ประวัติวันแม่ วันแม่แห่งชาติ ประวัติเพลงค่าน้ำนม และดอกไม้วันแม่
วันที่ 12 สิงหาคม ของทุกปีเป็นวันแม่แห่งชาติของประเทศไทย และเดือนนี้จะมีกิจกรรมเกิดขึ้นมากมายเพื่อเป็นการเทิดทูนความรักของแม่ แต่ก่อนที่เราจะมีวันแม่แห่งชาติในวันที่ 12 สิงหาคมของทุกปี ทราบไหมคะว่าเราเคยมีวันแม่กันมาก่อนแล้ว และทราบไหมคะว่าเพลงค่าน้ำนม และดอกไม้วันแม่มีที่มาอย่างไร
ประวัติวันแม่ วันแม่แห่งชาติ
วันแม่ของประเทศไทยมีขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2486 ณ.สวนอัมพร โดยการจัดงานของกระทรวงสาธารณสุข แต่ช่วงนั้นเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ขึ้น งานวันแม่ในปีต่อมาจึงต้องงดไป เมื่อหมดสงครามก็มีการจัดงานวันแม่ขึ้นมาอีกครั้งแต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร
เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2493 ในสมัยจอมพล ป. พิบูลย์สงครามเป็นนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรีได้มีมติประกาศให้วันที่ 15 เมษายนของทุกๆ ปี เป็นวันแม่ โดยเรียกว่า “วันแม่ของชาติ” และมอบหมายให้สภาวัฒนธรรมแห่งชาติเป็นผู้จัดงาน งานวันแม่จึงจัดขึ้นอีกครั้งในวันที่ 15 เมษายน พ.ศ.2493 และได้รับความสำเร็จด้วยดี ต่อมาถึง พ.ศ.2519 ทางราชการได้เปลี่ยนวันแม่แห่งชาติใหม่อีกครั้ง โดยถือเอาวันคล้ายวันเสด็จพระราชสมภพของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เป็นวันแม่แห่งชาติ คือ วันที่ 12 สิงหาคม เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน
ประวัติเพลงค่าน้ำนม เพลงวันแม่
ถ้าพูดถึงวันแม่แล้ว เพลงค่าน้ำนม ก็เป็นเพลงที่เปรียบเหมือนสัญลักษณ์ของวันแม่เช่นกัน เนื่องด้วยเนื้อเพลงค่าน้ำนมและทำนองมีความไพเราะและมีความหมายที่สื่อถึงพระคุณอันยิ่งใหญ่ของแม่ที่เป็นดั่งผู้ให้ชีวิตแก่ลูกทุกคน
เพลงค่าน้ำนม แต่งโดย ครูไพบูลย์ บุตรขัน แต่ท่านได้ขายลิขสิทธิ์ให้ ครูสง่า อารัมภีร์ นำมาบันทึกแผ่นเสียง ผู้ที่ร้องบันทึกแผ่นเสียงเป็นครั้งแรกคือ ชาญ เย็นแข เมื่อ พ.ศ. 2492 ได้รับคำชื่นชมเป็นอย่างมาก เป็นเพลงที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นเพลงที่เป็นรากฐานของเพลงลูกทุ่ง
เนื้อเพลงค่าน้ำนมบอก ถึงความรัก ความเสียสละ และความอดทน ของแม่ที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อลูกรัก แม้จะเหนื่อยยากเพียงใดก็ยังจะยอมลำบาก เพื่อปกป้องคุ้มครองลูกให้ดีที่สุดเท่าที่แม่คนหนึ่งจะสามารถทำได้ และในฐานะลูก เมื่อเติบโตขึ้นแล้วก็ควรรู้ค่าและสำนึกในพระคุณของแม่ที่เลี้ยงดูเรามา ด้วยการมอบความรักให้ท่าน และพร้อมที่จะดูแลท่านให้สุขทั้งกายใจให้สมกับค่าน้ำนมที่ท่านให้เราดื่มกินจนโต
เพลงค่าน้ำนม
ดอกไม้วันแม่ ดอกมะลิ
ดอกไม้ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นดอกไม้วันแม่ หรือสัญลักษณ์วันแม่ คือ ดอกมะลิ โดยมีความหมายดังนี้
- ดอกมะลิมีสีขาว เปรียบเหมือนความรักแท้ที่ยิ่งใหญ่ และบริสุทธิ์ของแม่
- ดอกมะลิเป็นดอกไม้ที่มีสรรพคุณเป็นเครื่องหอมบำรุงหัวใจ เปรียบเหมือนความรักของแม่ที่มีความเมตตา และทำให้ชุ่มชื่นหัวใจ
- ดอกมะลิเป็นดอกไม้ที่ออกดอกตลอดทั้งปี เปรียบเหมือนความรักของแม่ที่ไม่มีที่สิ้นสุด
- ดอกมะลิมีกลิ่นหอมได้ไกลและหอมนาน เปรียบเหมือนความรักของแม่ที่ยั่งยืน ถาวร
ในช่วงเดือนสิงหาคมซึ่งเป็นเดือนแห่งวันแม่ รวมทั้งในวันที่ 12 สิงหาคม ที่จะมีกิจกรรมวันแม่เกิดขึ้นมากมาก
สิ่งที่เราควรปฏิบัติอย่างยิ่งคือการแสดงความรัก และความเคารพต่อแม่ผู้มีพระคุญ ซึ่งจริงๆ แล้วเราควรปฏิบัติเช่นนี้ทุกวัน ไม่ใช่เพียงวันแม่เท่านั้น
เพราะทุกๆ วันเป็นวันที่แม่ยังคงมอบความรักและความเสียสละให้เราเสมอไม่ว่าลูกจะเติบโตมากเท่าไหร่แล้วก็ตาม