อุ่นอาหารจากไมโครเวฟยังไง ให้ได้คุณค่า
ในวันหนึ่งๆ คุณใช้เตาไมโครเวฟบ่อยแค่ไหนคะ?
ใช่ว่าจะมาจับผิดอะไรหรอกค่ะ แต่เคยสังเกตดูกันบ้างหรือไม่ว่าไลฟ์สไตล์ชีวิตของพวกเรากำลังเปลี่ยนไป โดยเฉพาะเมื่อมีเครื่องมือที่ทุ่นแรงอย่างเตาไมโครเวฟเข้าไปวางอยู่ในห้องครัวกันแล้ว การทำอาหารก็เป็นเรื่องง่ายในทันที แต่ว่าเตาไมโครเวฟนั้นดีจริงหรือ สงสัยกันมั้ยคะ
เตาไมโครเวฟใช้อุ่นอาหารเท่านั้น?
หน้าที่หลักของ
เตาไมโครเวฟก็คือการอุ่นอาหารค่ะ เนื่องจากจะใช้เวลาน้อยและรวดเร็ว แม้ว่าเราสามารถปรุงอาหารกับ
เตาไมโครเวฟได้ แต่มักไม่ค่อยเหมาะกับการปรุงอาหารที่มีปริมาณมากๆ เนื่องจากขนาดของเตาไม่ได้เอื้อต่อการปรุง หรือหากจะปรุงอาหารด้วย
เตาไมโครเวฟก็ควรจะเป็นอาหารง่ายๆ ที่ทำในปริมาณน้อย เช่น ปลานึ่ง 1 ชิ้น ที่กินกัน 1-2 คนเท่านั้น
นอกจากนี้แล้ว
เตาไมโครเวฟยังช่วยทุ่นระยะเวลาในการปรุงอาหารให้สั้นลงอีกด้วย โดยเฉพาะเมื่อเราต้องละลายน้ำแข็งที่เกาะมากับอาหาร เช่น ไก่หรือปลาแช่แข็ง ละลายด้วยไฟปานกลาง 200 วัตต์ ประมาณ 2-4 นาที จากนั้นให้รีบปรุงสุกทันที เพื่อรักษาคุณค่าทางโภชนาและป้องกันแบคทีเรียเจริญเติบโต เพราะถ้าหากเรารอให้น้ำแข็งละลายด้วยตัวเองก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง ซึ่งเป็นระยะเวลานานพอที่แบคทีเรียจะเติบโตได้ ส่งผลให้อาหารของเราไม่สดไปเสียแล้ว
คุณพ่อคุณแม่ที่ชอบใช้ไมโครเวฟฆ่าเชื้อโรคหรือทำความสะอาดผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ของลูก ขอบอกว่าไม่เหมาะเป็นอย่างยิ่ง เพราะการฆ่าเชื้อโรคนั้น ต้องใช้เวลานานพอสมควรถึงจะทำให้เชื้อโรคตายได้ ดังนั้นหากใช้นานๆ ไป ไมโครเวฟอาจจะสึกหรอหรือเสื่อมสภาพเร็วได้ค่ะ
ไมโครเวฟ อุ่นอย่างไรจึงจะดี
เพื่อให้อาหารที่เรานำเข้า
เตาไมโครเวฟมีประโยชน์สูงสุด อีกทั้งเพื่อความปลอดภัยของคนกิน เมื่อต้อง
อุ่นอาหารด้วยเตาไมโครเวฟก็ไม่ควรละเลยสิ่งต่างๆ ดังต่อไปนี้
ใช้เวลาน้อยๆ เพื่อให้วิตามินคงอยู่ โดยเฉพาะอาหารเมนูผักต่างๆ เนื่องจากผักบางชนิดสามารถทำให้สุกได้เร็ว เช่น ผักกาดขาวนึ่ง หากเราใช้เวลานานไปจะทำให้วิตามินนั้นสูญเสียไปได้ และน้ำที่อยู่ในผักก็จะหายไป
ทดสอบก่อนกิน เนื่องจากหลักการของ
เตาไมโครเวฟคือการใช้น้ำเป็นตัวเหนี่ยวนำคลื่น เพราะโมเลกุลจะถูกแทรกด้วย
คลื่นไมโครเวฟ จึงทำให้อาหารสุกได้เร็ว เพราะฉะนั้นเราจึงไม่อาจทราบได้ว่าอาหารที่อุ่นในเตาไมโครเวฟนั้นร้อนแค่ไหน หรือสุกทั่วถึงหรือยัง เช่น
การอุ่นอาหารให้ลูก ควรจะทดสอบเสียก่อนว่าอาหารที่อุ่นมานั้นมีความร้อนแค่ไหน เพราะหากพลาดพลั้งให้ลูกกินเข้าไปทั้งที่ยังร้อนๆ อยู่ ก็คงจะไม่ดีแน่
อาหารชิ้นเล็กๆ ขนาดพอดี ส่วนในการปรุงอาหาร หากต้องการให้สุกทั่วถึงกัน ก็ควรจะเป็นอาหารชิ้นเล็กๆ ที่มีขนาดใกล้เคียงกัน เช่น การแล่เนื้อสัตว์ หรือการใส่ภาชนะก็ไม่ควรมีขนาดใหญ่เกินไป
อุ่นอาหารต้องมีฝาครอบ เมื่อเราต้อง
อุ่นอาหารในไม่โครเวฟ ภาชนะที่ใช้อุ่นต้องมีฝาครอบด้วยค่ะ เพื่อป้องกันไม่ให้อาหารแตกกระจายเลอะเทอะ โดยเฉพาะผนังด้านบนของ
เตาไมโครเวฟที่มักจะถูกมองข้ามไป ซึ่งหากสะสมคราบไว้นานนอกจากจะสกปรกแล้ว ยังจะทำให้
เตาไมโครเวฟเป็นสนิมได้ ซึ่งอันตรายที่จะตามมาก็คือการรั่วไหลของรังสีนั้นเอง
เวลาและความร้อนที่เหมาะสม ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าเราจะใช้ระยะเวลานานเท่าใดในการประกอบอาหาร เช่น การนึ่งฟักทองด้วย
เตาไมโครเวฟ ก่อนจะใส่ฟักทองเข้าไป ควรพรมน้ำให้ทั่วเสียก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้เอาหารแห้งเกินไป หรือไหม้ง่ายนั่นเอง และเราต้องรู้ว่าอาหารที่ทำนั้นใช้ความร้อนเท่าไหร่ ความแรงของไฟที่ใช้กับระยะเวลาเหมาะสมกับอาหารหรือไม่
ภาชนะที่เลือกใช้ ควรเลือกแบบที่เหมาะสมกับการใช้งานค่ะ ซึ่งควรจะเป็น แก้ว กระเบื้อง และพลาสติกที่ผลิตขึ้นมาเพื่อใช้กับ
เตาไมโครเวฟเท่านั้น โดยเฉพาะการใช้แก้วถือว่ามีความปลอดภัยสูงที่สุด เนื่องจากไม่มีการเคลือบสี และสามารถทนความร้อนได้สูง
ขณะที่จานกระเบื้องบางครั้งก็อาจมีการเคลือบสีที่ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งสีหรือสารเคลือบเหล่านั้นอาจจะละลายเข้าไปในอาหารได้
เตาไมโครเวฟจะทำงานได้ดีมีประสิทธิภาพก็ต่อเมื่อเราดูแลรักษาและระมัดระวังในการใช้งานเป็นอย่างดี โดยเฉพาะในการทำความสะอาดต้องเช็ดล้างให้ทั่วถึงและควรใช้ฟองน้ำเท่านั้นค่ะ และไม่ควรปล่อย
เตาไมโครเวฟไว้เปล่าๆ หรือทำงานไปโดยที่ข้างในไม่มีอาหารอยู่ เพราะ
คลื่นไมโครเวฟที่ปล่อยออกมาเมื่อไม่ได้สัมผัสอาหารก็จะวิ่งชนผนังเครื่องอย่างรวดเร็ว ผิดหลักการใช้งาน ทำให้
เตาไมโครเวฟพังเร็วนั่นเอง