ถ้าเราจะตั้งคำถามเด็กๆ ว่า "หนูรักใครมากที่สุดในโลก" แล้วถามกับเด็กกลุ่มต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเด็กที่มาจากครอบครัวอันอบอุ่น หรือครอบครัวที่มีความจำเป็นต้องแยกกันอยู่ หรือจะเป็นเด็กที่มาจากครอบครัวที่ทอดทิ้งทำร้ายเฆี่ยนตีเขา
เด็กๆ เหล่านี้เกือบจะทั้งหมดจะตอบเหมือนๆ กันว่า "หนูรักพ่อรักแม่มากที่สุดในโลก"
ปราชญ์ทางจิตวิทยากล่าวไว้ว่ามนุษย์ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ ไม่ว่าหญิงหรือชายต่างต้องการความรัก อยากให้มีใครๆ มารักเขา และขณะเดียวกันเขาเหล่านั้นก็มีความต้องการที่จะรักใครๆ คนอื่นด้วย หรืออย่างน้อยก็ขอให้มีใครสักคนหนึ่งมารักเขา และก็มีใครสักคนหนึ่งที่เขาสามารถแสดงความรักได้
ดังนั้นเด็กๆ ก็เหมือนกันที่มิใช่เพียงแต่ต้องการความรักเท่านั้น แต่เด็กยังต้องการที่จะให้ความรักจากภายในใจของเขารวมทั้งอยากแสดงความรักให้กับใครซักคนหนึ่งด้วยเช่นกันและสิ่งที่วิเศษที่สุดสำหรับเด็กที่จะได้รับความรักความอบอุ่น รวมทั้งเด็กเองก็สามารถที่จะแสดงความรักได้ สิ่งนั้นสถานที่นั้นก็คือบ้านหรือครอบครัว ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นวิมานของเด็ก
ในเด็กที่โชคดีมีบ้านอันอบอุ่น พร้อมพ่อพร้อมแม่ มีพ่อมีแม่ที่เข้าใจลูก รักลูก ดูแลเอาใจใส่ลูกอย่างต่อเนื่อง อย่างคงเส้นคงวา และตัวพ่อแม่เองต่างก็มีพันธสัญญาทางใจต่อกันดี มีความรักใคร่ มีความซื่อสัตย์ต่อกันเป็นอย่างดี เด็กๆ ก็จะมีความสุขเป็นที่สุด มีพัฒนาการทางด้านจิตใจและสังคมอย่างสมบูรณ์ และมีอนาคตที่สดใสอย่างแน่นอน
แต่ในความเป็นจริงแล้ว สังคมปัจจุบันดูจะไม่ค่อยมีความเมตตาปราณีกับเด็กเท่าใดนัก แม้ว่าเด็กจะอยู่ในครอบครัวที่พร้อมพ่อพร้อมแม่ แต่เด็กจำนวนมากโดยเฉพาะสังคมในเมืองหลวง เด็กจะรู้สึกว้าเหว่ ไม่มีใครเล่นด้วย ไม่รู้จะเล่นกับใคร ไม่รู้จะทำอะไร แล้วก็ไม่มีอะไรจะให้เล่น ไม่มีอะไรจะให้ทำ ตกอยู่ในสภาพคล้ายๆ เป็นเด็กกำพร้า ทั้งที่ไม่ได้กำพร้าหรืออาจจะเรียกว่ากำพร้าเทียมก็คงจะได้
ทั้งนี้เป็นเพราะพ่อแม่มีเวลาให้กับลูกน้อย ใกล้ชิดน้อย ถ่ายทอดอารมณ์ของความรู้ให้กับลูกน้อยไปจริงๆ ทุกคนที่เป็นพ่อแม่รู้ตัวดีว่าตนเองมีความรักลูกห่วงลูกมาก แต่ที่ขาดไปก็คือไม่ได้ถ่ายทอดความรู้สึกของความรักในรูปแบบของความรู้สึกที่ดี และในบางครั้งกลับถ่ายทอดความรักออกไปในรูปแบบของความรู้สึกโกรธเคือง ซึ่งอาจจะเป็นเพราะความเหนื่อยอ่อนของพ่อแม่ก็เป็นได้
นั่นเป็นภาพหนึ่งของสังคมปัจจุบันที่แม้จะเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์มีพ่อมีแม่มีลูกที่เป็นแต่เพียงความสมบูรณ์ของรูปแบบของครอบครัว แต่จริงๆ แล้วขาดความสมบูรณ์ของเนื้อหาและกระบวนการเชิงคุณภาพในครอบครัว
ยังมีอีกภาพหนึ่งที่ผุดเกิดขึ้นในสังคมอยู่ตลอดเวลาและสร้างความทุกข์ใจให้กับเด็กเป็นอย่างมากก็คือ ภาพของครอบครัวที่ขาดพ่อหรือขาดแม่ หรือขาดทั้งพ่อและแม่ ซึ่งจะเป็นด้วยสาเหตุจากเป็นเพราะคนใดคนหนึ่งต้องทำงานอยู่ต่างจังหวัด แยกกันอยู่เพราะปัญหาครอบครัว หย่าร้าง หรือต้องล้มหายตายจากกันไป
สภาวะอย่างนี้ทำให้เด็กขาดที่พึ่ง เด็กจำเป็นต้องอยู่กับใครสักคนหนึ่ง อาจจะเป็นพ่อ อาจจะเป็นแม่ หรือผู้อุปการะ สภาพสิ่งแวดล้อมที่ดูแลเด็กจึงขาดคุณลักษณะที่สมบูรณ์ของคำว่า "ครอบครัว" ซึ่งในด้านจิตวิทยาพัฒนาการเด็กนั้น ความสมบูรณ์ของครอบครัวจะประกอบไปด้วยพ่อแม่ลูกและสมาชิกอื่นๆ
ในกรณีที่เด็กต้องเติบโตมาในครอบครัวที่ขาดบุคคลสำคัญไปจะเป็นเพราะขาดพ่อหรือขาดแม่ก็ตาม ผู้ที่ดูแลเด็กจำเป็นต้องทำหน้าที่และมีบทบาทเป็นทั้งพ่อและแม่ในเวลาเดียวกันให้ได้ เพราะในเชิงพัฒนาการของแนวคิด จิตใจ และบุคลิกภาพของเด็กนั้น เด็กต้องการปัจจัยด้านต่างๆ จากทั้งพ่อและแม่ในเวลาเดียวกันเพื่อให้พัฒนาการดำเนินไปได้สมบูรณ์อย่างที่สุด
ในจิตวิทยาพื้นฐานพ่อและแม่ให้อะไรกับลูกบ้าง
ในการเลี้ยงดูลูกแม่เป็นคนให้ความรัก ให้ความอบอุ่นที่แฝงไปด้วยความเมตตาปราณี ให้ความอ่อนโยน ให้รายละเอียดของชีวิต ให้ความรู้สึกทางด้านจิตใจอันละเอียดอ่อนอีกหลายๆ อย่าง
ส่วนพ่อจะให้ความหนักแน่น เป็นผู้ตีกรอบ ให้ความรู้สึกที่ปลอดภัย ให้การตัดสินใจ ให้ความเป็นผู้นำ ให้ความเข้มแข็งและความแกร่ง ให้การประคับประคองที่มั่นใจและมั่นคง
ตามปกติครอบครัวที่ผาสุก พ่อแม่ สองชีวิต สองจิตใจ สองความรู้สึก จะผสมผสานให้กับเด็กย่างกลมกลืน เด็กที่จะเติบโตเป็นบุคคลก็มีความสมบูรณ์แบบด้วย ทั้งสองลักษณะประมวลเข้าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของบุคลิกภาพของเขา
ตรงนี้ผมไม่ได้หมายความว่า เมื่อพ่อหรือแม่ที่จำเป็นต้องเลี้ยงดูลูกตามลำพังแล้วจำเป็นต้องแต่งงานใหม่ ลูกจึงจะได้รับการเลี้ยงดูที่สมบูรณ์ แต่ผมหมายความว่าถ้าจะเลี้ยงลูกตามลำพังก็ขอให้เสริมบทบาทและหน้าที่ๆ เป็นทั้งพ่อและแม่ผสมไปด้วยกัน
ผมได้มีโอกาสสัมภาษณ์นักเรียนหญิงคนหนึ่งเพื่อคัดเลือกเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย ผมพบว่าเธอเป็นวัยรุ่นที่น่ารักมาก สุภาพ กิริยามารยาทเหมาะสม เฉลียวฉลาดในการตอบคำถาม มีความสดชื่นแจ่มใส มีความมั่นใจตนเอง มีความภูมิใจและมีความรักคุณแม่ของเธอมาก เป็นเด็กที่ช่วยตัวเองและมีความรับผิดชอบดี ดูเป็นเด็กที่สมบูรณ์แบบจริงๆ ผลจากการสัมภาษณ์ในใจของผมตอบทันทีว่าไม่เพียงแต่จะรับเด็กคนนี้ให้ผ่านการสัมภาษณ์เท่านั้น แต่ยังคิดว่าเธอคงจบไปเป็นบัณฑิตที่ดียิ่งและทำให้ผมอยากรู้ว่าเธอเป็นลูกเต้าเหล่าใคร
จากการสัมภาษณ์พบว่าเธออยู่กับคุณแม่ของเธอตามลำพังแม่ลูก เพราะคุณพ่อเสียชีวิตจากอุบัติเหตุตั้งแต่เธอยังเล็กๆ อยู่ ครอบครัวของเธอไม่ได้เป็นครอบครัวที่ร่ำรวย ครอบครัวของเธอไม่ใช่เป็นครอบครัวของผู้ที่จบการศึกษาสูงๆ จากรั้วมหาวิทยาลัย
เธอเล่าให้ฟังว่า แม่ของเธอให้ความรักความเอาใจใส่ดูแล ให้ความสนิทสนม ให้ความอบอุ่น ให้เวลา ให้ความอ่อนโยน ด้วยความที่คุณแม่ของเธอเป็นคนที่มีจิตใจแข็งแกร่ง แม่จึงให้ความรู้สึกที่หนักแน่น ช่วยลูกได้ทุกสถานการณ์ ให้ความมั่นใจกับลูกได้ทุกโอกาสและสามารถปกป้องลูกได้
เธอบอกว่าเธอสนิทกับแม่มาก มีความรู้สึกว่าแม่เป็นทั้งแม่และพ่อ เพราะแม่บอกกับลูกว่าแม่จะไม่มีครอบครัวใหม่ แม่มั่นใจว่าแม่เลี้ยงลูกได้ นอกจากนี้แม่ของเธอยังมีบทบาทในความเป็นเพื่อนกับลูกเป็นอย่างดีด้วย
จากตัวอย่างนี้เป็นเพียงหนึ่งในตัวอย่างที่งดงามจากอีกหลายตัวอย่างที่ไม่อาจเขียนบรรยายในที่นี้ได้ว่า แม้จะเป็นเพียงพ่อหรือแม่ที่ดูแลลูก ถ้าสามารถปฏิบัติและมีบทบาทเป็นทั้งพ่อและแม่ก็ดูแลลูกได้ ซึ่งอาจจะดูได้ดีกว่าในครอบครัวที่พร้อมพ่อพร้อมแม่แต่ขาดความสมบูรณ์ของคำว่าครอบครัว