จริงใจจะบอก เทียบปริมาณน้ำตาลดัชมิลล์คิดส์ 6 รสว่าลูกควรดื่มแบบไหนถึงไม่ติดหวาน

ไม่ต้องอ้อมค้อมค่ะ ตรงๆ ตามชื่อเรื่องเลยว่า วันนี้รักลูกตั้งใจเปิดปริมาณน้ำตาลจากผลิตภัณฑ์นมเปรี้ยวดัชมิลล์คิดส์ 6 รส ให้คุณแม่ได้เห็นกันจะๆ ไปเลยว่า แท้ที่จริงแล้วนมเปรี้ยวสำหรับเด็กมีน้ำตาลในปริมาณที่เหมาะสมกับลูกในการดื่มแต่ละวันหรือไม่ แต่ก่อนอื่นเรามารู้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับปริมาณน้ำตาลที่ลูกวัยเรียน ลูกวัยคิดส์ควรกินในแต่ละวันกันก่อนค่ะ

เด็กวัยคิดส์ควรกินน้ำตาลวันละเท่าไหร่ถึงจะดีและไม่ติดหวาน
องค์การอนามัยโลกให้คำแนะนำการบริโภคน้ำตาลสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ว่า ไม่ควรบริโภคนํ้าตาลเกินกว่าร้อยละ 10 ของพลังงานที่ควรได้รับในแต่ละวัน โดยน้ำตาลในที่นี้หมายถึงน้ำตาลอิสระ (Free sugar) ซึ่งครอบคลุมถึง กลูโคส ฟรุกโตส ซูโครส ที่ถูกเติมในอาหารและเครื่องดื่ม รวมไปถึงน้ำตาลที่มีตามธรรมชาติในน้ำผึ้ง ไซรัป น้ำผลไม้ และน้ำผลไม้เข้มข้น แต่ไม่นับรวมถึงน้ำตาลในธรรมชาติ เช่น ผลไม้ ผัก และนม ซึ่งคำแนะนำทั่วไปคือ เด็กวัยเรียนไม่ควรบริโภคน้ำตาลเกินวันละ 4 ช้อนชา หรือ 16 กรัม หรือ 60 กิโลแคลอรี่ (น้ำตาล 1 ช้อนชา = 4 กรัม = 15 กิโลแคลอรี่)

เด็กวัย 3-6 ปี ควรได้รับพลังงานจากอาหารเฉลี่ยวันละ 1,500 กิโลแคลอรี่ โดยควรได้รับพลังงานจากน้ำตาลไม่เกินร้อยละ 10 จากข้อมูลข้างต้น เราคำนวณเบื้องต้นได้ดังนี้ค่ะ

• เด็กวัย 3-6 ปี ควรได้รับพลังงานจากน้ำตาลวันละไม่เกิน 150 กิโลแคลอรี่ ซึ่งเป็นน้ำตาลที่ได้จากข้าว แป้ง ผลไม้ หรือผลิตภัณฑ์ให้ความหวานอื่นๆ รวมกัน
• แม้ว่าเด็กควรได้รับพลังงานจากน้ำตาล 150 กิโลแคลอรี่ต่อวัน แต่เพื่อป้องกันการติดหวานและอันตรายจากน้ำตาลที่มากเกินไป จึงไม่ควรเกิน 60 กิโลแคลอรี่ หรือ 4 ช้อนชา (น้ำตาล 1 ช้อนชา = 4 กรัม = 15 กิโลแคลอรี่)

เอาล่ะค่ะ มาถึงช่วงเด็ดในการเปิดปริมาณน้ำตาลในนมเปรี้ยวดัชมิลล์คิดส์ทั้ง 6 รสว่า แต่ละรสมีปริมาณน้ำตาลเท่าไหร่ เทียบได้กับความหวานของอาหารอะไร เริ่ม!!! เมื่อเทียบกับปริมาณน้ำตาลที่เด็กๆ ควรได้รับในแต่ละวัน นมเปรี้ยวดัชมิลล์คิดส์ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดื่มได้อย่างเหมาะสมนะคะ และลูกยังได้รับแคลเซียมจากนมด้วย โดยเราแนะนำว่าคุณแม่สามารถพกติดกระเป๋าไว้ให้ลูกดื่มได้วันละ 1 กล่องกำลังดี เช่น พกไปโรงเรียน หรือ วันที่ลูกต้องไปเรียนพิเศษ จะช่วยเพิ่มพลังงานในระหว่างวันให้ลูกสดชื่นได้ค่ะ
น้ำตาลไม่ใช่แค่ให้ความหวาน หรือทำให้ลูกกินง่ายเท่านั้นค่ะ เพราะน้ำตาลก็มีประโยชน์ เช่น

• ช่วยกระตุ้นการทำงานของเนื้อเยื้อภายในร่างกาย อวัยวะและเนื้อเยื้อต่างๆ ในร่างกาย
• ช่วยให้สมองหลั่งเอนโดฟินออกมา ช่วยให้ร่างกายกระชุ่มกระชวย ลดความเครียดได้เป็นอย่างดี
• สมองต้องการน้ำตาลในรูปแบบกลูโคสประมาณวันละ 110-130 กรัม เพื่อการทำงานที่ดี
• น้ำตาลเป็นหนึ่งในอาหารของเม็ดเลือดแดงและไต หากงดน้ำตาลไปเลยจะทำให้เกิดภาวะร่างกายขาดน้ำตาล ทำให้เม็ดเลือดแดงและไตทำงานผิดปกติ นอกจากนั้นยังอาจทำให้หน้ามืดและเป็นลมได้
   

ที่สำคัญเด็กๆ ควรกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพราะอย่าลืมว่าอาหารอื่นๆ ก็ยังมีน้ำตาลแฝงอยู่ ดังนั้นใน 1 วันลูกก็จะได้รับน้ำตาลและพลังงานจากสารอาหารอื่นๆ อย่างเหมาะสมค่ะ