เด็กวัย 2 ขวบ กำลังเป็นเด็กที่น่ารัก รู้จักทดสอบ ทดลองผิดถูก เด็กวัยนี้กำลังเรียนรู้สิ่งแวดล้อมทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นวัตถุ สิ่งของ บุคคล สถานที่ สิ่งมีชีวิต และคำพูด เป็นช่วงที่เป็นตัวของตัวเองสูงสุด จึงมักจะทำในสิ่งที่ห้ามตลอด ดังนั้นการจะเอาชนะลูก หรือจงใจสอนเกินไปไม่ใช่วิธีจัดการที่ดีแน่นอนค่ะ
เด็กอายุ 2 ปี กำลังเป็นวัยที่อยากจะเป็นตัวของเขาเอง เด็กจึงมักจะทำในสิ่งที่ห้าม ไม่ใช่เพราะเขาดื้อ ไม่เชื่อฟัง หรืออวดดีอย่างผู้ใหญ่หลายท่านเข้าใจ แต่เขากำลังเรียนรู้หลายๆ อย่างในการทดสอบว่า ‘เป็นจริง’ หรือไม่นั้น ไม่ใช่การทดสอบว่าผู้ใหญ่จะจริงจังแค่ไหน แต่เขาทดสอบตัวเขาด้วย ทดสอบความเข้าใจของตน การมองเห็น การสัมผัส เราจึงเห็นเด็กวัยนี้ทำอะไรซ้ำๆ เล่านิทาน ดูรูปภาพก็เป็นเรื่องซ้ำๆ โดยเฉพาะที่เขาชอบ ที่เขาสนใจ บางคนอาจรู้บ้าง ไม่รู้บ้าง แต่บางคนทั้งๆ ที่รู้ก็ตอบให้ผิด เพื่อดูปฏิกิริยาผู้ใหญ่ หรือเพื่อเป็นตัวตนของเขา เราจึงไม่เอาคำเถียงของเขามาเป็นอารมณ์
เราบอกว่าสีส้ม เด็กบอกสีเขียว แทนที่เราจะไปแย้งกัน เราอาจทำมุขขำก็ได้ เช่น '“หนูเห็นเป็นสีเขียวหรือจ๊ะ” แล้วเราก็ทำหน้าพิศวงสงสัย หรือ เฉยเสีย ไม่เถียงกัน เพราะเด็กยังเรียนรู้สีได้อีกหลายเวลา เช่น ต่อมาคุณให้เขารับประทานส้ม ก็ถามเขาว่าเปลือกส้มสีอะไรเอ่ย พอปอกเปลือกไป ข้างในเป็นสีส้มก็บอก “เอ๊ะ! นี่ก็คงสีเขียวมั้ง” เขาก็จะบอก “ไม่ใช่ สีส้ม”
การสอนเด็กวัยนี้ต้องมีวิธีที่ดีต่อกัน ไม่เอาชนะกัน ไม่สอนกันเป็นพิธีการจริงจังเกินไป และก็ไม่ใช่ว่า เขาโมโหแล้ว เราก็ยอมเรียกผิดๆ ตามเขา ถ้าเขางอแง มีอารมณ์ก็เบนความสนใจไปทางอื่น ดีกว่ามาเอาชนะให้เป็นอารมณ์กัน เพราะเรื่องรู้จักสีเป็นเรื่องเล็กที่เด็กจะเรียนรู้ได้ แต่เรื่องอารมณ์เป็นเรื่องใหญ่ที่เด็กจะใช้ไปเรื่อยๆ ในหลายเรื่อง ถ้าเขารู้ว่า เขาอาละวาด แผลงฤทธิ์แล้วคุณแม่ยอมทำตาม
เราจึงต้องไม่ทำให้เกิดอารมณ์ หรือเมื่อเกิดอารมณ์แล้วก็ไม่ตามใจหรือเอาใจกันผิดๆ เขายังเรียนรู้ไปอีกได้เรื่อยๆ วันนี้ยังไม่รับ วันหน้าค่อยบอกกันใหม่ สอนกันใหม่ ลองให้เขาพูด บอกตามสิ่งที่พบเห็น และปฏิบัติกันอยู่ในชีวิตประจำวัน ซึ่งยังมีอีกมากมายค่ะ