เรื่องกลุ้มใจของคุณพ่อคุณแม่หลายคนที่ลูกพ้นวัยอนุบาลและกำลังก้าวเข้าสู่ชั้นประถมคงไม่พ้นประเด็นการเลือกโรงเรียนของลูกๆ
ตัวเลือกเยอะแยะมากมายเลย โรงเรียนดัง วิชาการเด่น โรงเรียนสาธิต ในดวงใจ หรือโรงเรียนสองภาษาแต่ค่าใช้จ่ายสูง หรือโรงเรียนนานาชาติที่ภาษาดีกว่า แต่วิชาการไม่แน่น โรงเรียนทางเลือกบลาๆ หรือว่า โรงเรียนใกล้บ้าน ดีที่สุดนะ
รศ. นพ. สังคม จงพิพัฒน์วณิชย์ อาจารย์พิเศษ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เจ้าของเพจคลินิกเด็กหมอสังคมได้โพสบทความให้ข้อคิดกับพ่อแม่ที่มีลูกวัยเรียนทั้งหลายว่า “อย่าเลือกโรงเรียนให้ลูกเพียงเพราะโรงเรียนดังและพ่อ แม่คาดหวัง อยากให้ลูกเรียนโรงเรียนดีๆ แต่ควรเลือกโรงเรียนให้เหมาะกับตัวและศักยภาพของลูกมากกว่า…”
แม้ว่าโรงเรียนดังๆเหล่านี้ มักผลิตนักเรียนส่วนใหญ่ให้มีความรู้และสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ดี แต่ใช่ว่านักเรียนทุกคนจะสามารถเรียน สอบได้ดีเหมือนกันทุกคน
เด็กชายคนหนึ่งเรียนอยู่ชั้นประถมต้น โรงเรียนเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งใน กทม.ที่วิชาการแน่นขนัด เรียนหนัก การบ้านเยอะ แม่เด็กบ่นให้หมอฟังบ่อยๆว่าลูกชอบลืมเอากระเป๋านักเรียนกลับบ้านแทบทุกวัน ทำให้ไม่ได้ทำการบ้าน ปัจจุบันเด็กคนนี้โตเป็นผู้ใหญ่อายุ 30 กว่า เรียนไม่จบอะไรเลย หลักลอยและไม่ได้ทำงาน ทำให้หมอรู้สึกเสียดายอนาคตของเด็กคนนี้จริงๆ
นักเรียนมัธยมต้น โรงเรียนเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งใน กทม. ที่วิชาการแน่นขนัด เรียนหนัก และการบ้านเยอะ ปกติก็ขยัน มีผลการเรียนดีมาตลอด จู่ๆ วันหนึ่ง ไม่ยอมไปโรงเรียน โดยไม่ทราบเหตุผล แม่ถามที่โรงเรียนก็ไม่มีปัญหา ถามลูกก็ว่าไม่มีปัญหา แต่ลูกบอกว่าไปโรงเรียนไม่เห็นจะได้อะไร อยากอยู่บ้านเรียนด้วยตนเองมากกว่า ไม่ว่าพ่อแม่จะพยายามพูดอ้อนวอน หว่านล้อม ให้เหตุผลอย่างไร ลูกก็ยอมไปเรียนบ้างบางวัน แต่ส่วนใหญ่อยู่บ้านไม่ได้ไปเรียน เป็นเช่นนี้นานเป็นเดือน
หัวอกพ่อแม่ใจสลาย กลุ้มใจมาก ปลงตกว่าคงต้องตามใจลูก ปีนี้เวลาเรียนคงไม่พอสอบแน่นอน เลยย้ายลูกไปโรงเรียนสาธิตแห่งหนึ่งใกล้บ้าน แม่เด็กเล่าให้หมอฟังเสียงเหมือนคนจะร้องไห้ว่า ” เหมือนกับได้ขึ้นสวรรค์ พ้นขุมนรก ลูกกลับตื่นแต่เช้าเพื่อไปโรงเรียนทุกวัน กลับมาเล่าให้ฟังว่าเพื่อนที่โรงเรียนน่ารัก ช่วยเหลือดีและตัวเขาได้เรียนทักษะชีวิตอะไรหลายอย่างที่โรงเรียนเดิมไม่เคยสอน” แม่เด็กพูดอย่างดีใจสุดๆ ว่า” เมื่อคืน เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นลูกหลับคาหนังสือ และลูกเริ่มวางแผนว่า ตนเองต้องการเรียนรู้อะไรและควรจะไปเรียนพิเศษอะไรเพิ่มเติม แม่ได้ลูกของแม่กลับคืนมาแล้ว”
เลือกโรงเรียนให้ลูก จึงอย่าเลือกเพียงเพราะโรงเรียนดังและพ่อแม่คาดหวัง อยากให้ลูกเรียนโรงเรียนดีๆ มีอนาคต แต่ควรเลือกโรงเรียนให้เหมาะกับตัวและศักยภาพของลูกมากกว่า
“แล้วคุณก็จะได้ลูกของคุณในอย่างที่เขาควรจะเป็นครับ”
รักลูกเองเน้นย้ำกับคุณพ่อคุณแม่บ่อยๆ เรื่องการเลือกโรงเรียนและการเรียนของเด็ก เราไม่อยากให้เด็กๆ เครียดจนเกินไปนัก เขาควรเติบโตตามวัย และควรมีความสุขกับสิ่งที่เขาเลือก และได้เรียนในสิ่งที่รักมากกว่าค่ะ
ที่มา : คลินิกเด็กหมอสังคม