การคุมกำเนิดหลังคลอดเป็นเรื่องจำเป็น เพราะจะช่วยให้ร่างกายแม่ได้พักฟื้น มีเวลาดูลูก และเตรียมความพร้อมก่อนมีลูกต่อไป
การคุมกำเนิดหลังคลอดเป็นเรื่องจำเป็น เพราะเคยมีแม่ที่ตั้งครรภ์ได้แม้ว่าเพิ่งจะคลอดลูกผ่านไปเพียงแค่ 21 วันที่แล้วเท่านั้นเอง และการที่ลูกกินนมแม่ก็ไม่อาจจะใช้เป็นการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพได้ แต่แบบไหนดี แบบไหนเหมาะ นพ.อานนท์ เรืองอุตมานันท์ จะมาให้คำแนะนำค่ะ
การกินยาเม็ดคุมกำเนิด เป็นวิธีคุมกำเนิดที่ใช้กันมากที่สุด มีความปลอดภัยสูง มีภาวะแทรกซ้อนต่ำ หาซื้อง่าย มีตั้งแต่ราคาถูกไปจนถึงราคาแพง มีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดดีถ้ากินอย่างถูกต้องสม่ำเสมอ บางยี่ห้อก็มีฤทธิ์ต้านฮอร์โมนเพศชาย ช่วยลดสิว ฝ้า หน้ามันได้ด้วย บางยี่ห้อก็ทำให้หน้าอกหน้าใจเต่งตึงโตขึ้นจนสังเกตได้
มีหลายคนที่กินยาคุมแล้วมีอาการคลื่นใส้อาเจียน ปวดหัว อ้วนบวม ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบได้บ่อย ถ้าเรียกกันภาษาชาวบ้านก็เรียกกันว่า “แพ้ยาคุม” ซึ่งก็มักพบในยาคุมรุ่นแรก ๆ ที่มีปริมาณฮอร์โมนสูง ยาคุมรุ่นใหม่ ๆ มักมีปริมาณฮอร์โมนที่ต่ำลง แต่ยังคงประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดได้ดี แต่ก็มีราคาแพงกว่ารุ่นเก่า ๆ มาก ข้อเสียของยาคุมชนิดที่มีฮอร์โมนต่ำ คืออาจมีปัญหาเรื่องเลือดออกกระปริบกระปรอยในช่วงกลางรอบได้ในบางราย ในคุณแม่ที่มีโรคประจำตัวบางอย่าง เช่น ปวดหัว ไมเกรน โรคตับ เนื้องอกของเต้านม เนื้องอกของระบบสืบพันธุ์ก็ไม่ควรกินยาคุม เพราะฮอร์โมนจากยาคุมก็อาจจะทำให้เนื้องอกโตขึ้นได้
คุณแม่ที่กินยาคุมก็มีโอกาสพลาดตั้งครรภ์ได้ประมาณ 4% ต่อปี ที่พลาดก็มักเกิดจากตัวคุณแม่เองเสียมากกว่า ลืมกินยาคุมบ้าง กิน ๆ หยุดๆ บ้าง กินไม่ตรงเวลาบ้าง เพราะยาคุม 1 เม็ดก็จะออกฤทธิ์ไม่เกิน 24 ชม. เพื่อป้องกันการสะสมในระยะยาว ดังนั้นการกินไม่ตรงเวลาก็เป็นเหตุให้พลาดท้องได้ ถ้ากินอย่างถูกต้อง สม่ำเสมอ ผลการคุมกำเนิดก็เกือบ ๆ ร้อยเปอร์เซนต์เลยล่ะครับ
การฉีดยาคุมก็เป็นที่นิยมเป็นอันดับสองรองจากการกินยาคุม มีประสิทธิภาพดี ไว้ใจได้ โอกาสพลาดมีน้อยมากถ้าฉีดตรงเวลา เหมาะสำหรับคุณแม่ที่ให้ลูกกินนมแม่ เนื่องจากไม่มีผลต่อคุณภาพและปริมาณของน้ำนม ยาฉีดคุมกำเนิดจะเริ่มฉีดใน 4 สัปดาห์หลังคลอด ถ้าฉีดช้ากว่านี้ก็ไม่ดีนัก เพราะคุณแม่ไม่ได้ให้ลูกกินนมแม่อาจมีไข่ตกเร็วเกินคาดก็ได้ การฉีดยาคุมแต่ละครั้งสามารถคุมกำเนิดไปได้นาน 12 สัปดาห์ ฉีดครั้งต่อไปควรฉีดตามกำหนดที่คุณหมอนัด ถ้าลืมหรือไม่ว่างก็ไม่ควรเกินนัดไปกว่า 14 วัน
บางคนอาจมีปัญหาประจำเดือนมาไม่เป็นปกติ มีประมาณ50 เปอร์เซนต์ ที่ไม่มีประจำเดือนมาเลยอีก 25 เปอร์เซนต์มีประจำเดือนมากระปริบกระปรอยตลอด บางทีก็อาจมีเลือดออกทั้งเดือน ถ้าเลือดออกไม่มากนัก พอยอมรับได้ก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าออกมากออกนานจนมีผลต่อสุขภาพก็เปลี่ยนไปคุมวิธีอื่นจะดีกว่า คนที่ฉีดยาคุมแล้วไม่มีประจำเดือนมา เมื่อหยุดฉีดยาประจำเดือนกลับมาเป็นปกติ สามารถตั้งครรภ์ได้ก็ต้องใช้เวลาอีกประมาณ 4-6 เดือน หลังหยุดฉีดไปแล้ว ข้อเสียอีกอย่างคือฝ้าขึ้นง่ายเวลาโดนแดดจัด ๆ เพราะเม็ดสีใต้ผิวหนังจะไวแสงมากขึ้นกว่าปกติ
ยาคุมชนิดฝังจะเป็นแท่งซิลิโคนอันเท่าหลอดยาคูลป์ ยาวประมาณ 4 ซม. ตัวยาที่บรรจุข้างในเป็นยาชนิดเดียวกันกับยาคุมกำเนิดแบบฉีด แต่เอายานี้มาฝังไว้ใต้ท้องแขนท่อนบน ตัวยาก็จะค่อย ๆ ปล่อยออกมา มีผลคุมกำเนิดได้นาน 3-5 ปี แล้วชนิดและจำนวนหลอด พอครบกำหนดแล้วก็ต้องผ่าเอาออกหรือเปลี่ยนเอาชุดใหม่ใส่เข้าไป เนื่องจากเป็นยาคุมแบบเดียวกับยาฉีด คือทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติเหมือนกัน และไม่สามารถเปลี่ยนใจได้เพราะยามีผลนานถึง 3-5 เชียวนะ
ห่วงคุมกำเนิดเป็นพลาสติกซิลิโคน แกนกลางจะมีขดลวดทองแดงพันอยู่ โดยจะสอดเข้าไปในมดลูกผ่านทางช่องคลอด หลังจากนั้นก็ไม่ต้องมีการดูแลรอะไรเป็นพิเศษ แค่ไปตรวจภายใน ตรวจห่วงตาที่คุณหมอนัดก็พอแล้ว การใส่ห่วงแต่ละครั้งก็จะใช้ได้นานประมาณ 5 ปี ไม่ต้องกิน ไม่ต้องฉีด ยุ่งกันได้ตามสบาย โอกาสพลาดก็พอ ๆ กับยาคุมแบบฉีด
ข้อเสีย คือบางรายอาจมีประจำเดือนมามากกว่าปกติ และอาจมีเลือดออกกระปริบกระปรอยในระหว่างรอบได้ บางรายก็อาจมีอาการปวดประจำเดือนมากกว่าเดิมได้ อาการเหล่านี้มักเป็นในช่วง 3 เดือนแรก หลังจากนั้นอาการเหล่านี้มักดีขึ้นแล้วหายไปเอง
จากการที่ใส่ห่วงคุมกำเนิดแล้วอาจมีปัญหาประจำเดือนมามาก หรือมากระปริบกระปรอย ก็เลยมีการพัฒนาห่วงแบบใหม่ขึ้น แทนที่แกนกลางจะเป็นทองแดงเหมือนห่วงปกติ ห่วงคุมกำเนิดชนิดนี้จะมีแกนกลางเป็นหลอดพลาสติดบรรจุฮอร์โมนคล้าย ๆ กันยาฝัง ฮอร์โมนตัวนี้นี่เองที่ช่วยทำให้ประจำเดือนไม่มามาก แล้วก็ไม่กระปริบกระปรอย บางรายอาจไม่มีประจำเดือนมาเลยก็ได้
การทำหมันจะทำให้เป็นหมันอย่างถาวร หากเกิดเปลี่ยนใจขึ้นมาก็ต้องไปผ่าแก้หมันใหม่อีกที แล้วไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ตอนทำหมันทำแค่ 10 นาทีเสร็จ แต่เวลาแก้หมัน จะต้องผ่าท้องเข้าไปใหม่ และแก้ยากกว่า ใช้เวลามากกว่ามาก ทางการแพทย์แล้วจะยืนยันเสมอว่า การทำหมันไม่ได้มีผลอะไรต่อสุขภาพ ไม่มีผลต่อความรู้สึกทางเพศแต่อย่างใด
ถุงยางอนามัย นอกจากจะป้องกันการตั้งครรภ์ได้แล้ว ยังป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ด้วย โดยประสิทธิภาพการป้องกันสูงมาก ซึ่งบางคนก็ใช้ถุงยางอนามัยควบคู่ไปกับการใช้ยาคุมด้วย