ลูกชอบดรามา เอะอะ! ร้องไห้เป็นประจำ คุณพ่อคุณแม่ต้องลองสังเกตลูกดูนะคะ ว่าลูกเข้าข่ายดราม่าเก่งไหม เช่น ชอบบีบน้ำตาเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการหรือไม่ ชอบร้องไห้เพื่ออยากให้คนสนใจบ่อยแค่ไหน หรือโวยวายไม่ฟังเหตุผลของพ่อกับแม่และคนอื่น ๆ เลย แบบนี้มีวิธีจัดการเด็กดราม่าอย่างไร มาดูกันค่ะ
การพูดคุยถามถึงเหตุผลอย่างใจเย็น ไม่มีเด็กคนไหนไม่ชอบหรอกนะคะ ให้คุณพ่อคุณแม่เข้าไปหาลูกและบอกให้ลูกใจเย็น ๆ เช่น "ใจเย็น ๆ นะคะ หายใจลึก ๆ ก่อน แม่รู้ว่าลูกโกรธ ลูกกำลังเสียใจอยู่ค่ะ" เมื่อลูกใจเย็นลงแล้ว ค่อยพูดคุยกัน ถามหาเหตุผลของลูก ถามความต้องการของลูก ให้เข้าใจลูกแต่ไม่ตามใจเด็ดขาด และระวังอย่าใช้อารมณ์ เพราะลูกจะยิ่งดื้อ ยิ่งต่อต้าน
การที่ลูกแสดงความต้องการบางอย่าง ควรฝึกให้ลูกรู้จักการรอคอย เช่น ต้องต่อคิวซื้ออาหารทุกครั้ง ห้ามแซงคิวคนอื่น หรือ รอให้แม่เล่นด้วย แม่ควรจะให้รอด้วยการบอกว่า " แม่ทำงานอยู่นะคะ เดี๋ยวแม่เล่นด้วยอีก 5 นาที ให้เข็มยาวชี้เลข 5 ก่อนค่ะ" เป็นการบอกจุดสิ้นสุดให้ลูกรู้ เพราะการรีบตอบสนองลูกเร็วเกินไป จะยิ่งทำให้ลูกใจร้อน รอไม่เป็น และยิ่งเอาแต่ใจมากขึ้นด้วย
บางครั้งพ่อแม่ก็ต้องเด็ดขาดกับบางเรื่อง ไม่อย่างนั้นลูกจะต่อรอง ไม่จริงจังกับกฎในอนาคตได้ เช่น ตกลงกันว่าออกไปกินข้าวนอกบ้านลูกจะนั่งกินข้าวที่โต๊ะ ไม่เล่นเสียงดัง หากไม่เชื่อฟังกลับทันที และเมื่อไปถึงร้านหากลูกเสียงดัง ไม่ฟังพ่อแม่ ก็ต้องพากลับทันที ไม่มีต่อรอง เพื่อให้ลูกเรียนรู้กฎว่าต้องทำตาม พ่อแม่พูดคำไหนคำนั้น ลูกจะขาดวินัย ไม่ทำตามกฎกติกาไม่ได้
เวลาเห็นลูกร้องไห้มันช่างทรมานเหลือเกิน จนบางครั้งเราก็เผลอใจอ่อนยอมตามใจลูก แต่การยอมตามใจลูกส่งผลเสียมากกว่าผลดี เพราะลูกจะควบคุมพ่อแม่ได้ รู้ว่าใช้การร้องไห้เป็นเครื่องมือในการเอาชนะพ่อแม่ได้ ฉะนั้น หากลูกร้องไห้ก็เขาไปพูดคุยบอกให้ลูกใจเย็น ๆ ก่อน แล้วถามเหตุผลของลูก และบอกเหตุผลของเราไป หรือ เบี่ยงเบนความสนใจของลูกไปหาอย่างอื่นก่อน แล้วค่อยพูดคุยทีหลัง เพื่อให้ลูกเลิกดราม่าและมีเหตุผลมากขึ้น