ย้ายโรงเรียนลูก ต้องเตรียมตัวอย่างไร

การย้ายโรงเรียนของลูกบางครั้งก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะลูกจะต้องพบกับสภาพแวดล้อมใหม่ ครูใหม่ เพื่อนใหม่ ถ้าลูกปรับตัวไม่ได้ก็อาจจะงอแง ปฏิเสธการไปโรงเรียนไปเลยล่ะ ดังนั้นไม่ว่าจะย้ายโรงเรียนให้ลูกด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม พ่อแม่ควรเตรียมวางแผนให้ดีเพื่อเตรียมความพร้อมย้ายโรงเรียนให้ลูก โดยเฉพาะความพร้อมด้านจิตใจค่ะ

วางแผนย้ายโรงเรียนล่วงหน้า

• สอบถามถึงแนวการเรียนการสอนของทางโรงเรียนที่คุณหมายตาไว้ ว่าเหมาะกับลูกหรือเปล่า
• ระหว่างที่ลูกยังเรียนอยู่ที่โรงเรียนเก่า อาจจะหาเวลาพาลูกมาเที่ยวที่โรงเรียนใหม่ (แต่ยังไม่ต้องบอกว่าหนูจะต้องย้ายมาอยู่ที่นี่) โดยมีคุณครูและเพื่อนๆ เข้ามาทำความรู้จักด้วย ชวนเข้าไปเล่นในห้องต่างๆ เพื่อให้หนูมีฐานเพื่อนเสียก่อน ซึ่งคุณสามารถสังเกตปฏิกิริยาความรู้สึกที่หนูมีต่อโรงเรียนแห่งนั้นได้ด้วย อีกทางหนึ่ง
• ทีนี้เมื่อถึงเวลาที่ต้องย้ายโรงเรียนจริง หนูก็จะไม่รู้สึกเคว้งคว้างเท่าการมาเริ่มเรียนวันแรกในสถานที่แปลกใหม่ ท่ามกลางผู้คนแปลกหน้าแล้วล่ะค่ะ

ทำความเข้าใจกับลูกแบบไม่บังคับเมื่อต้องย้ายโรงเรียน

ความไม่คุ้นเคยอาจจะทำให้ลูกรู้สึกเกร็ง ทั้งห้องเรียนใหม่ โต๊ะเรียนใหม่ ครูใหม่ เพื่อนใหม่ หน้าตาไม่คุ้นเลยสักคน มองไปมองมาไม่เห็นมีอะไรที่ลูกเคยรู้จัก จึงไม่แปลกค่ะ ถ้าในช่วงแรกๆ ของการย้ายโรงเรียน หนูๆ จะบ่นคิดถึงเพื่อนเก่าหรือคุณครูคนเก่า อยากให้คุณพ่อคุณแม่ใช้เวลาร่วมกับลูกมากขึ้นอีกนิด เช่น มาอยู่กับลูกที่โรงเรียนใหม่ด้วยเพื่อไม่ให้หนูรู้สึกว่าถูกทอดทิ้ง มีคุณครูคนใหม่มาคอยดูแล มีเพื่อนที่น่ารักและอัธยาศัยดีมาชวนหนูเล่นด้วยกัน เรียนด้วยกัน เมื่อหนูปรับสภาพจิตใจได้แล้ว ค่อยขยายกลุ่มเพื่อนของเขาให้ใหญ่ขึ้น จนหนูรู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของโรงเรียนจริงๆ  

อีกประการคือ อยากให้เน้นการสื่อสารกันระหว่างบ้านและโรงเรียน ให้คุณพ่อคุณแม่ได้พูดคุยกับคุณครูถึงการใช้ชีวิตของลูกในรั้วโรงเรียน และคุณครูได้ติดตามสอบถามจากคุณพ่อคุณแม่ว่าน้องหนูรู้สึกอย่างไรกับ โรงเรียนใหม่ เพื่อน คุณครู สภาพแวดล้อม เพื่อนำข้อบกพร่องมาแก้ไข

ผูกมิตรกับสิ่งใหม่เมื่อลูกย้ายโรงเรียน

วิธีที่จะช่วยลูกผูกมิตรกับเพื่อนโรงเรียนใหม่ ก็มีหลายวิธีค่ะ

• ค้นหาความชอบของลูกในรั้วโรงเรียนแห่งนั้น ลูกจะได้รู้สึกสนุกกับการไปโรงเรียนมากขึ้น เพราะมีเรื่องน่าสนุกคอยอยู่ ไม่ใช่ครูที่ท่าทางดุเหมือนยักษ์ หรือเพื่อนๆ ที่ล้วนแต่มีกลุ่ม มีพรรคพวกของตัวเองอยู่แล้ว
• คุณครูลองเปิดโอกาสให้หนูๆ ได้แสดงความสามารถ หรือทำกิจกรรมที่เขาชอบร่วมกับเพื่อนใหม่ในห้อง
• ตบท้ายด้วยการให้กำลังใจอย่างเต็มเปี่ยม ส่วนเด็กๆ ที่ปรับตัวช้า ก็ขอให้ปรับอย่างค่อยเป็นค่อยไปนะคะ

การสื่อสารระหว่างพ่อแม่

ลูก ๆ ผูกมิตรกันดีแล้ว ต้องอย่าลืมมิตรภาพของผู้ใหญ่อย่างเรา ๆ ด้วยนะคะ เพราะบางทีสังคมของพ่อแม่ก็ช่วยเกื้อหนุนสังคมเล็กๆ ของลูกเหมือนกัน การได้รับรู้ แบ่งปันประสบการณ์กับพ่อแม่ที่มีวัยเดียวกัน จะทำให้เราเข้าใจหัวอกของเด็ก ๆ มากขึ้น และช่วยหนุนให้เด็ก ๆ รักกันเหนียวแน่นขึ้นด้วยไงคะ