หลายคนรู้จักโรคนี้จากเพจในเฟซบุ๊ก
‘แม่อ้อมและน้องลาเต้ กับโรค Anti-NMDA receptor encephalitis’ โดยปัจจุบันน้องลาเต้ลูกสาวของแม่อ้อมต้องเผชิญกับโรค
Anti-NMDA receptor encephalitis หรือภาษาไทยคือ
ภูมิคุ้มกันตัวเองทำลายสารสื่อประสาทในสมอง โดยระบุว่าเดิมทีน้องลาเต้ เองก็เป็นเด็กที่มีพัฒนาการตามปกติทุกขั้นตอน และเริ่มมีอาการของโรคครั้งแรกเมื่อเดือนธ.ค. 2556 ซึ่งจะมีอาการ
1. ความสามารถในการพูด (speech disorder) น้อยลง พูดคำเดียวซ้ำๆ ลากเสียงยาวๆ เหมือนยานคางและที่สุดไม่พูดเลย
2.การเคลื่อนไหวร่างกายที่ผิดธรรมชาติ (movement disorder / disorientation) มือเท้าสะเปะสะปะ ขึ้นลงไม่เป็นจังหวะ บังคับไม่ได้ บิดงอเกร็ง และเดินไม่ได้ ปากขมุบขมิบ ทำท่าเคี้ยวตลอดเวลา
3.ภาวะปัญหาในการนอนหลับ โดยน้องลาเต้ 48 ชั่วโมงนางร้องไห้ตลอดไม่มีนอนเลย ไม่หลับเลยจนในที่สุดต้องให้ยานอนหลับเธอ โดยแม่ต้องสัปหงกเฝ้าเพราะกลัวเธอหยุดหายใจ
4.มีอาการชักบ่อยๆ ตอบไม่ได้ว่าจะชักเมื่อไหร่ ยังไง รู้แต่ว่าอย่าให้ปากเขียวหรือคล้ำเพราะนั่นหมายความว่าขาดอ๊อกซิเจน
5.ระบบ autonomic ในร่างกายรวน ภาวะตัวเย็น เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวเย็น มีไข้ ไข้หายติดๆดับๆ อยู่น่นแหละ
6. ความรู้สึกตัวลดลง ไม่ตอบสนองสิ่งเร้าใดๆ ไม่สนใจรอบข้าง ตาเหม่อลอยไม่โฟกัสใดๆ
ทั้งนี้ โรค "Anti-NMDA receptor encephalitis” เป็นโรคที่พบได้ยาก และความรู้ทางการแพทย์ในปัจจุบันยังมีไม่เพียงพอที่จะรักษาให้หายได้ น้องลาเต้เป็นเคสที่ 6 ของภาคเหนือในประเทศไทย
ขอบคุณข่าวและข้อมูลประกอบ
หนังสือพิมพ์ข่าวสด