3 วิธีการจดจำ ฝึกความจำให้ลูกผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 - ทักษะสมอง EF

ฝึกความจำ, การจดจำ ของเด็ก, ฝึกลูก จำเก่ง, ช่วยลูก ฝึกความจำ, ความจำของเด็ก, กิจกรรม ช่วยจำ, กิจกรรมฝึก EF, ความจำ EF, working memory, ลูกจำเก่ง, ลูกจำแม่น, เรียนรู้ ประสาทสัมผัสทั้ง 5, นิทาน EF, พัฒนาทักษะสมอง EF, Executive Functions

ลูกเรียนรู้ผ่านการจดจำสิ่งรอบตัวและจำได้ตั้งแต่ในท้อง จะพัฒนาความจำให้ลูกเพื่อต่อยอดการเรียนรู้ คุณแม่ต้องทำตาม 3 วิธีพัฒนาทักษะสมอง EF ดังนี้

3 วิธีการจดจำ ฝึกความจำให้ลูกผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 - ทักษะสมอง EF

เรื่องความจำของเด็กมีข้อสงสัยมากมายว่าเกิดอย่างไร มีกระบวนการอย่างไร นักวิทยาศาสตร์ที่ทำงานเกี่ยวกับความจำของมนุษย์ จึงทดลองความจำของเด็กวัย 0 - 1 ปี โดยเอาของเล่นชิ้นหนึ่งให้เด็กดู จับ ลองเล่น แล้วเมื่อเวลาผ่านไป 24 ชั่วโมงลองเอาของเล่นชิ้นนั้นมาให้เด็กเล่นอีกครั้ง หากเด็กจับหรือเล่นได้แบบเดิม แสดงว่าเขามีความจำยาว 24 ชั่วโมง

จากการทดลองนี้พบว่า เด็ก ๆ สามารถจำได้ค่ะ และเมื่ออายุมากขึ้นเรื่อย ๆ เด็กก็จะจำได้มากขึ้นเรื่อย ๆ เช่น ลูกวัย 3-4 เดือน จำย้อนไปได้ 24 ชั่วโมง ลูกวัย 12-18 เดือน จำย้อนกลับไปได้ 1 สัปดาห์ หรือย้อนไปได้นานกว่านั้น โดยลูกจะเกิดการจดจำผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 สามารถได้ยินเสียงตั้งแต่อายุครรภ์ได้ 5-6 เดือน และเซลล์สมองจะถูกพัฒนาตั้งแต่ลูกอยู่ในครรภ์ โดยเฉพาะเซลล์สมองที่พัฒนาด้านความจำ คือ สมองส่วนที่เรียกว่า Hippocampus จะมีการพัฒนามากขึ้นในช่วงอายุครรภ์ไตรมาสสุดท้าย ซึ่งพ่อแม่สามารถพัฒนาความจำของลูกได้ด้วย 3 วิธีต่อไปนี้

กระตุ้นการจดจำ ฝึกฝนการจำผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5
การที่ลูกจะจดจำดี ต้องเกิดจากประสบการณ์ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต โดยผ่านประสาทสัมผัส หู ตา จมูก ปาก และสัมผัสกาย เมื่อข้อมูลต่าง ๆ ผ่านเข้ามาทางประสาทสัมผัสเหล่านี้ จะถูกส่งไปที่สมองแล้วเกิดการรวบรวมข้อมูลนำไปฝังไว้เป็นความทรงจำ ซึ่งการกระตุ้นผ่านประสาทสัมผัส ต้องกระตุ้นซ้ำ ๆ บ่อย ๆ เพื่อให้เกิดการจดจำได้นานมากขึ้น
เสริมสร้างความจำด้วยการให้ลูกได้รับสารอาหารครบ 5 หมู่
ลูกควรได้รับโภชนาการที่ดี กินอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อให้สมองมีพลังงานอย่างเพียงพอ และช่วยสร้างสารไมอีลิน ซึ่งเป็นไขมันที่หุ้มเส้นประสาทช่วยให้การส่งสารสื่อประสาททำงานได้ดี ส่งข้อมูลได้รวดเร็ว หากเส้นประสาทไม่มีไมอีลินหุ้มก็จะทำให้ข้อมูลต่าง ๆ เดินไปเรื่อย ๆ สมองไม่กระตือรือร้น เฉื่อย ๆ แต่ถ้ามีสารไมอีลินจะทำให้ข้อมูลต่าง ๆ ก้าวกระโดดได้รวดเร็วกว่าเดิม สมองสดใส เกิดการจดจำที่ดีและยาวนานขึ้น
การฝึกฝนความจำที่ดีต้องไม่กดดัน และอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี
หากลูกถูกบังคับ หรือมีความกดดัน สมองจะหลั่งสารที่สร้างความเครียดออกมา ส่งผลให้เด็กไม่อยากเรียนรู้ มีการจดจำไม่ดีได้ การที่ลูกอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี สบาย ไม่กดดัน ทำสิ่งต่าง ๆ อย่างมีความสุข ก็จะช่วยส่งเสริมศักยภาพในการจดจำให้ดียิ่งขึ้น และยังทำให้ลูกอยากเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ เพิ่มอีกด้วยค่ะ

นอกจากแก้ไขด้วยกิจกรรมพัฒนาความจำเพื่อฝึกการจดจำเรื่องราวต่าง ๆ เรายังมีตัวช่วยดี ๆ มาแนะนำคุณแม่ด้วยนะคะ เป็นชุดนิทาน EF เพื่มเสริมทักษะด้านความทรงจำ และฝึกนิสัยรักการอ่านให้กับคุณลูกค่ะ