“ก่อนที่โรงเรียนอำนวยศิลป์จะมาถึง Thinking School ได้ เรามีพื้นฐานเรื่องการสอนแบบ Child Center มาก่อน ซึ่งตอนนี้เราร่วมมือกับ คิง สคูล ที่นิวซีแลนด์ โดยใช้หลักสูตรจากที่นั่น และส่งครูไปเทรนที่ คิง สคูล และต่อไปเราก็กำลังจะไปร่วมกับ เวลส์ ซึ่งเรากำลังเจรจาเรื่องส่งครูของเราไปเทรนนิ่งที่เวลส์ด้วยอีกแห่งหนึ่ง
ความน่าสนใจของการเรียนสองภาษาโดยใช้หลักสูตรอังกฤษ คือ ในการเรียนหลักสูตรอังกฤษตั้งแต่ระดับชั้นประถมขึ้นไปจนถึงระดับชั้น มัธยม เราจะมีวิชา Drama หรือการละครให้เด็กเรียนเสริมไปกับการเรียนภาษาอังกฤษด้วย ให้เด็กได้ฝึกการใช้ภาษาอังกฤษ ได้ฝึกการออกเสียงภาษาอังกฤษ และช่วยพัฒนาการสื่อสาร ช่วยฝึกให้เด็กรู้จักแสดงความรู้สึกของตัวเองออกมา และยิ่งถ้าเป็นเด็กที่สนใจด้านการเรียนดราม่า หรือ performance อยู่แล้ว ใน ระดับชั้น Year 10 และ 11 (เทียบเท่า ม.3 - ม.4) หากเด็กต้องการจะเลือกเรียน Performing Art ในระดับชั้นมหาวิทยาลัย ก็สามารถใช้ผลการเรียนตรงนี้ยื่นกับทางมหาวิทยาลัยได้เลย
อีกวิชาที่น่าสนใจ คือ Design Technology เป็นวิชาพื้นฐานของการออกแบบ ให้เด็กค่อยๆ เรียนรู้เรื่องการออกแบบไปทีละ step ตั้งแต่เรื่องพื้นฐานในการดีไซน์ อย่าง concept design ที่เด็กจะต้องรู้ว่า original design คืออะไร และมันต่างกับงานก๊อปปี้อย่างไร แล้วก็ฝึกให้เด็กมี creativity ด้วยการให้เด็กไปถ่ายรูปพื้นผิวของวัสดุต่างๆ มา ซึ่งเด็กก็จะต้องไปนั่งสังเกตว่าพื้นผิวของไม้ กองหิน มีโครงสร้างอย่างไร มีเส้นสายอย่างไร แล้วหยิบเอามาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์งานศิลปะของตัวเอง ซึ่งเด็กจะต้องเรียนตรงนี้ 1 ปีเต็มๆ เพื่อให้พื้นฐานแน่น
จากนั้นก็เรียน design development อีก 1 ปี เป็นการสร้างผลงาน จากแบบของตัวเอง โดยเริ่มจากสร้างเป็นโมเดลก่อน เพื่อดูความเป็นไปได้ในการผลิตผลงานชิ้นนั้น เช่น ตั้งแล้วจะล้มมั้ย เด็กจะต้องพัฒนางานดีไซน์ขึ้นมา จนสามารถผลิตเป็นชิ้นงานได้ และต้องสร้างให้ได้ตามมาตรฐานของหลักสูตรอังกฤษ โดยมีครูที่มาจากอังกฤษเป็นผู้ประเมิน ว่าเด็กสามารถออกแบบผลิตภัณฑ์ได้หรือไม่ และวิเคราะห์จุดอ่อน จุดแข็งในชิ้นงานของตัวเองได้หรือไม่ เพราะฉะนั้นงานหนึ่งชิ้น เด็กจะต้องใช้เวลาเรียนพื้นฐานการดีไซน์ 1 ปี พัฒนาชิ้นงานอีก 1 ปี ชิ้นงานที่ออกมาจึงเป็นชิ้นงานที่มีคุณภาพ โดยเด็กจะได้เรียนรู้ และเข้าใจหลักของการออกแบบ และพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างแท้จริง”
คุณเพชรชุดา เกษประยูร ผู้อำนวยการโรงเรียน
ทัศนคติ และการเปลี่ยนผ่านของครูยุคใหม่ มองผ่านมุมอาจารย์ประจำชั้นมัธยม
“สิ่งที่ทำให้มีความสุขมากที่สุดในการเป็นครู หลังจากใช้ระบบการเรียนการสอนแบบ Thinking School คือ จากที่เราเคยถามอะไรในห้องเรียนแล้วเด็กนั่งก้มหน้า ไม่กล้าตอบ ตอนนี้กลายเป็นว่าเด็กๆ แย่งกันตอบ เพราะเขามีความสุข และสนุกที่จะตอบ มันเป็นความสุขอย่างหนึ่งของการเป็นครู”
อาจารย์สิทธิศักดิ์ ศักดิ์สิตากร (อาจารย์ประจำชั้นมัธยม 6/2)
“ความสุขของการประกอบอาชีพครู ไม่ได้มาจากค่าตอบแทนสูง แต่มาจากรอยยิ้มของนักเรียน ที่เกิดขึ้นเพราะมีความสุขในห้องเรียน จากการตอบคำถาม การเรียนรู้ที่เด็กส่งผ่านกลับมาให้ครู นั่นคือความสุข และการประสบความสำเร็จในอาชีพครู”
อาจารย์สมาน ถาวรรัตนวณิช (อาจารย์ประจำชั้นประถมศึกษา)
มองผ่านมุมอาจารย์ชาวต่างชาติ
“การทำให้เด็กที่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย กล้าที่จะพูดภาษาอังกฤษ และเรียนหนังสือด้วยภาษาอังกฤษ ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะสภาพแวดล้อมในห้องเรียนจะช่วยกระตุ้นให้เด็กใช้ภาษาอังกฤษได้เองโดย อัตโนมัติ เพราะเมื่อเด็กสลับคาบเรียนไปเรียนหลักสูตรอังกฤษกับ teacher จะไม่มีการพูดภาษาไทยเลย เ ด็กจะต้องฟังและพูดโต้ตอบกับครูและเพื่อนเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด เริ่มต้นด้วยคำศัพท์ง่ายๆ แค่คำเดียวก่อน เช่น ไปเข้าห้องน้ำ เด็กๆ อาจจะพูดสั้นๆ ว่า “toilet” แล้วครูก็จะพูดประโยคเต็มๆ ที่ถูกต้องให้เด็กพูดตามว่า “Please, Can I go to the toilet?” เริ่มจากคำศัพท์ง่ายๆ ก่อน แล้วค่อยฝึกให้เขาพูดเป็นประโยคยาวๆ และเมื่อเด็กๆ ใช้เวลากว่าครึ่งวันพูดภาษาอังกฤษกับครู ในไม่ช้าเขาก็จะพูดภาษาอังกฤษได้เอง
และในห้องเรียน ครูจะสอนเรื่องที่ครูเตรียมมา โดยครูไทย และ teacher จะวางแผนกันไว้ว่าจะสอนอะไรบ้าง และเตรียมการสอนให้สอดรับกัน เช่น ถ้าครูไทยสอนคำว่า “ทะเล” teacher ก็จะสอนคำว่า “ocean” และใช้ Thinking Tool อันเดียวกันในการสอน เมื่อครูสอนแล้ว ก็ให้เด็กกลับไปทำงานของตัวเองที่โต๊ะซึ่งนั่งกันเป็นกลุ่ม เด็กจะแลกเปลี่ยนความคิดกันในกลุ่ม โดยครูจะคอยเดินเข้าไปช่วยเหลือ และดูแลการทำงานของเด็กๆ แต่ละคน
สิ่งที่ผมดีใจมากและเป็นเหมือนรางวัลในการประกอบอาชีพครู คือ เวลาเดินไปไหนในโรงเรียน แล้วเด็กนักเรียนเข้ามาทัก เข้ามาคุยด้วยเป็นภาษาอังกฤษ โดยไม่กลัวว่าตัวเองจะพูดผิดหรือพูดถูก เด็กๆ พยายามที่จะฝึกพูด และหาโอกาสฝึกใช้ภาษาอังกฤษ ทำให้เราได้เห็นพัฒนาการในการใช้ภาษาของนักเรียน และได้เห็นความไม่กลัวที่จะพูดภาษาอังกฤษของเด็กๆ ได้เห็นเด็กเรียนอย่างมีความสุข ตื่นเต้น และสนใจในสิ่งที่เรียน นั่นทำให้ผมมีความสุข
เพราะเด็กไทยกับเด็กอังกฤษจะต่างกันมาก เด็กไทยจะไม่ค่อยกล้าถาม ไม่ค่อยกล้าตอบในห้องเรียน เพราะกลัวว่าตัวเองจะพูดผิด แต่นักเรียนที่อังกฤษจะชอบถาม ชอบตอบ โดยไม่กลัวว่าจะพูดอะไรผิด คงเพราะวัฒนธรรมที่แตกต่างกันเด็กไทยจะทำทุกอย่างตามที่พ่อแม่บอก ส่วนเด็กฝรั่งสามารถตัดสินใจบางอย่างได้ด้วยตัวเอง แต่เรื่องนี้ ที่อำนวยศิลป์สามารถเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมให้เด็กไทยมีความกล้าในการตอบคำ ถามมากขึ้น เพราะเราฝึกให้เขารู้สึกว่า ถึงจะตอบผิดก็ไม่เป็นไร ครูแค่อยากให้มาแชร์ไอเดียกัน”
Mr. Joseph Pine (Deputy Head of Primary and KG)
มุมมองในการเลือกโรงเรียนให้ลูก
“จริงๆ ชอบวิธีการเรียนแบบโรงเรียนอินเตอร์นะคะ เพราะนอกจากได้ภาษาแล้ว เขายังสอนให้เด็กคิดและวิเคราะห์อีกด้วยเพราะการคิดและวิเคราะห์เป็นสิ่งที่ จำเป็นมากในโลกปัจจุบัน แต่การเรียนโรงเรียนอินเตอร์มันก็ยังขาดในหลายๆ ส่วน โดยเฉพาะเรื่องความเป็นไทย ซึ่งเราเองยังอยากให้ลูกมีความเป็นไทยอยู่ด้วยและการเรียนแบบอินเตอร์ก็ไม่ เหมาะกับนิสัยของลูก และโรงเรียนไทยก็คงไม่เหมาะเท่าไหร่เหมือนกัน เพราะลูกเราค่อนข้างเรียบร้อย ไม่น่าจะทันเพื่อน เขาเป็นเด็กที่มีโลกส่วนตัว และไม่ค่อยชอบแสดงออกเท่าไหร่
ก็เลยเลือกโรงเรียนให้ลูก ตามลักษณะคาแรคเตอร์ของเขาค่ะ และพอดีได้รู้จักโรงเรียนอำนวยศิลป์ ซึ่งมีหลักสูตรที่มี ทั้งความเป็นไทย และความป็นอินเตอร์รวมอยู่ด้วยกัน หลักสูตรภาษาอังกฤษของที่นี่เป็นหลักสูตรที่ดีมากๆ จะเห็นพัฒนาการของลูกได้ชัดมาก เพราะวิธีการเรียนแบบฝรั่งจะทำให้เขากล้าแสดงความคิดเห็นมากขึ้น และจากที่เขาเป็นเด็ก ที่มีกระบวนการทางความคิดที่ดีอยู่แล้ว เขาก็คิดวิเคราะห์ได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งน่าจะทำให้เขาอยู่ในโลกอีก 20 ปีข้างหน้าได้ เพราะอย่างเราอยู่ในโลกของการทำงาน เรารู้เลยว่าเรื่องการคิดการวิเคราะห์ มันสำคัญมาก เราเลยไม่อยากให้ลูกเรียนแบบท่องจำ
ลูกมาเริ่มเรียนป.1 ที่นี่ค่ะ ในปีแรกที่เข้ามาเรียน ก็ต้องปรับตัวเยอะเหมือนกัน แต่เราก็รู้และเตรียมตัวเอาไว้อยู่แล้ว ด้วยการส่งเขามาเรียนซัมเมอร์ก่อน แต่พอเปิดเทอม ไปได้สองอาทิตย์ เขาก็ร้องไห้ บอกว่าเขาฟังและพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย แถม ภาษาไทยก็ยังไม่เก่ง เราก็เลยไปคุยกับครู ครูก็บอกว่าลูกทำได้ดีแล้วนะ ก็กลับมาบอกลูก แล้วจากนั้นเขาก็ไม่ร้องไห้อีก พอขึ้นป. 2 ครูก็ชมว่าพัฒนาการดีขึ้น และไม่มีปัญหาอะไรค่ะ”
คุณสิริมน ณ นคร (Editor-in-chief Marie Claire)
“ผม อยากให้ลูกได้ภาษาอังกฤษ แต่ก็ไม่อยากให้ลูกไปเรียนที่โรงเรียนนานาชาติ เพราะเรายังอยากให้เขามีความเป็นไทยอยู่ ซึ่งโรงเรียนอนุบาลที่ลูกสองคนแรกไปเรียน สอนความเป็นไทยเอาไว้ให้ลูกเยอะมาก ผมก็เสียดายตรงนั้น ถ้าจะให้ลูกไปเรียนอินเตอร์แล้วความเป็นไทยหายไป แล้วกลัวเค้าจะพูดไทยไม่ชัดด้วย ก็เลยให้ลูกเรียนโรงเรียนสองภาษาดีกว่า
ผมเห็นพัฒนาการของลูกตั้งแต่เดือนแรกที่มาเรียนที่นี่เลย เขากล้าพูดกล้าแสดงออกมากขึ้น กล้าแสดงความคิดเห็นมากขึ้น แล้วก็กล้าเข้าสังคมมากขึ้น เพราะเมื่อก่อนลูกๆ ผมค่อนข้างจะขี้อาย และนอกจากเรื่องการศึกษาที่ผมให้ความสำคัญแล้ว อีกเรื่องที่ผมให้ความสำคัญ คือ ดนตรี และกีฬา ซึ่งที่อำนวยศิลป์ก็เป็นโรงเรียนที่เน้นกิจกรรมพอสมควร หลังเลิกเรียน ต้องเลือกกิจกรรมพิเศษด้วย บางวันเล่นกีฬา บางวันเล่นดนตรี แล้วก็มีการแข่งกีฬาภายใน การแข่งกีฬากับโรงเรียนอื่น แล้วก็มีการแสดงดนตรี ซึ่งลูกๆ ทั้ง 3 คนก็ชอบด้วย
ส่วนสิ่งที่ประทับในตัวโรงเรียน อันดับแรกเลย คือ เรื่องระบบรักษาความปลอดภัยที่เป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่ปล่อให้เด็กนักเรียนออกไปข้างนอกตามลำพัง และไม่ปล่อยให้คนนอกเข้ามาใน โรงเรียนโดยไม่ได้แลกบัตร และที่ผมประทับใจมากๆ คือทุกเช้าลูกๆทั้ง 3 คนมีความอยากที่จะมาโรงเรียนด้วยตัวของเขาเอง ผิดกับที่เรากลัว ว่าเขาจะงอแงไม่อยากมาโรงเรียน แต่ที่อำนวยศิลป์สามารถเปลี่ยนทัศนคติเด็กๆ ให้อยากมาโรงเรียนได้”
คุณนนทิวัช ประภานนท์ (Managing Director บริษัทแม็คโครริช เมโทร จำกัด)
โรงเรียนอำนวยศิลป์ 304/1 ถ.ศรีอยุธยา เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 (สถานี BTS พญาไท)
โทร. 02354-5267 02-354-5269