โรงเรียนอมาตยกุลเป็นโรงเรียนตามแนวคิดนีโอฮิวแมนนิสที่มีความเชื่อเกี่ยวกับมนุษย์ว่าเป็นสิ่งที่มีชีวิตที่มีพัฒนาการสูงที่สุด มีความต้องการจากภายในที่จะพัฒนาตนเองไปเรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุด การพัฒนาคนตามแนวนีโอฮิวแมนนิสจึงมีหน้าที่จะต้องช่วยพัฒนาศักยภาพแฝงเร้นที่มีอยู่ในตัวคนเราให้แสดงออกมาได้อย่างสูงสุดด้วย การทำให้คนเราโดยเฉพาะในเด็กๆ ให้เกิดความภาคภูมิใจในตัวเอง (Self -Esteem)
การพัฒนาคนตามแนวนีโอฮิวแมนนิสจึงเป็นการพัฒนาในทุกๆ ด้านของคนเราให้กลายเป็นคนที่พึ่งตัวเองได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งมีลักษณะดังนี้
Physically Fit หรือมีร่างกายที่แข็งแรง ได้สัดส่วน สวยงาม
Mentally Strong หรือมีจิตใจที่มั่นคง เปิดกว้าง เฉลียวฉลาด
Spiritual Elevated หรือมีจิตสาธารณะ
Academic Knowledge หรือมีความรู้ที่จะนำไปประกอบอาชีพที่ตัวเองถนัดและต้องการได้
การสอนเด็กตามแนวนีโอฮิวแมนนิส คือ แนวทางในการทำให้เด็กเก่ง ฉลาด แข็งแรง มีความคิดด้านบวก มีน้ำใจและมีความสุข โดยวิธีการด้านบวก ดังต่อไปนี้
1. การสร้างบรรยากาศให้คลื่นสมองต่ำ
เด็กๆ จะมีการเรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้สูงสุดเมื่อจิตใจอยู่ในสภาวะที่ผ่อนคลายที่สุด ปราศจากความตึงเครียด ปราศจากความวิตกกังวล สบายใจและมีความสุขซึ่งเราอาจจะเรียกสภาวะการเรียนรู้ที่ดีที่สุดนี้ว่า สภาวะคลื่นสมองต่ำ มีการค้นพบว่ามีปัจจัยหลายๆ ประการที่มีอิทธิพลต่อคลื่นสมองของคนเรา เช่น เสียงเพลง คนรอบข้าง อาหารที่รับประทาน การออกกำลังกาย คำพูด การฝึกโยคะ และการทำสมาธิ
ดังนั้น เด็กๆ ที่ได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ ในบรรยากาศที่ช่วยให้คลื่นสมองต่ำ เช่น ได้เรียนรู้จากคุณพ่อ คุณแม่ คุณครูที่อารมณ์ดี ยิ้มแย้มและเป็นมิตร ได้รับประทานอาหารที่เป็นธรรมชาติ ได้ออกกำลังกายอยู่เสมอ ได้รับการยกย่องชมเชย ได้ฟังเพลงที่ทำให้คลื่นสมองต่ำ ได้ฝึกโยคะและทำสมาธิ ฯลฯ จะเรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว
2. การพัฒนาเซลล์ประสานประสาท (Synapes)
ความฉลาดของสมองขึ้นอยู่กับเซลล์ประสานประสาท ซึ่งเป็นตัวเชื่อมระหว่างเซลล์สมอง ยิ่งเซลล์ประสานประสาทนี้เกิดขึ้นมากเท่าใด สมองย่อมจะทำงานดีขึ้น ทำให้สมองฉับไว มีความจำดีเกินกว่า 80% ของการพัฒนา เซลล์ประสานประสาทจะเกิดในช่วงเด็กเล็กๆ มีการค้นพบว่าเซลล์ประสานประสาทนี้สามารถพัฒนาให้มีมากขึ้นได้ด้วยการทำให้กล้ามเนื้อมือและกล้ามเนื้อเท้าของเด็กแข็งแรง เนื่องจากฝ่ามือและฝ่าเท้าของคนเรามีเส้นประสาทรวมกันอยู่มากและเส้นประสาทเหล่านี้จะเชื่อมไปยังสมอง ดังนั้นสมองของเด็กจะดีได้ด้วยการ
ให้เด็กๆ ใช้มือและเท้าให้มาก เช่น กิจกรรมโยคะ การเต้นรำ ยิมนาสติกและตีลังกา วิ่ง ว่ายน้ำ ปีนป่าย ฯลฯ
จัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้หลากหลาย เช่น ความช่างสังเกต กีฬา ดนตรี การทำสมาธิ ฝึกความจำ การทำคลื่นสมองต่ำ ภาษา วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ฯลฯ เด็กๆ ที่ได้ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลายก็จะกลายเป็นคนที่มีทักษะรอบตัว ไม่มีจุดอ่อนในเรื่องใดๆ
3. การให้ความรัก
แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีวัยรุ่นคนใดที่มีปัญหา หากพวกเขาเติบโตมาท่ามกลางรอยยิ้ม คำชมเชย คำพูดให้กำลังใจ ความเข้าใจ การให้อภัย การกอด การสัมผัส และความเป็นเพื่อนของคนในครอบครัวและจากที่โรงเรียน สัมผัสที่อบอุ่น รอยยิ้มที่อ่อนโยน เสียงหัวเราะ และแววตาที่ให้กำลังใจ จึงเปรียบเสมือนน้ำทิพย์ที่คอยชโลมใจให้คนเรามีพลังในการต่อสู้กับปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้นในชีวิต ดังที่แบรดเลย์ นักมนุษยนิยมได้กล่าวไว้ว่า
''ถ้าเพียงคุณสัมผัสฉันอย่างนุ่มนวลและอ่อนโยน
ถ้าเพียงแต่คุณมองตาฉันและยิ้มให้ฉัน
ถ้าเพียงแต่ฟังฉันพูดก่อนที่คุณจะชิงพูดเสียเองแล้ว
ฉันก็จะเติบโตได้และงอกงามได้อย่างแท้จริง''
ระเบียบสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา - มัธยมศึกษา
1. เรื่องการมาโรงเรียนและกลับบ้าน
เวลา 7.45 น. เมื่อได้ยินเสียงระฆัง ครั้งที่ 1 นักเรียนขึ้นอาคารเรียน 4-5 ได้ (จะมีครูเวรมาตีระฆังในเวลา 7.45 น. ทุกวัน) ยกเว้นวันที่ฝนตก ครูเวรจะตีระฆังก่อนเวลา นักเรียนควรมาถึงโรงเรียนก่อนเวลา 07.45 น. การเข้าแถวตอนเช้า
ไม่อนุญาตให้นักเรียนมัธยมต้นอยู่บนอาคาร 4 ช่วงพักกลางวัน ยกเว้นจะได้รับอนุญาตจากครูหัวหน้าตึกเป็นกรณีๆ ไป
การไปเรียนที่อาคาร 2 หรือ 3 ต้องมีครูมารับและส่งทุกครั้ง ไม่อนุญาตให้ไปโดยลำพัง
นักเรียนชั้นประถมจะต้องมีผู้ปกครองมารับกลับบ้านและหลัง 17.00 น. หากยังไม่มีผู้ปกครองมารับจะต้องมาอยู่กับครูเวรที่อาคาร 2 และเสียค่าปรับ นักกีฬาเริ่มปรับ 17.30 น.
นักเรียนชั้นมัธยมต้องออกจากอาคาร 4 - 5 ก่อน 17.00 น. และออกจากทุกอาคารก่อนเวลา 18.00 น. หลังจาก 18.00 น.จะเข้าสู่ระบบค่าปรับที่มีครูหรือเจ้าหน้าที่ดูแล
นักเรียนชั้นมัธยม หากมีความจำเป็นต้องกลับบ้านก่อนเวลา ต้องแจ้งครูหัวหน้าตึกและนำใบอนุญาตจากครูหัวหน้าตึกมายื่นที่ประตูออก
นักเรียนจะต้องมาเรียนไม่น้อยกว่า 80 เปอร์เซ็นต์จึงจะมีสิทธิ์เข้าสอบ
ไม่อนุญาตให้นักเรียนขี่มอเตอร์ไซค์มาโรงเรียนเอง
ผู้ปกครองของนักเรียนจะต้องคล้องบัตรอนุญาตผ่าน เข้า - ออก เมื่อเข้ามาในโรงเรียน
ผู้ปกครองที่ใช้รถมอเตอร์ไซค์มาส่งนักเรียนขอให้วนส่งด้วยระบบเดียวกับรถยนต์
สิ่งที่ห้ามนำมาโรงเรียน
อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ที่รบกวนสมาธิในการเรียน นักเรียนอนุบาล ประถม ห้ามนำโทรศัพท์มือถือมา
นักเรียนมัธยม หากนำโทรศัพท์มือถือมา ระหว่างเวลาเรียน จะต้องฝากไว้กับคุณครู
กรณีนักเรียนชั้นมัธยมฝ่าฝืน ไม่ฝากโทรศัพท์มือถือในช่วงเวลาเรียนให้ครูเก็บโทรศัพท์มือถือพร้อมซิมไว้ ครั้งแรกเป็นเวลา 7 วัน ครั้งที่ 2 เป็นเวลา 14 วัน ครั้งต่อๆ ไป อยู่ในดุลยพินิจที่เหมาะสมของครู
ระเบียบการรับสมัครเรียน ปี 2562
ชั้นอนุบาล 1
1. รับพี่น้องแท้ๆ และลูกพี่ลูกน้องของนักเรียนปัจจุบันเข้าเรียนทั้งหมด
โรงเรียนพิจารณารับพี่น้องแท้ๆ ของนักเรียนปัจจุบัน (ที่กำลังเรียนอยู่ในปีการศึกษา 2561) เข้าเรียนเป็นลำดับแรกก่อนนักเรียนอื่น โดยจะต้องส่งใบสมัครภายในวันที่ 14 กันยายน 2561
2. รับนักเรียนทั่วไป 40 คน ด้วยวิธีจับฉลาก
รับสมัครโดยวิธีการจับฉลากในวันอาทิตย์ที่ 21 ตุลาคม 2561 ระหว่างเวลา 08.00-12.00 น. โดยมีขั้นตอนดังนี้ (ไม่มีค่าใช้จ่าย ไม่จำเป็นต้องรีบมาก่อนเวลานาน เตรียมสูติบัตรและเตรียมปากกามาด้วย)
กรอกใบสมัครและไปที่โต๊ะตรวจสอบอายุของนักเรียน
จับฉลากหมายเลข (มีหมายเลขตั้งแต่ 1-1,000)
เสร็จสิ้นกระบวนการแล้วกลับบ้านได้ โรงเรียนจะประกาศผลการจับฉลากทาง www.amatyakulschool.com วันอาทิตย์ที่ 28 ตุลาคม 2561 เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป
มอบตัวนักเรียน พร้อมชำระค่าเทอม ในวันจันทร์ที่ 30 ตุลาคม 2561 เวลา 08.30-12.00 น.
3. หากมีที่นั่งเหลือจะรับนักเรียนตามดุลยพินิจของโรงเรียน
ถือหลักประโยชน์สูงสุดของนักเรียนและประโยชน์สูงสุดของโรงเรียน เช่น รับนักเรียนที่บ้านอยู่ใกล้โรงเรียนที่เข้าใจและมั่นใจแนวคิดของโรงเรียน เพื่อทุกฝ่ายจะทำหน้าที่ได้ดีและได้ผลผลิตที่ดี
ผู้ปกครอง download ใบสมัครและยื่นใบสมัครให้โรงเรียนพิจารณาได้ตั้งแต่ 21 ตุลาคม 2561 เป็นต้นไป
ประกาศผลการคัดเลือกทาง www.amatyakulschool.com วันพุธที่ 21 พฤศจิกายน 2561 เวลา 13.00 น.
ชั้น อ.2 - ป.3 (ไม่มีการจับฉลาก)
ถือหลักประโยชน์สูงสุดของนักเรียนและประโยชน์สูงสุดของโรงเรียน เช่น รับนักเรียนที่บ้านอยู่ใกล้โรงเรียนที่เข้าใจและมั่นใจแนวคิดของโรงเรียน เพื่อทุกฝ่ายจะทำหน้าที่ได้ดีและได้ผลผลิตที่ดี
ผู้ปกครอง download ใบสมัครและยื่นใบสมัครให้โรงเรียนพิจารณาได้ตั้งแต่ 21 ตุลาคม 2561 เป็นต้นไป
ประกาศผลการคัดเลือกรอบแรกทาง www.amatyakulschool.com วันพุธที่ 21 พฤศจิกายน 2561
เกณฑ์อายุของนักเรียน
ชั้นอนุบาล 1 เกิดระหว่าง 17 พฤษภาคม 2558 – 16 พฤษภาคม 2559
ชั้น อนุบาล 2 เกิดระหว่าง 17 พฤษภาคม 2557 – 16 พฤษภาคม 2558
ชั้นอนุบาล 3 เกิดระหว่าง 17 พฤษภาคม 2556 – 16 พฤษภาคม 2557
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เกิดระหว่าง 17 พฤษภาคม 2555 – 16 พฤษภาคม 2556
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 เกิดระหว่าง 17 พฤษภาคม 2554 – 16 พฤษภาคม 2555
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เกิดระหว่าง 17 พฤษภาคม 2553 – 16 พฤษภาคม 2554
การทดสอบความรู้ของนักเรียน
ไม่มีการทดสอบนักเรียนทุกระดับชั้น
เนื่องจากอาจมีผู้มาจับฉลากจำนวนมากในแต่ละปีและอาจพบปัญหาไม่มีที่จอดรถเพียงพอ กรุณาใจเย็นๆ และแบ่งปันที่จอดรถนะคะ
โรงเรียนอมาตยกุล
สถานที่ตั้ง : 100/20,23 ซอย 51 ถนนพหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ 10220
เบอร์โทรติดต่อ : 02-972-8890, 02-972-8894, 02-552-3291
เว็บไซต์ : www.amatyakulschool.com