มื้อหม่ำ...สร้างสุขนิสัยที่ดี

บนโต๊ะอาหารคือช่วงเวลาการเรียนรู้การสร้างสุขนิสัยการกินที่ดี

คิกคัก คิกคัก....มาสร้างเสียงแห่งความสุขบน โต๊ะอาหารของบ้านกันเถอะค่ะ เพราะนอกจากข้าวปลาอาหารแล้ว มื้อหม่ำของหนูๆ และครอบครัวยังมีบรรยากาศแห่งการพูดคุย รอยยิ้มให้กัน โดยเฉพาะสำหรับเจ้าหนู อ.2 ช่วงเวลาบนโต๊ะอาหาร ยังเป็นชั่วโมงของการเรียนรู้วิชาสร้างสุขนิสัยการกินที่ดีได้ด้วยค่ะ

ด้วยวัยแห่งความอยากรู้อยากเห็นและรับฟังเหตุผลอย่างเข้าใจ มื้อไหนๆ ก็สามารถเรียนรู้และสนุกได้

สุขนิสัยที่ดี...บนโต๊ะอาหาร

เชื่อมั้ยคะว่าสุขนิสัยที่ดีๆ นำมาซึ่งลักษณะนิสัยที่ดีๆ ในหลายๆ เรื่องค่ะ

* ล้างมือก่อนลงมือหม่ำ พาเจ้าหนูไปล้างมือทุกครั้งก่อนเริ่มต้นกินไม่ว่าจะมื้อไหนๆ ล้างอย่างเดียวเจ้าหนูคงไม่เข้าใจว่าทำไมต้องล้างด้วยนะ ก็แค่กินข้าวเองนี่นา

“ก่อนกินข้าวเราต้องทำความสะอาดมือก่อนนะลูก ขัดขวางไม่ให้เจ้าเชื้อโรคปนกับอาหารเข้าสู่ปากและร่างกายของเราเดี๋ยวเราจะ ไม่สบายได้นะ”

ครั้งต่อไปลองให้เจ้าหนูล้างมือด้วยตัวเอง ในไม่ช้าจะกลายเป็นนิสัยไปโดยปริยาย ต่อไปเจ้าหนูก็เป็นคนรักความสะอาดโดยไม่รู้ตัวค่ะ

* ช้อนกลางสิจ๊ะลูก ฝึกให้เจ้าหนูใช้ช้อนกลางบนโต๊ะอาหาร พร้อมอธิบายเรื่องช้อนกลางกับเจ้าหนู

“ก่อนที่จะตักแกงจืดใส่จานข้าวของเราต้องใช้ช้อนกลางตักอาหารนะจ๊ะ เพราะถ้าใช้ช้อนในจานข้าวมาตัก แล้วเจ้าของช้อนเป็นหวัด เชื้อหวัดอาจตกอยู่ในแกงจืด คนอื่นๆ และหนูที่กินแกงจืดชามเดียวกันอาจติดเชื้อหวัดด้วยก็ได้” ข้อนี้ถือเป็นมารยาทบนโต๊ะอาหารที่เจ้าหนูควรนำไปใช้นอกบ้านด้วยนะคะ

* ตรงต่อเวลา...หม่ำ ฝึกให้เจ้าหนูกินอาหารทั้ง 3 มื้ออย่างตรงเวลา ซึ่งจะช่วยฝึกให้เป็นคนตรงต่อเวลากับเรื่องอื่นๆ ด้วยค่ะ ที่สำคัญไม่เป็นโรคสุดฮิตอย่างกระเพาะอาหารด้วยนะคะ

* กินให้ถูกที่...บนโต๊ะอาหาร การเริ่มต้นการกินและจบการกินบนโต๊ะอาหารเป็นการสร้างสุขนิสัยที่ดีในเรื่อง ระเบียบวินัยของลูกและครอบครัวได้เช่นกัน แม้ว่าคุณแม่จะติดรายการทางโทรทัศน์โปรดขนาดไหน การยกข้าวไปกินหน้าจอโทรทัศน์ไม่ควรทำเป็นตัวอย่างเด็ดขาด นอกจากจะเลอะเทอะแล้วยังเพิ่มนิสัยที่เป็นคนไม่จดจ่อกับสิ่งที่ทำได้ด้วยค่ะ

* ข้าวอยู่ในปาก ไม่พูดนะ การห้ามแบบไม่มีเหตุผลประกอบ เจ้าหนูไม่เข้าใจถึงความหวังดีหรอก มีก็แต่คำถามว่าทำไม และความไม่เข้าใจตามมา

“เราจะไม่พูดคุยขณะมีอาหารอยู่ในปากนะคะ เพราะจะทำให้หนูสำลักอาหารจนติดอยู่ที่ลำคอได้ค่ะ”

ไม่ต้องรีบร้อนหวังผลสำหรับการหล่อหลอมเรื่องราวดีๆ เหล่านี้หรอกนะคะ หากปฏิบัติจนเป็นปกติสิ่งเหล่านี้จะซึมซับไปสู่เจ้าหนูจนเป็นนิสัยค่ะ

อาหารดี...มีประโยชน์

รู้เคล็ดลับสร้างเจ้าหนูมีสุขนิสัยที่ดีในการกินกันแล้ว เขยิบ...เขยิบต่อไปเรื่องข้าวปลาอาหารในจานกันบ้างค่ะ ด้วยบทเรียนของอาหารดีมีประโยชน์ เพราะคุณพ่อคุณแม่บางคนอาจจะเจอกับปัญหาเจ้าหนูจอมเขี่ย ที่คอยเขี่ยผักและสิ่งที่ไม่โปรดออกจากจาน หรือหวั่นใจกับขนมขบเคี้ยวและเครื่องดื่มน้ำอัดลมที่ล่อตาล่อใจให้เจ้าหนู ชวนลิ้มลองเป็นอย่างมาก ไม่ต้องกังวลค่ะ เรื่องเหล่านี้จะหมดไปเพราะวัยอนุบาล 2 คือโอกาสทองในการปลูกฝังเรื่องราวของอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย

* เริ่มต้นจากมื้ออาหารที่คุณแม่สรรหามา ไม่ว่าจะปรุงเองหรือซื้อมาที่สำคัญต้องสะอาด ผ่านการปรุงอย่างถูกสุขลักษณะ มีแต่อาหารที่เป็นประโยชน์ทั้งนั้นเลย แนะนำเมนูในแต่ละวันถ้าหากมีเวลาว่างพอ เช่น "เมนูวันนี้ประกอบไปด้วยแกงจืดตำลึง คุณตำลึงมีวิตามินเอสูงนะลูก ช่วยบำรุงสายตาเป็นประโยชน์ต่อร่างกายนะลูก และไข่เจียวหมูสับ คุณไข่ขาวและไข่แดงมีโปรตีนสูงช่วยให้หนูมีพลังงานในการวิ่งเล่นพรุ่งนี้ไง คะ”

* ไม่เฉพาะมื้ออาหารที่บ้านเท่านั้นที่มีเรื่องราวการบอกเล่าที่สนุก เมื่อออกนอกสถานที่ให้เขาได้มีโอกาสตัดสินใจในการเลือกอาหารด้วยตนเองดูบ้าง เช่นไปตามห้างสรรพสินค้าตั้งคำถามว่าหนูอยากกินอะไรจ๊ะ เพราะอะไร พอเป็นพิธีบ้างเป็นครั้งคราวนะคะ มากไปเดี๋ยวจะกลายเป็นเรื่องน่าเบื่อเอาค่ะ

* สร้างสิ่งแวดล้อมรอบตัวด้วยอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ในตู้เย็นคลังอาหารสด หรือในตู้กับข้าวของบ้านก็ควรบรรจุแต่อาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เปิดครัวเพื่อพูดคุยเรื่องเหล่านี้บ้าง เพราะเป็นการเรียนรู้จากของจริง เพื่อการรับรู้และมองเห็นแต่เรื่องที่ดี อาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายค่ะ

ยังมีเรื่องราวบนโต๊ะอาหารให้เจ้าหนูได้เรียนรู้อีกมามาย ถ้าคุณใส่ใจกับแง่มุมและวิธีการเรียนรู้ให้สนุกและไม่เครียด ก็จะทำให้คลังความรู้ในตัวเจ้าหนู อ. 2 เพิ่มพูนมากขึ้นค่ะ