คุณแม่หลายคนอาจยังไม่คุ้นเคยกับโรคหูชั้นกลางอักเสบใน เด็กเท่าไหร่ แถมยังคิดว่าถ้าไม่ทำให้น้ำเข้าหูลูกก็คงไม่เป็นไร คิดผิดแล้วนะคะ เพราะจริงๆ แล้วโรคนี้เกิดขึ้นจากอาการเจ็บป่วยเล็กๆ น้อยที่บางครั้งคุณพ่อคุณแม่ก็มองข้ามนั่นเองค่ะ
อาการโรคหูชั้นกลางอักเสบ
ลูกจะมีอาการเหมือนไข้หวัดธรรมดาจนคุณแม่อาจจะจับสังเกตไม่ออกเลยทีเดียว แต่มีอันตรายกว่ามาก โรคหูชั้นกลางอักเสบนั้นเป็นโรคที่พบบ่อยในเด็กเล็ก ซึ่งมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อ แบคทีเรียนิวโมคอคคัสและเชื้อเอ็นทีเอชไอ เชื้อร้าย 2 ตัวนี้พบได้ในลำคอหรือโพรงจมูกของเด็กๆ หากเด็กได้รับเชื้อจนกระทั่งเชื้อเติบโตและแพร่กระจายก็อาจทำให้เป็นโรคหู ชั้นกลางอักเสบเฉียบพลัน และนำไปสู่โรคแทรกซ้อนอันตรายถึง 2 โรค คือ โรคปอดบวม และ ไอพีดีได้ นับว่าเป็น 2 เชื้อร้ายที่ก่อให้เกิด 3 โรคอันตรายและสร้างความทรมานให้กับเด็กๆได้มากทีเดียว
จากการสำรวจพบว่า 80% ของเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี มีโอกาสเกิดโรคหูชั้นกลางอักเสบอย่าง น้อย 1 ครั้ง
สาเหตุของโรคหูชั้นกลางอักเสบ
โรคนี้อันตรายกว่าที่คิดนะคะ เพราะหากไม่ได้รับการรักษาทันท่วงทีอาจทำให้เด็กมีปัญหาต่อการได้ยิน และเป็นโรคอันตรายที่รุนแรงมากขึ้น เช่น ผีในสมอง เยื่อหุ้มสมองอักเสบ หรือทำให้เด็กมีปัญหาในการเรียนรู้ และพัฒนาการด้านต่างๆ
แต่อย่าเพิ่งตกใจไปค่ะ เพราะโรคนี้ป้องกันได้ถ้าคุณพ่อคุณแม่มีความรู้ความเข้าใจการป้องกันโรคนี้ อย่างถูกวิธี ก่อนอื่นต้องสังเกตอาการของลูกก่อนว่าเขามีอาการอย่างไรบ้าง ซึ่งเมื่อลูกอายุต่ำกว่า 3 ขวบมีอาการของหวัด ควรพาพบแพทย์เพื่อตรวจให้แน่ใจเลยว่าเป็นหวัดธรรมดาหรือเป็นอาการของการได้ รับเชื้อแบคทีเรียจากลำคอหรือโพรงจมูก
การรักษาโรคหูชั้นกลางอักเสบ
คุณหมอจะรักษาตามอาการ ถ้าลูกมีอาการอักเสบและมีไข้คุณหมอจะให้ยาแก้ปวดลดไข้ยารักษาอาการหวัดและ ภูมิแพ้หรือยาปฏิชีวนะตามอาการ หากยังไม่ดีขึ้นและมีหนองในหูชั้นกลางร่วมกับภาวะแทรกซ้อนคุณหมออาจจะต้อง เจาะแก้วหูเพื่อระบายหนองออกและจะนัดมาตรวจเป็นระยะๆ เพื่อเช็คว่าโรคหายขาดและเด็กจะไม่กลับมาเป็นซ้ำอีก ลูกเราอาจจะร้องไห้งอแงในระหว่างที่คุณหมอเจาะแก้วหูแต่คุณแม่ไม่ต้องตกใจไป ค่ะ เพราะเขาอาจจะไม่เคยชินกับการตรวจ หรืออาจมีอาการการเจ็บจี๊ดนิดเดียวเลยตกใจ
หลังจากลูกน้อยถูกเจาะแก้วหูแล้วคือ ระวังอย่าให้น้ำเข้าหูเป็นอันขาดและลดกิจกรรมที่จะไปเพิ่มความดันในช่องหู เช่น การเป่าลูกโป่ง หรือสั่งน้ำมูกแรงๆ ข้อควรรู้สำคัญสำหรับคุณแม่ทั้งหลายก็คือ การที่เด็กทานยาเป็นเวลานานเชื้ออาจมีโอกาสดื้อยาได้ค่ะ
ทางที่ดีควรพาลูกไปปรึกษาแพทย์ถึงวิธี การป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียนิวโมคอคคัสและเชื้อเอ็นทีเอชไอไว้ก่อนเลยจะ ดีกว่าค่ะเพราะปัจจุบันนี้ในบ้านเรารวมทั้งในหลายประเทศมีวัคซีนที่สามารถ ป้องกันได้ทั้งโรคไอพีดีปอดบวมและหูชั้นกลางอักเสบแล้วล่ะค่ะเมื่อทราบอย่าง นี้แล้วคุณแม่ควรปรึกษาแพทย์เพื่อขอรับข้อมูลเพิ่มเติมนะคะ