ช่วงนี้กีฬามาแรงจริงๆ ค่ะ คุณพ่อคุณแม่อย่างเราก็อดคิดไม่ได้ว่า ถ้าลูกเราชอบเล่นกีฬา แล้ววันหนึ่งเขาได้เป็นนักกีฬาระดับชาติจะดีแค่ไหนนะ คุณพ่อคุณแม่รู้ไหมว่าการเป็นนักกีฬาไม่ใช่แค่การฝึกฝนอย่างเข้มงวดและจริงจังตอนโตเท่านั้น แต่เราสามารถสร้างพื้นฐานร่างกาย พละกำลัง และทักษะความสามารถในการเคลื่อนไหวร่างกายให้ลูกได้ตั้งแต่เด็ก และก่อนที่เราจะส่งเสริมทักษะด้านพละกำลังและการเคลื่อนไหวของลูก มาเช็คกันก่อนค่ะว่าลูกเรามีทักษะเหล่านี้ดีแค่ไหน เพื่อจะได้ส่งเสริมกันได้ถูกทางค่ะ
หนู / ผม |
ใช่ |
ไม่ใช่ |
ชอบวิ่งเล่นนอกบ้านมากกว่านั่งเล่นเกมในบ้าน |
||
ไม่อยู่นิ่ง นั่งได้ไม่นานต้องลุกเดิน วิ่ง หรือหาอะไรทำตลอดเวลา |
||
หกล้มไม่กลัวเจ็บ ไม่ร้องไห้ และยังอยากเล่นต่อ |
||
ชอบเล่นกีฬาและมีอุปกรณ์กีฬาอยู่ที่บ้านที่ใช้เล่นประจำแทบทุกวัน |
||
ชอบปีนต้นไม้ วิ่งลงบันได โหนบาร์ กระโดดเชือก |
||
มีความอดทน |
||
สามารถวิ่งไปรับลูกบอลที่มีคนโยนมาให้ได้โดนบอลไม่ตกพื้น และตัวเองไม่ลื่นล้ม |
||
ใช้มือหยิบจับของต่างๆ ได้อยู่มือ ของไม่ตกพื้น ไม่ทำของหลุดมือ |
||
ยกของที่มีน้ำหนักมากๆ ได้ |
||
ชอบลงไปนอนกลิ้ง ม้วนตัว ตีลังกา |
ทักษะด้านพละกำลังและการเคลื่อนไหว หรือกีฬา ไม่ใช่แค่การเห็นลูกเข้าเส้นชัยเป็นหนึ่งนะคะ แต่คุณแม่ยังต้องดูภาพรวมด้วยว่า ลูกสามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้ผสานกับการทำงานส่วนต่างๆ ของร่างกายหรือไม่ เช่น วิ่งไปในทิศทางที่ลูกบอลกระดอนไป ยกมือขึ้นรับบอลได้ทันและแม่นยำในตำแหน่งที่ลูกบอลมาถึง รวมถึงการสอนเรื่องน้ำใจนักกีฬาและรู้แพ้รู้ชนะที่เป็นพื้นฐานที่ดีของนักกีฬามืออาชีพด้วยค่ะ ถ้าคุณพ่อคุณแม่พบว่าลูกเราสามารถทำได้มากกว่า 5 ข้อตามตารางสำรวจด้านบน และลูกดูมีความชอบด้านกีฬา เรามาช่วยส่งเสริมกันอีกนิดด้วย 5 วิธีต่อไปนี้ค่ะ
วิธีที่ 1 : ให้ลูกแต่งตัวเอง การให้ลูกใส่เสื้อผ้า ใส่รองเท้า หรือผูกเชือกรองเท้าเอง จะกระตุ้นให้เขาได้ใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กที่มือได้อย่างคล่องแคล่ว และยังช่วยให้สมองทำงานอย่างที่มีลำดับขั้นตอน การทำงานของสายตาที่มองเห็นการเคลื่อนไหวของสิ่งที่ทำ และยังสร้างระเบียบวินัยได้ดีด้วยค่ะ
วิธีที่ 2 : ฝึกให้ลูกถือกระเป๋าเอง คุณแม่ลองให้ลูกถือหรือสะพายกระเป๋าเข้าโรงเรียนเองค่ะ จะช่วยกระตุ้นให้ลูกใช้กำลังของตัวเอง รวมถึงเวลาไปซื้อของด้วยกัน ควรให้ลูกได้ช่วยถือของในน้ำหนักที่เขาสามารถถือได้ หรือให้เขาถือของที่ตัวเองอยากได้และคุณแม่ซื้อให้ ซึ่งจะช่วยทำให้มีความรับผิดชอบและดูแลของของตัวเองด้วยค่ะ
วิธีที่ 3 : ทำให้การออกกำลังกายเป็นกิจกรรมประจำบ้าน เช่น ตอนเย็นจะไปปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ วิ่งออกกำลังกาย โหนบาร์ หรือเตะบอล เพื่อให้ลูกเคยชินกับการออกกำลังกาย ร่างกายมีการยืดหยุ่น และกระตุ้นการทำงานของหัวใจ การหายใจ ที่จะทำลูกสามารถควบคุมร่างกายผ่อนหนักเบาได้เองเมื่อรู้ตัวว่าเหนื่อยและต้องหยุดพักค่ะ
วิธีที่ 4 : ลองให้ลูกช่วยทำงานบ้านเล็กๆ น้อยๆหรือรับผิดชอบงานบ้านที่เกี่ยวกับตัวเอง เช่น กรอกน้ำใส่ขวด เก็บของในห้องนอนตัวเองให้เป็นระเบียบ ช่วยจัดโต๊ะกินข้าว รดน้ำต้นไม้ ฯลฯ งานบ้านแต่ละอย่างจะทำให้ลูกได้ใช้การเคลื่อนไหวผสานกับการทำงานส่วนอื่นๆ ของร่างกายเป็นอย่างดี เช่น ใช้ตามองหาเศษผงบนพื้นแล้วแกว่งแขนใช้ไม้กวาดไปยังบริเวณนั้นเพื่อออกแรงกวาดลากฝุ่นผง
วิธีที่ 5 : สอนวิธีปฐมพยาบาลที่ลูกทำเองได้ เช่น การล้างแผลเมื่อหกล้มมีแผลถลอก การใช้แอลกอลฮอล์เช็ดแผล การร้องขอความช่วยเหลือเมื่อมีอาการเจ็บปวดมากๆ และไม่ควรขยับตัว เพื่อให้ลูกประเมินอาการบาดเจ็บของร่างกายเบื้องต้น นอกจากนี้ยังช่วยสอนเรื่องความอดทนให้ลูกได้ด้วยค่ะ
วันนี้คุณพ่อคุณแม่ลองหันไปสำรวจลูกดูอีกครั้งนะคะว่าเขาแสดงออกว่าชอบกิจกรรมด้านพละกำลังและการเคลื่อนไหวมากน้อยแค่ไหนเพื่อคุณพ่อคุณแม่จะได้ส่งเสริมทักษะด้านพละลำลังและการเคลื่อนไหวให้ถูกต้อง ในอนาคตลูกของเราอาจจะกลายเป็นนักกีฬาทีมชาติ หรือเทรนเนอร์ชื่อดังเลยก็ได้ค่ะ
ติดตามข้อมูลสนับสนุนการเรียนรู้ของลูกได้ที่ : www.facebook.com/OvaltineThailand