ช่วงนี้ผู้ปกครองหลายท่าน เริ่มมีความกังวลใจ หลังมีมาตรการผ่านปรนระยะที่ 4 โรงเรียนต่าง ๆ เริ่มเปิดการเรียนการสอนตามปกติแล้วค่ะ
เป็นที่ทราบดีว่า กลุ่มเด็กเล็ก จัดเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ต้องให้ความสำคัญในการป้องกันเป็นพิเศษ แต่ด้วยสรีระของทางเดินหายใจ และกลไกการหายใจที่แตกต่างจากผู้ใหญ่ ผู้ปกครองจึงควรเลือกสวมหน้ากากป้องกันให้เหมาะสมกับช่วงอายุของเด็ก
1.เด็กอายุ < 3 ปี อธิบายง่าย ๆ ว่าทำไมถึงต้องใส่หน้ากากอนามัย และเน้นย้ำว่าจำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัยเพื่อความปลอดภัย เมื่อเด็กเข้าใจก็รู้สึกอุ่นใจที่จะใช้หน้ากาก
2.เด็กอายุ > 3 ปี ควรเน้นอธิบายเรื่องเชื้อโรค เนื่องจากวัยนี้มีความเข้าใจในเรื่องเชื้อโรคมากขึ้นแล้ว
อาจารย์หมอเด็ก โรงพยาบาลรามคำแหง Ramkhamhaeng Hospital ได้ให้คำตอบแล้วค่ะ
" จริง ๆ แล้ว ตัวหน้ากากผ้า หรือหน้ากากทางการแพทย์ที่บ้านเรานิยมใส่กันอยู่เนี่ย มันมีการระบายอากาศได้ดีอยู่แล้ว ไม่เหมือนกับพวก N95 ที่มันปิดสนิท หายใจได้ยาก ซึ่งถ้าแค่ใส่ไปโรงเรียนมันก็ไม่ต้องถึงขั้นนั้นหรอก เพราะมันหายใจยากจริง ขนาดคุณหมอและพยาบาล ยังใส่ทำงานกันเต็มที่ชั่วโมงนึงก็ต้องถอดออกมารับออกซิเจนโดยตรงแล้ว สำหรับน้องๆไม่ต้องเล่นใหญ่เบอร์นั้นก็ได้นะ "
ฉะนั้นแล้ว เด็กส่วนใหญ่ก็คงใส่กันแค่ Surgical Mask หรือหน้ากากผ้าทั่วไปนี่แหละ ซึ่งพวกนี้มีการถ่ายเทอากาศที่ค่อนข้างดีมากอยู่แล้ว ใส่นานๆก็ไม่ค่อยอึดอัดเท่าไหร่ ถึงแม้ที่โรงเรียนทั้งวันนั้นก็ไม่เกิดอันตรายเหมือนที่เค้าเล่าลือกันแต่อย่างใดหรอก ยกเว้นว่าถ้าใส่แล้วไปวิ่งเล่นจนหอบแฮ่กๆ อันนี้ก็น่าห่วงน่อย เพราะอาจทำให้หายใจลำบากกว่าเดิม ยิ่งหน้ากากเปียกเหงื่อ ก็ยิ่งหายใจยาก ดังนั้นถ้าจะให้สบายใจก็ลองให้น้องพกหน้ากากไปโรงเรียนเผื่อเปลี่ยนสัก 2-3 ชิ้นก็ได้
เอาจริงๆการที่น้อง ๆ ไปโรงเรียน สิ่งที่ผู้ปกครองควรเป็นห่วงมากที่สุดไม่ใช่เรื่องหน้ากากหรือเฟซชิลด์อะไรหรอกนะ แต่เป็นเรื่องการสอนให้น้องรู้จักล้างมืออยู่เป็นประจำมากกว่า อันนี้สำคัญมากๆ เวลาหยิบจับอะไรมา ก็ควรล้างมือก่อนจะเอามาโดนหน้าหรือเอาเข้าปาก หรือถ้าพ่อแม่กังวลว่าน้องจะออกไปล้างมือยาก ก็ให้น้องพกแอลกอฮอล์เจลติดตัวเอาไว้ก็ช่วยได้เยอะแล้วจ้า อีกอย่างการที่โรงเรียนมีความเข้มข้นเรื่องสุขอนามัยแบบนี้น่าจะเป็นผลดีกับน้องด้วยซ้ำ เพราะจะลดการเจ็บป่วยจากโรคติดต่อโรคอื่นในโรงเรียนทั้ง มือเท้าปาก ไข้หวัด หรือโรคอื่นๆ ได้เยอะเลยแหละ
ข้อมูลโดย : หมอเด็ก www.facebook.com/MhorDekWhen/