หมอฟันเด็กแนะนำ 10 วิธี กินขนมไม่ให้ฟันผุ
ขนมกับเด็กเป็นของคู่กันค่ะ ถ้าจะห้ามให้เขาไม่กินเลยก็คงจะยากเกินไป ขนมเด็ก ๆ กินได้แต่กินอย่างไรให้ไม่ฟันผุ คุณหมอตุ๊กตา เจ้าของเพจ ฟันน้ำนม มีคำแนะนำเรื่อง การกินขนมของเด็ก ๆ มาแบ่งปันกันค่ะ
10 วิธีกินขนมอย่างไร ให้เด็กห่างไกลฟันผุ
- กินอาหารมื้อหลักก่อนแล้วค่อยกินขนม เพราะขณะเคี้ยวอาหารจะมีการหลั่งของน้ำลายมากขึ้น น้ำลายจะช่วยชะล้างขนมหวานในช่องปาก นอกจากนี้ลูกจะได้กินอาหารที่มีประโยชน์ให้อิ่มท้องก่อนที่จะกินขนมด้วย
- กินจุบกินจิบเสี่ยงฟันผุสูง ขนมระหว่างมื้ออาหารหลัก ไม่ควรกินเกินวันละ 3 ครั้งค่ะ
- อย่าซื้อขนมมาตุนไว้ที่บ้าน หรือวางไว้ในที่ที่ลูกมองเห็นได้ง่าย
- กำหนดกฎของบ้านคือ ถ้าจะกินขนม ลูกต้องขออนุญาตพ่อแม่ก่อน ห้ามวางขนมในที่ลูกเอื้อมถึง หยิบขนมกินเมื่อไรก็ได้ตามใจชอบ
- พ่อแม่เป็นคนกำหนดปริมาณขนมให้ลูก กินแค่พอมีความสุข ไม่กินให้อิ่ม
- หลีกเลี่ยงขนมหวานที่เหนียวติดฟัน หรือต้องอยู่ในช่องปากนาน ๆ เสี่ยงให้เกิดฟันผุสูง เช่น กาละแม ท๊อฟฟี่ผลไม้แห้ง เช่น ลูกเกด คุกกี้ ช็อกโกแลต แครกเกอร์ ขนมกรุบกรอบ หลังกินขนมเหล่านี้ ลองให้ลูกกินผลไม้ตาม (ชมพู่ แอปเปิล ฝรั่ง) จะช่วยขจัดขนมที่ติดตามร่องฟันได้ดี
- บอกลูกทุกครั้งให้เค้ารู้ว่า ขนมเหล่านี้ทำให้ฟันผุได้ (ขนมทุกชนิดที่มีแป้งและน้ำตาลเป็นส่วนประกอบ ล้วนทำให้ฟันผุได้ง่าย) กินเสร็จต้องแปรงฟันทุกครั้ง
- มีการศึกษาพบว่าชีสช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดฟันผุและช่วยกระตุ้นการหลั่งของน้ำลาย อาจเลือกกินขนมคู่กับชีส เช่น แครกเกอร์กับชีส กล้วยกับชีส เป็นต้น
- สำคัญมาก แปรงฟันให้ลูกอย่างมีคุณภาพด้วยยาสีฟันฟลูออไรด์วันละ 2 ครั้งเช้าและก่อนนอน ร่วมกับใช้ไหมขัดฟันวันละ 1 ครั้งก่อนนอน
- พบหมอฟันเพื่อตรวจฟันเป็นประจำทุก 3-6 เดือน เราไม่จำเป็นต้องห้ามลูกกินขนมเด็ดขาดหรอกนะคะ ให้ลูกกินขนมได้ เพียงแค่ควบคุมปริมาณและความถี่ แปรงฟันให้ดี และพบหมอฟันเป็นประจำเท่านี้ลูกก็ฟันไม่ผุง่าย ๆ แล้วค่ะ
เพียงเท่านี้ก็สามารถให้เด็ก ๆ กินขนมได้อย่างสบายใจ ห่างไกลฟันผุแล้วค่ะ บางข้ออาจทำยาก แต่ถ้าสอนเขาให้ลูกเข้าใจว่าสิ่งที่หนูทำส่งผลดีต่อสุขภาพฟันของหนูนะคะ
รักลูก Community of The Experts
ทพญ. ปวีณา คุณนาเมือง
ทันตแพทย์เฉพาะทางด้านทันตกรรมสำหรับเด็ก
เจ้าของเพจ "ฟันน้ำนม"