รูปประกอบจาก : http://www.americancommunityinfrance.com
“การที่ลูกจะเก่งภาษาไม่ได้ขึ้นอยู่กับโรงเรียนหรือครูผู้สอนเพียงอย่างเดียว แต่ต้องได้รับการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ” – K-Expert
ในยุคที่รู้แค่ภาษาเดียวอาจไม่พอกับการใช้ชีวิตในสังคมปัจจุบัน และภาษาอังกฤษก็กลายเป็นภาษาพื้นฐานที่ต้องใช้ในการทำงาน จึงเชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่ย่อมอยากให้ลูกสามารถสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว การเลือกโรงเรียนหรือหลักสูตรที่เรียนจึงเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมทักษะด้านภาษาให้ลูกได้ ทั้งนี้โรงเรียนแต่ละประเภท หรือแต่ละหลักสูตรย่อมมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน โดย K-Expert มีข้อมูลมาฝากคุณพ่อคุณแม่เพื่อเป็นแนวทางประกอบการตัดสินใจเลือกโรงเรียนให้ลูก ดังนี้
โรงเรียนนานาชาติ
เป็นโรงเรียนที่ไม่ใช้หลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ แต่ใช้หลักสูตรของต่างประเทศ เช่น หลักสูตรระบบอเมริกัน หลักสูตรระบบอังกฤษ ซึ่งโรงเรียนนานาชาติจะใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษากลางในการสื่อสาร และครูผู้สอนมาจากต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ ทำให้เด็กมีโอกาสเรียนรู้และใช้ภาษาอังกฤษค่อนข้างเยอะ สิ่งที่ตามมาก็คือ ค่าเรียนที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับโรงเรียนประเภทอื่น โดยเฉลี่ยอยู่ที่ปีละประมาณ 300,000 – 500,000 บาท ในการเข้าเรียน
โรงเรียนนานาชาติบางแห่งอาจมีเงื่อนไขในการรับเด็ก เช่น มีการทดสอบว่าเด็กสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้มากน้อยเพียงใด เพราะถ้าเด็กไม่เข้าใจหรือไม่สามารถสื่อสารภาษาต่างประเทศได้เลย อาจเกิดความคับข้องใจ สับสน และส่งผลต่อชีวิตความเป็นอยู่ของเด็กเมื่ออยู่ในโรงเรียนได้
สำหรับข้อควรคำนึงของการส่งลูกไปโรงเรียนนานาชาติ ก็คือ เด็กจะได้รับอิทธิพล วัฒนธรรม และวิธีคิดแบบฝรั่ง รวมถึงอาจรู้จักเพื่อนคนไทยน้อยกว่าเด็กไทยคนอื่นๆ และช่วงหลังมานี้มีการเปิดโรงเรียนนานาชาติกันมากขึ้นตามกระแสความนิยมของพ่อแม่ผู้ปกครอง ซึ่งต้องเช็คกันให้ดีว่าได้รับอนุญาตถูกต้องให้จัดตั้งหรือไม่ คุณภาพของครู และวิธีการจัดการเรียนการสอนเป็นอย่างไร
โรงเรียนสองภาษาหรือไบลิงกัว
เน้นการสอนแบบสองภาษา (บางโรงเรียนอาจมีภาษาที่สามด้วย ส่วนใหญ่เป็นภาษาจีน) ใช้หลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ การเรียนการสอนในแต่ละวันมีทั้งภาคภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ภาคภาษาไทยเป็นครูไทยสอน ภาคภาษาอังกฤษเป็นครูต่างชาติสอน ทำให้ค่าเล่าเรียนถูกกว่าโรงเรียนนานาชาติ โดยเฉลี่ยอยู่ที่ปีละประมาณ 70,000-140,000 บาท ทำให้เริ่มเป็นที่นิยมของพ่อแม่ผู้ปกครองมากขึ้น
ในการเลือกโรงเรียนสองภาษาให้ลูก จะต้องดูว่าครูต่างชาติที่มาสอนมีวุฒิการศึกษาเป็นอย่างไร มีวิธีการเรียนการสอนเป็นอย่างไร และที่สำคัญ การที่โรงเรียนสองภาษามีครู 2 วัฒนธรรม คือ ไทย และต่างชาติ ในมุมหนึ่ง เด็กจะรู้จักวัฒนธรรมที่หลากหลาย แต่ในอีกมุมหนึ่ง เด็กอาจสับสนกับวัฒนธรรมที่แตกต่างกันได้ เช่น ครูไทยสอนว่าไม่ควรเดินข้ามสิ่งของ หรือควรก้มหลังเมื่อเดินผ่านผู้ใหญ่ ในขณะที่ครูต่างชาติอาจไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องพวกนี้ ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ที่จะให้ลูกเรียนโรงเรียนสองภาษาจะต้องช่วยเสริมทักษะต่างๆ ให้ลูกด้วย เช่น เรื่องมารยาท เรื่องการพูด เป็นต้น
นอกจากการส่งเสริมให้ลูกเก่งภาษาด้วยการให้ลูกเรียนในโรงเรียนนานาชาติ หรือโรงเรียนสองภาษาแล้ว คุณพ่อคุณแม่อาจให้ลูกเรียนในโรงเรียนปกติที่เป็นหลักสูตรภาษาไทย แล้วเสริมทักษะด้านภาษาด้วยการเรียนพิเศษที่สถาบันสอนภาษาเพิ่มเติม ซึ่งวิธีนี้จะช่วยคุณพ่อคุณแม่ประหยัดค่าใช้จ่ายได้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าลูกอาจมีโอกาสสื่อสารหรือใช้ภาษาอังกฤษน้อยกว่าการเรียนในโรงเรียนที่มีการสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษเป็นหลัก ไม่ว่าคุณพ่อคุณแม่จะเลือกส่งเสริมทักษะด้านภาษาให้ลูกด้วยวิธีใดก็ตาม สิ่งสำคัญที่ทำให้ลูกเก่งภาษาได้อยู่ที่การฝึกฝน รวมถึงการสนับสนุนจากคุณพ่อคุณแม่ในการใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันด้วยค่ะ
ติดตามบทความเกี่ยวข้องกับ “อยากให้ลูกเก่งภาษา เลือกโรงเรียนแบบไหนดี” ได้ที่ www.askKBank.com/K-Expert และหากมีข้อสงสัยหรือต้องการปรึกษาวางแผนเพิ่มเติม สามารถปรึกษากับที่ปรึกษาลูกค้าบุคคล ธนาคารกสิกรไทย ได้ที่ K-Expert@kasikornbank.com