ช่วงที่ไวรัสไวรัสโคโรน่า (COVID-19) กำลังระบาดอย่างหนักแบบนี้ คุณพ่อคุณแม่คงกังวลใจไม่น้อยเมือเจ้าตัวเล็กออกอาการป่วย แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเด็ก ๆ ป่วยเป็นแค่ไข้หวัดธรรมดาหรือเป็น COVID-19 เรามาไขข้อข้องใจกันดีกว่าค่ะ
1.ไข้หวัด
ไข้หวัดเป็นโรคที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะในเด็กเล็ก เนื่องจากยังมีภูมิต้านทานต่อเชื้อหวัดน้อยกว่าผู้ใหญ่นั่นเอง เชื้อไข้หวัดสามารถติดต่อกันได้ง่าย ละอองเสมหะที่ผู้ป่วยไอ จาม หรือจากการสัมผัส เมื่อมีเชื้อหวัดติดมือแล้วไปสัมผัสผู้อื่น เชื้อหวัดก็จะติดคนๆ นั้น หากไปขยี้ตาหรือแคะจมูกก็จะเข้าสู่ร่างกายจนกลายเป็นไข้หวัดได้โดยเฉพาะในเด็กที่มักชอบเล่นคลุกคลีกันอย่างใกล้ชิดจึงทำให้มีโอกาสติดเชื้อไข้หวัดได้ง่าย
สำหรับอาการของไข้หวัด หลังจากเชื้อไวรัสเข้าสู่ร่างกายประมาณ 1 ถึง 3 วัน ก็จะเริ่มแสดงอาการและที่เห็นชัดเจน ส่วนใหญ่อาการมักไม่รุนแรงจนต้องล้มหมอนนอนเสื่อ เด็กยังวิ่งเล่นหรือ ผู้ใหญ่ทำงานได้
อาการ
1.มีไข้
2.คัดจมูกน้ำมูกไหลอาจมี ไอ เจ็บคอ
3.ครั่นเนื้อครั่นตัว อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
2.ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19)
เป็นตระกูลของไวรัสที่ก่อให้อาการป่วยตั้งแต่โรคไข้หวัดธรรมดาไปจนถึงโรคที่มีความรุนแรงมาก เช่น โรคระบบทางเดินหายใจตะวันออกกลาง และโรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง เป็นต้น สามารถแพร่เชื้อจากคนสู่คนได้ โดยเชื้อไวรัสนี้พบครั้งแรกในการระบาดในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ สาธารณรัฐประชาชนจีน ในช่วงปลายปี 2019
อาการ
1.มีไข้
2.ไอ จาม
3.หายใจลำบาก มีอาการอ่อนเพลีย
4.ถ่ายเป็นลักษณะเหลว
5.ในกรณีที่อาการรุนแรงมาก อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ปอดบวม ปอดอักเสบ ไตวาย หรืออาจเสียชีวิต
ความแตกต่างระหว่างไข้หวัด VS COVID-19
อาการของผู้ติดเชื้อไวรัส COVID-19 และติดเชื้อไข้หวัด จะมีลักษณะอาการที่คล้ายกัน คือเป็นไข้และไอจาม แต่สิ่งที่ต่างกัน โดยไข้หวัดจะมีอาการอื่นร่วมด้วย อาทิ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เจ็บคอ ส่วนผู้ติดเชื้อ COVID-19 จะรู้สึกหายใจลำบาก มีอาการอ่อนเพลีย ถ่ายเป็นลักษณะเหลว หากมีอาการดังกล่าว รีบไปพบแพทย์ทันที
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะ 4 วิธีป้องกัน COVID-19 ดังนี้
1.ต้องรับประทานที่ปรุงสุกเท่านั้น
2.ต้องใช้ช้อนกลางเมื่อรับประทานอาหารร่วมกัน
3.ต้องล้างมือทุกครั้งด้วยน้ำและสบู่หรือใช้เจลล้างมือเมื่อสัมผัสสิ่งสกปรก
4.ต้องสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่อไปในแหล่งชุมชนหรือพื้นที่เสี่ยง
โดยหากมีไข้ มีน้ำมูก ไอ เจ็บคอ หายใจเหนื่อยหอบ และมีประวัติเดินทางไปประเทศกลุ่มเสี่ยงหรืออาศัยอยู่ประเทศกลุ่มเสี่ยง ควรรีบปรึกษาแพทย์ทั้นที
ปัจจุบัน ยังไม่มีวัคซีนชนิดใดที่สามารถยับยั้งไวรัส COVID-19 ได้หายขาด โดยนักวิจัยต่างกำลังทำงานเพื่อพัฒนาตัวยาสำหรับไวรัสชนิดนี้ เนื่องจากไวรัส COVID-19 ถือเป็นเชื้อใหม่ที่เพิ่งถูกค้นพบ จึงทำให้แพทย์ต้องเรียนรู้และหาวิธีในการรักษาเกี่ยวกับไวรัสชนิดนี้อีกมาก
แต่ไม่ว่าจะเป็นไข้หวัดธรรมดาหรือ COVID-19 คุณพ่อคุณแม่ก็คงไม่อยากให้ลูกต้องเจ็บป่วยไม่สบายใช่มั้ยคะ ดังนั้นการรักษาสุขภาพให้แข็งแรงจึงเป็นสิ่งสำคัญ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หมั่นออกกำลังกายสม่ำเสมอ และไม่ไปอยู่ในพื้นที่เสี่ยงที่จะติดเชื้อ เพียงเท่านี้ก็สามารถปกป้องลูกน้อยให้ห่างไกลจากโรคต่างๆ ได้แล้วค่ะ
บทความแนะนำ
ข้อสรุป! ประกันสังคม ติดเชื้อ 'โควิด-19' รักษาฟรีจริงหรือไม่?