่ ถ้า 2 ตามองจุดเดียวกันเรียกว่าตาตรง แต่ถ้าตาทางซ้ายมองเลขหนึ่งตาขวามองทางอื่นอันนี้เรียกว่าตาเหล่ไม่ว่ามองไปทางซ้ายหรือทางขวาสิ่งที่เกิดขึ้น
คือเด็กจะมองเห็นเป็น 2 ภาพเพราะตาซ้ายมองเลขหนึ่งตาขวาไปมองอย่างอื่นมองอะไรไม่รู้ เพราะแล้วแต่มุมองศาที่ตาเขไป สมองจะทำการเลือกภาพที่สนใจอยู่สมองสมมติสนใจเลขหนึ่งอยู่ก็ดูที่เลขหนึ่งแล้วก็จะตัดภาพทางขวานั้นไปเพื่อไม่ให้สับสนว่าเป็น 2 ภาพ
ฉะนั้นพอเกิดเหตุการณ์นี้ซ้ำไปเรื่อยๆ สมมติเด็กคนนี้ตาเหล่ใช้ตาซ้ายจ้อง พอเกิดเหตุการณ์นี้เรื่อยๆ ความสามารถของตาขวาจะลดลงเพราะสมองทำการตัดสัญญาณทิ้งไปเรื่อยๆ เพราะมันไม่มีการกระตุ้นจากแสงเขาเรียกตาขี้เกียจพอไม่มีการกระตุ้นต่อเนื่องสักพักพัฒนาการของสมองข้างนี้จะถดถอย ข้างที่ใช้อยู่ต่อเนื่องคือข้างซ้ายที่มองเลขหนึ่งแสงจะเข้าข้างนี้แสงจะไปกระตุ้นสมองข้างเดียวกันของที่รับต่างๆ ข้างซ้าย ตาซ้ายกับตาขวาสมองแยกกัน
เพราะฉะนั้นแสงที่เข้าจากตาซ้ายมันก็จะได้รับการกระตุ้น สมองที่ได้รับสัญญาณจากตาขวามันก็ไม่ได้รับการกระตุ้นตัดถูกสัญญาณทิ้งไปเรื่อยๆ เรียกว่าตาขี้เกียจ พอเด็กมองด้วยตาข้างเดียวสิ่งที่เกิดขึ้นคือ
1.มุมมองการมองเห็นก็จะแคบลงเพราะมองเห็นด้วยตาข้างเดียวสังเกตว่าเรามองด้วยสองตามุมจะกว้างแต่ถ้ามองด้วยตาข้างเดียวมันจะแคบกว่า
2.ความคมชัดจะลดลงเหมือนเวลาเรามองวัตถุมองด้วยตาเดียวก็ชัดในระดับหนึ่งแต่ถ้าเรามองด้วยสองตาก็ชัดดับเบิ้ลขึ้นไปอีก
3.การมองภาพ 3 มิติ หายการกะระยะชัดลึกหายซึ่งมีผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น โตขึ้นต้องขับรถถ้ามองด้วยตาข้างเดียวจะกะระยะเบรกลำบาก หรือง่ายๆ เล่นกีฬาจะชู้ดบาสลงห่วงกะระยะความลึกพวกนี้จะสูญเสียไป
ในคนที่มองด้วยตาข้างเดียวหรือชัดในตาข้างเดียวและอีกอย่างคือตาที่เหล่การมองเห็นจะถดถอยไปตาจะมัวลงมองไม่ชัด สมมติว่าวันหนึ่งเด็กคนนี้อายุเลย 13 ปี อย่างที่เราคุยกันไปตอนที่แล้วสมองจะหยุดพัฒนาการไปแล้วตาที่เป็นตาเหล่ข้างนั้นจะมัวไปตลอด วันดีคืนดีตาข้างที่ชัดเกิดมีปัญหามองไม่เห็นตาข้างนี้ก็จะมัวไปด้วย
วิธีการรักษา
ต้องพาไปตรวจก่อนสาเหตุเกิดจากอะไรหมอจะทำการตรวจตาละเอียดขยายม่านตา วัดสายตา ดูการกรอกตาว่ามีความผิดปกติของกล้ามเนื้อ ความผิดปกติที่สายตาหรือผิดปกติที่ตำแหน่งไหนจะได้รักษาเบื้องต้นตามสาเหตุ เช่น ผิดปกติที่สายตาก็มีแว่นให้ใส่
ในบางคนที่มีตาขี้เกียจจะเห็นเด็กบางคนก็จะโดนปิดตาเพื่อเป็นการกระตุ้น สมมติตาข้างขวาเป็นตาขี้เกียจข้างซ้ายเป็นตาดีเขาก็จะให้ปิดตาข้างซ้ายที่เป็นตาดีและให้ใช้ตาขวาที่เป็นตาขี้เกียจให้เต็มที่
สมมติทั้งวันตาขวาเหล่ตาซ้ายตรงอยู่เราก็ปิดตาซ้ายใช้ตาขวาบ้างจะได้มีสัญญาณไปกระตุ้นสมองส่วนที่เลี้ยงด้วยตาข้างนั้นบ้าง ก็จะมีการสลับกันใช้ จนถึงวันหนึ่งถ้าตายังไม่ตรงหมอก็จะทำการผ่าตัดเพื่อทำให้กล้ามเนื้อตาทำให้ตามองที่เดียวกันใช้สองข้างได้พร้อมกันก็คือตาตรงจำเป็นมาก
เพราะตาเหล่บางอย่างอันตรายโรคบางโรคที่อยู่หลังลูกตาเราไม่รู้เช่น เด็กมีจอประสาทตาลอกอยู่ เด็กมีเนื้องอกหรือมะเร็งในลูกตา เด็กบางคนจะมาด้วยโรคตาเหล่ได้ ตาเหล่ไม่ใช่เรื่องที่รอได้ถ้าเจอเด็กคนหนึ่งตาเหล่ขึ้นมาต้องรีบหาสาเหตุ เพราะบางสาเหตุอันตรายถึงชีวิตได้
ตาเหล่ ตาเข สังเกตได้ตั้งแต่อายุเท่าไหร่
จริงๆ ในช่วง 4 เดือนแรกเป็นช่วงที่พัฒนาการมองเห็นอยู่ ถ้ามีการตาเหล่เข้าในหรือตาเหล่ออกนอกในช่วง 2-4 เดือนแรก อันนี้คุณแม่ยังไม่ต้องซีเรียสเด็กบางคนอาจจะตาออกเด็กบางคนอาจจะตาเข้าได้ โดยส่วนใหญ่พอถึงอายุ 6 เดือน ก็มักจะดีขึ้นแล้วหายไป
ถ้าหลัง 6 เดือนแล้วเด็กยังมีตาเหล่ตาเขอยู่ค้างอยูหรือเราเห็นเด็กตาเหล่ทั้งวันเลยให้พาไปหาหมอก่อนได้เลย โดยๆ ส่วนมากในเด็กเล็กๆ 2-4 เดือน ตาเหล่เขาจะไม่ได้เหล่ทั้งวัน ช่วงไหนเพ่งก็อาจจะเข้าช่วงไหนเหมอก็อาจจะไหลออกได้เป็นตาเขออกได้ จะเข้าๆ ออกๆ ได้อยู่ในช่วง 2-4 เดือนแรก ถ้าหลัง 6 เดือนไปแล้วยังมีตาเหล่อยู่อันนั้นผิดปกติไม่ว่าเหล่เข้าหรือเหร่ออกต้องพาไปตรวจ
วิธีการสังเกตง่ายๆ เดี๋ยวนี้พ่อแม่ทุกคนมีโทรศัพท์มือถือส่วนใหญ่ผมจะแนะนำว่า
1.ให้ลูกหน้าตรง ห่างสัก 1 เมตร
2.เอามือถือเปิดแฟลชและถ่ายรูปแล้วให้ดูแสงสะท้อนของแฟลชว่าอยู่ที่กึ่งกลางตาดำไหม
ถ้าอยู่กึ่งกลางของทั้ง 2 ตาเรียกว่าตาตรง แต่ถ้าข้างหนึ่งตรงอีกข้างหนึ่งแสงแฟลชที่เป็นสีขาวๆ อยู่ตรงขอบตาข้างใดข้างหนึ่งไม่อยู่ตรงกลางเรียกว่าตาเหล่ เบื้องหลังของตาเหล่ตาเขไม่ใช่แค่ตาขี้เกียจอย่างเดียวแต่อาจเป็นเรื่องของพัฒนาการทางสมองที่กระทบกับลูกได้ รักษาด้วยวิธีการของโรคเบื้องหลังตาเหล่ตาเข ถ้าเป็นเนื้องอกก็รักษาตามโรค ถ้ามีต้อกระจกก็ต้องผ่าต้อกระจกถ้าเป็นจากสายตาก็ตัดแว่นสายตา ตาเหล่ตาเขรักษาได้หายได้ทำให้เกิดตาตรงได้
ตาขี้เกียจไม่ใช่ตาเหล่ตาเขเป็นคนละเรื่องกัน ตาขี้เกียจเป็นเรื่องของสมองที่เกี่ยวกับการมองเห็นพัฒนาได้ไม่เต็มร้อยไม่เต็มที่ อาจจะเกิดจากตาเหล่ตาเขก็ได้ อาจจะเกิดจากสายตาผิดปกติมากก็ได้ เกิดจากโรคในตาก็ได้
พอเราพบว่าเด็กคนหนึ่งมีตาขี้เกียจพัฒนาไม่เต็มร้อยเราก็หาสาเหตุ สาเหตุเกิดจากอะไร เช่น สาเหตุเกิดจากต้อกระจกบังเราก็ทำการผ่าตัดต้อกระจกเปลี่ยนเลนส์ตาให้ ถ้าเกิดจากสายตาผิดปกติเราก็ตัดแว่นให้ แก้ที่สาเหตุเบื้องต้นเป็นอันดับหนึ่ง อันดับที่สองเรากระตุ้นการมองเห็นของเด็ก ในสมัยก่อนเราปิดตา ปิดข้างนี้เพื่อให้ใช้ข้างนี้เพิ่ม
ปัจจุบันก็จะมีวิธีการกระตุ้นมีเครื่องสำหรับรักษาบางโรงพยาบาล มีเครื่องกระตุ้นให้ตาข้างที่ขี้เกียจกลับมาใช้งานเยอะขึ้น สมัยใหม่อาจจะมี I-pad หรือแผ่นสกรีนบางอย่างให้เด็กใส่แว่นแล้วก็เล่นเกมเพื่อเป็นการกระตุ้นตาข้างที่มองเห็นถ้าใช้ตาข้างเดียวจะเล่นเกมนี้ไม่ได้มีการกระตุ้นให้เด็กใช้ 2 ตาพร้อมกันถึงจะเห็นตัวตุ่น ถึงจะทุบหัวตุ๊กตาตัวนี้ได้จะมีเกมที่กระตุ้นตาขี้เกียจขายอยู่ในท้องตลาดอยู่บ้าง
จริงๆ ภูมิแพ้ขึ้นตาก็จะสัมพันธ์กับภูมิแพ้ฝุ่น ภูมิแพ้อากาศ ภูมิแพ้ที่ทำให้เด็กน้ำมูกไหล เด็กที่มีภูมิแพ้อากาศอยู่ เช่น มีน้ำมูก มีหอบหืด เราก็พบว่ามีเรื่องของภูมิแพ้ขึ้นตาได้สูงกว่าเด็กทั่วไป
เพราะจริงๆ แล้วเยื่อบุในตากับเยื่อบุในจมูกจะมีส่วนที่เชื่อมถึงกันอยู่ทางท่อน้ำตา ฝุ่นที่เด็กแพ้พอเข้าจมูกแล้วมีน้ำมูกพอเข้าตาก็จะคันได้ มีคนเคยจัดอันดับอยู่ในเมืองไทยว่าแพ้อะไรอันดับหนึ่งส่วนใหญ่จะแพ้ไรฝุ่นในที่นอน หมอน ผ้าห่ม ตุ๊กตา หลายๆ บ้านชอบมีตุ๊กตาบนเตียงนอนของเด็ก
อาการแพ้ไรฝุ่นที่พบบ่อยเลยคือตื่นมาเช้าเด็กจะมีขี้ตาเยอะคันตา ตาบวมๆ ฉ่ำๆ เพราะเขานอนกับไรฝุ่นที่แพ้มาทั้งคืน อันดับสองฝุ่นแมลงสาป แมลงสาปเวลาตายตามท่อตามถนนจะเป็นผงเล็กๆ ปลิวไปกับอากาศ
มีคนเคยทำวิจัยเก็บตัวอย่างฝุ่นในบ้านที่กรุงเทพจะเจอแทบทุกบ้านเพราะมันฟุ้งกระจายไปทั่ว ฝุ่นก่อสร้างถ้ามีการก่อสร้างถนนข้างบ้านมีการก่อสร้างตึกเด็กก็จะแพ้ฝุ่นได้ง่าย ขนสุนัขขนแมวก็จะเจอบ่อย PM2.5 ก็จะเจอช่วงที่มี PM2.5 ก็จะมีการระคายเคืองตา ตาแดง PM2.5 ก็จะมีฝุ่นหลายชนิดที่มาด้วยกัน
อีกอันที่เจอก็คือพวกละอองเกสรดอกไม้ใบไม้ใบหญ้าพวกนี้บางทีอาจจะมาเป็นรอบปี เช่น เกสรของดอกไม้บางอย่างจะมาช่วงฤดูฝน เขาจะเรียก Seasonal allergy คือจะมาช่วงบางฤดู บางคนแพ้เกสรของดอกไม้ชนิดนี้
บางคนไปสวนลุมไม่ได้เลยเพราะว่าสวนลุมปลูกต้นไม้แบบนี้แล้วเป็นต้นไม้ที่เขาแพ้พอเข้าไปก็จะเกิดอาการคันมาก เราจะต้องรู้เป็นความจำเป็นที่เราต้องรู้ว่าแพ้อะไรเพราะการรักษาภูมิแพ้ที่ดีที่สุดคือหลักเลี่ยงสิ่งที่แพ้พอมีอาการภูมิแพ้แล้วค่อยมารักษาต่อด้วยการหยอดน้ำตาเทียมจะให้ยาแก้แพ้แบบหยอดหรือชนิดกินถ้าคนที่แพ้มากอาจต้องให้ยาสเตียรอยด์เพื่อลดอาการอักเสบภูมิแพ้
อาการภูมิแพ้ขึ้นตากระทบการมองเห็นของเด็ก
ภูมิแพ้มีหลายระดับ ถ้าภูมิแพ้ไม่เยอะมากคันๆ ตาเด็กอาจจะกะพริบตาหรือว่าขยี้ตา แต่พอเด็กขยี้ตาเยอะขึ้นเรื่อยๆ บางคนจะมีการอักเสบมากมีกระจกตาถลอก การอักเสบที่เกิดขึ้นจากภูมิแพ้สามารถทำให้กระจกตาถลอกการมองเห็นลดลงได้มากเพราะกระจกตาจะขุ่นถลอกการมองเห็นลดลงไป 2-3 เท่าได้เลย
นอกจากนี้การขยี้ตามากๆ ก็อาจทำให้เกิดการติดเชื้อของเยื่อบุตาทำให้เด็กเป็นตากุ้งยิงได้ บางทีเด็กมือไม่สะอาดพอคันมากก็ขยี้ตาก็มีตากุ้งยิงตามมาอีกการมองเห็นก็ลดลงเจ็บตาลืมตาไม่ขึ้นน้ำตาไหลทั้งวันก็ค่อนข้างกระทบกับคุณภาพชีวิตของเด็กพอสมควร
เพราะฉะนั้นเด็กคนหนึ่งเป็นภูมิแพ้เราก็ต้องรีบหาสาเหตุพยายามหลักเลี่ยงสาเหตุนั้นและรักษาอาการและคอนโทรลไม่ให้เขาเข้าใกล้สิ่งที่เขาแพ้
หากแพ้ไม่เยอะมากเมื่อโตขึ้นส่วนใหญ่มักจะดีขึ้นได้ เพราะว่าในวัยเด็กอายุยังไม่มากฝุ่นบางอย่างเขาอาจจะไม่เคยเจอพอได้รับมาก็อาจจะมี Reaction พอโตขึ้นไป Reaction ต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับภูมิแพ้ที่เป็นในวัยเด็กอาจจะค่อยๆ ลดลงไปได้กับฝุ่นบางอย่าง แต่บางอย่างก็ไม่หายทุกครั้งที่โดนก็จะเป็นหนักบางคนมี Reaction ที่ดีขึ้นบางคนเป็นหนักเลยก็มี
เป็นการอักเสบของเยื่อบุตาขาวและเยื้อบุของหนังตาด้านใน ส่วนตากุ้งยิงเป็นการอักเสบของต่อมไขมันที่เปลือกตาเป็นการอักเสบเหมือนกันแต่เป็นการอักเสบคนละส่วนของตา
โรคตาแดง เป็นการอักเสบอาจเป็นการติดเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัสก็ได้ ในเด็กส่วนใหญ่เราจะเจอว่าติดเชื้อไวรัส โรคตาแดงอาการก็จะแดงทั้ง 2 ข้าง มีขี้ตาเยอะๆ เด็กก็จะแพ้แสงแล้วก็มีน้ำตาตื่นเช้ามาก็มีขี้ตามาก การติดเชื้อที่เป็นการอักเสบจากแบคทีเรียอาจจะเกิดจากการที่น้ำสกปรกเข้าตาเด็กไปเล่นน้ำที่สกปรกหรือมีอะไรสกปรกเข้าตาก็จะติดเชื้อพวกนั้นมาหรือมือไม่สะอาดแล้วมาขยี้ตา
โรคตาแดงสามารถติดต่อได้ถ้าเด็กเป็นอาจจะต้องระวังพี่น้องในบ้านอาจจะมีการติดต่อกันได้ แนะนำว่าให้พามาตรวจดูว่าเป็นแบคทีเรียหรือไวรัสถ้าแบคทีเรียจำเป็นว่าต้องได้รับยาฆ่าเชื้อและต้องมีการดูแล เช่น ต้องเช็ดตา คอยดูว่ามีกระจกตาถลอกไหม
เพราะการอักเสบติดเชื้อพวกนี้จะทำให้กระจกตาถลอกเป็นแผลเป็นได้ โรคตาแดงบางอย่างมีอาการค่อนข้างรุนแรง และเราต้องดูว่าเด็กต้องล้างมือบ่อยให้ใช้สำลีหรือทิชชูที่สะอาดเช็ดตาแล้วทิ้งและล้างมือบ่อยๆ ความสะอาดเป็นเรื่องที่สำคัญในโรคตาแดง เราต้องป้องกันไม่ให้กระจายต่อไม่อย่างนั้นคนในบ้านก็จะเป็นต่อ
เป็นการอักเสบของต่อมไขมันที่เปลือกตา ต่อมไขมันชนิดนี้มีหน้าที่สร้างน้ำมันเพื่อป้องกันไม่ให้เราตาแห้ง บางครั้งผลิตไขมันที่ไม่ดีออกมามันอุดตันมันจะคล้ายกับสิวคือต่อมไขมันบนผิวหน้าอุดตันแล้วมีแบคทีเรียเข้าไป
แบคทีเรียก็โตและเป็นหนองอยู่ข้างใน ตากุ้งยิงก็คล้ายๆ กันก็มักเกิดกับเด็กที่ชอบขยี้ตาบ่อยบางคนอาจจะมีภูมิแพ้ด้วยเลยขยี้ตาบ่อยแล้วเชื้อแบคทีเรียที่อยู่ในมือก็เข้าไปเติบโตเพราะเป็นต่อมไขมันก็จะมีอาหารให้แบคทีเรียได้ใช้ได้กิน ได้แพร่พันธุ์ได้ก็จะมีหนองอยู่ข้างใน
อาการเบื้องต้นของตากุ้งยิงคือ เจ็บ ถ้าเด็กบอกว่าเจ็บที่เปลือกตาดูแล้วบวมแดงๆ นิดหน่อยเบื้องต้นให้คุณแม่ประคบอุ่นก่อน ความอุ่นที่เหมาะสมคือ อุ่นสบาย รู้สึกว่าประคบไปแล้วไม่รู้สึกร้อนจนต้องทนอุณหภูมิอยู่ประมาณ 37-39 องศาเซลเซียส
การประคบอุ่นจะทำให้ไขมันที่มันอุดตันต่อมไขมันนิ่มลง ทำให้แรงดันที่อยู่ในก้อนของกุ้งยิงหนองมันมีแรงดันสูงมันก็จะดันไขมันที่อุดตันให้หลุดออกจากการประคบอุ่น ถ้ามีตาบวมแดงไม่ประคบเย็นจะทำให้ยิ่งอุดตันถ้าประคบอุ่นมีโอกาสที่กุ้งยิงจะระบายออก พอหนองได้ระบายออกจะยุบลง
หากประคบอุ่นถ้ายังไม่ดีอาจต้องได้รับยาปฏิชีวนะชนิดหยอดหรือป้ายช่วยเสริมทำให้กุ้งยิงดีขึ้น ถ้าไม่ดีขึ้นก็มาหาหมอเพราะอาจต้องมีการกดระบายหนองออกเพื่อให้หาย เพราะทิ้งไว้การติดเชื้อจะลามเข้าไปที่ตาหรือเบ้าตาได้ในเด็กเล็ก
ส่วนใหญ่จะเป็นชนิดเป็นตั้งแต่กำเนิด ส่วนใหญ่เราเห็นอาการตั้งแต่เด็กยังเล็กๆ อยู่ อาการหนังตาตกเกิดจากกล้ามเนื้อที่มีหน้าที่ดึงตาอ่อนแรงเลยทำให้ตก เวลาเจอเด็กหนังตาตกก็จำเป็นต้องพามาตรวจเพื่อประเมินว่าหนังตาที่ตกมีผลกับการมองเห็นของเด็กไหมถ้าหนังตาที่ตกลงมาบังรูม่านตาคือบังแสงที่จะเข้าตาอันนั้นถือว่ามีผลต่อการมองเห็นอันนั้นหมอก็จะต้องทำการรักษาด้วยการผ่าตัดเพื่อเปิดตาให้มันกว้างขึ้นเพื่อให้เด็กใช้ได้
เพราะถ้าหนังตาตกบังตาก็จะทำให้ตาข้างนั้นเป็นตาขี้เกียจหรือหนังตาที่ตกลงมากดกระจกตาก็อาจทำให้เด็กคนนั้นเป็นสายตาเอียงได้ หนังตาตกทำให้เกิดการมองเห็นผิดปกติได้ทั้งบังตาทั้งทำให้เป็นสายตาเอียงก็ได้
หากเจอหนังตาตกให้พาไปตรวจเราจะดูว่าปริมาณการตกมากน้อยแค่ไหนเด็กลืมตาได้มากน้อยแค่ไหน หรือว่าเลิกคิ้วได้ไหมเลิกคิ้วช่วยเพื่อให้ตาโต หมอก็จะประเมินดูว่าเมื่อไหร่ควรผ่าตัดถ้าบังมากแล้วมีผลต่อการมองเห็นก็จะต้องรีบหน่อย แต่ถ้าดูแล้วยังไม่บังก็อาจจะรอสักพักเพื่อให้เด็กได้ฝึกกล้ามเนื้อ
เวลาผ่าตัดหมอต้องเลือกวิธีการผ่าตัดเพราะวิธีการผ่าตัดหนังตาตกมีหลายแบบบางทีดูในตอนเด็กประเมินยากอาจจะต้องรอโตขึ้นหน่อยว่าฟังก์ชั่นการเปิดของตาได้มากน้อยแค่ไหนอาจจะผ่ามากผ่าน้อย
อีกอาการที่พบได้บ่อยคือ น้ำตาไหลบ่อยๆ ไหลเยอะ คือ อาการท่อน้ำตาตันแต่กำเนิดก็จะเจอบ่อยมักเป็นกับตาข้างใดข้างหนึ่งบางทีจะมีขี้ตาออกมามาก ซึ่งโดยมากท่อน้ำตาตันที่เรากังวลมากคือพอมันตันแล้วเกิดการติดเชื้อทำให้เกิดเป็นหนองหรือฝีที่บริเวณท่อน้ำตาบริเวณหัวตาเพราะน้ำตาจะอยู่บริเวณดั้งใต้จมูกตรงหัวตาทั้ง 2 ข้าง
น้ำตาคนเรามันจะไหลตรงหัวตาแล้วจะไหลลงจมูกถ้ามีการตันของท่อน้ำตาทำให้เกิดการขังของน้ำตาในท่อน้ำตาแล้วตัวแบคทีเรียจะโตทำให้เป็นหนองซึ่งอันตราย บางที่หนองแตกออกมาบริเวณข้างๆ ตาได้บางทีอาจทำให้เป็นรูถาวรรักษาไม่ดีพอมีน้ำตาไหลทำให้มีน้ำตาออกมาข้างๆ ได้
เพราะฉะนั้นถ้ามีท่อน้ำตาตันน้ำตาไหลตั้งแต่เด็กแรกเกิดคุณหมอจะแนะนำสอนวิธีการดูแลนวดหัวตาอย่างไรหยอดยาอย่างไรเพื่อทำให้มันดีขึ้น โดยปกติเด็กกว่า 90% ภายในอายุ 1 ปี ถ้านวดตาได้ดีท่อน้ำตาตันมักจะดีขึ้นและหายไป แต่ถ้าหลัง 1 ขวบ หรือขวบครึ่งยังไม่หายอาจต้องทำการแยงท่อน้ำตาเพื่อเปิดท่อน้ำตาให้
ส่วนโรคอื่นๆ ในเด็กส่วนใหญ่ก็จะเป็นอุบัติเหตุต่างๆ ที่เด็กอาจจะเกิดขึ้นได้เป็นประจำ เช่น ของเล่นชนตามีกระจกตาถลอก หรือเล่นกันแล้วนิ้วโดน บางคนอ่านหนังสือแล้วกระดาษบาดตาก็พบได้เรื่อยๆ ส่วนใหญ่เวลากระดาษบาดตาก็จะโดนกระจกตาดำก็จะเป็นรอยข่วน อาการเด็กก็จะแสบตาแพ้แสงน้ำตาไหลแต่ไม่มีขี้ตาแล้วเด็กก็จะพยายามปิดตาตลอดเวลาและเจ็บเป็นอาการที่บอกว่าน่าจะมีแผลที่กระจกตา
ติดตามฟังได้ที่รายการรักลูก The Expert Talk
Apple Podcast: https://apple.co/3m15ytB
Spotify: https://spoti.fi/3cvAVcX
Youtube: https://bit.ly/3cxn31u