สังคมไทยต้องพัฒนาเด็กตั้งแต่ปฐมวัย
ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย ร่วมแถลงข่าวการสร้างเด็กไทยให้มีคุณภาพด้วย EF หรือ Executive Functions โดย รศ.ดร.นวลจันทร์ จุฑาภักดีกุล อาจารย์ศูนย์วิจัยประสาทวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า EF คือการทำหน้าที่บริหารจัดการของสมองส่วนหน้า ซึ่งจะฝึกทักษะ 3 ด้านสำคัญ ได้แก่
1.การยับยั้งชั่งใจ
2.การเปลี่ยนความคิดเพื่อทำในสิ่งที่ถูกต้อง
3.ความจำการจัดลำดับความสำคัญในการทำงานเพื่อให้ประสบความสำเร็จ
ซึ่งการพัฒนาสมองทั้ง 3 ส่วนให้ได้ผลดีที่สุดคือเด็กปฐมวัย หรือช่วงอายุตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 6 ปี ซึ่งจะทำให้เด็กสามารถควบคุมอารมณ์ตนเอง เมื่อพบปัญหาก็รู้จักหาทางออก ทั้งรู้จักปรับตัวเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลง มีสมาธิอยู่กับเป้าหมายที่จะทำให้เกิดความสำเร็จ ซึ่งเป็นทักษะสำคัญสำหรับโลกอนาคตที่จำเป็นต้องเร่งปลูกฝังในเด็กปฐมวัย หากไม่ได้รับการฝึก EF จะพบว่าเป็นเด็กก้าวร้าว ความจำไม่ดี ทำงานไม่เป็นขั้นตอน ซึ่งจะไม่ประสบความสำเร็จ เมื่อเข้าสู่วัยรุ่นจะยิ่งเป็นปัญหามากจนกลายเป็นปัญหาสังคม
นางสุภาวดี หาญเมธี จากสถาบันอาร์แอลจี กล่าวว่า โลกปัจจุบันเปลี่ยนแปลงและซับซ้อนมากขึ้น จำเป็นต้องเตรียมทักษะให้เด็กไทย ซึ่งช่วงอายุที่ดีที่สุดคือปฐมวัย ขณะนี้ทั่วโลกหันกลับมาให้ความสำคัญในการพัฒนาทักษะเด็กปฐมวัย ดังนั้น ประเทศไทยจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องให้ความสำคัญและลงทุนกับเด็กปฐมวัย ซึ่งเป็นแนวทางที่ทำให้การปฏิรูปการศึกษาประสบความสำเร็จ
นางธิดา พิทักษ์สินสุข จากสมาคมอนุบาลศึกษาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เด็กไทยในปัจจุบันเลี้ยงยากขึ้น สมาธิน้อย ก้าวร้าว ไม่อดทน ช่วยเหลือตนเองได้น้อยลง เพราะเราให้ความสำคัญกับการพัฒนาเด็กปฐมวัยไม่มากพอ สังคมไทยต้องเริ่มสร้างเด็กไทยให้มีทักษะต่างๆดังกล่าวทั้ง 3 ด้านตั้งแต่วันนี้ และทำอย่างจริงจังต่อเนื่อง เพื่อให้เด็กไทยอยู่รอดได้ในสังคมที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา