สุขภาพช่องปากของหนูก็สำคัญเหมือนกันนะ !

               สุขภาพเหงือกและฟันเป็นอีกเรื่องสำคัญที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ซึ่งโดยปกติแล้วเจ้าตัวน้อยจะมีฟันน้ำนมซี่แรกที่เริ่มขึ้นก่อน คือ ฟันล่างด้านหน้า เมื่อเด็กอายุประมาณ 6 เดือน และซี่อื่น ๆ จะขึ้นตามมาเป็นระยะ จนครบ 20 ซี่ เมื่ออายุ 2 ถึง 22 ปีครึ่ง เด็กวัยนี้ถ้าเป็นโรคในช่องปาก จะมีผลกระทบกระทบกระเทือนต่อระบบโภชนาการของเด็ก เด็กจึงควรได้รับการดูแลสุขภาพช่องปากที่เหมาะสม

ทำไมเราถึงควรดูแลสุขภาพฟันของลูก

1. สุขภาพฟันเป็นส่วนหนึ่งของความงามที่สามารถสร้างความประทับใจได้เมื่อแรกเห็น เชื่อว่าเด็ก ๆ จะมีความมั่นใจและภูมิใจในตนเองไม่น้อยเมื่อได้รับคำชมว่า “หนูฟันสวยจัง"
2. สุขภาพฟันมีผลต่อสุขภาพด้านอื่น สืบเนื่องจากเราต้องใช้ฟันในการบดเคี้ยวอาหารซึ่งเป็นสิ่งที่จะเข้าไปช่วยบำรุงรักษาและเพิ่มพลังงานให้กับร่างกาย ถ้าหากเรามีสุขภาพฟันที่ไม่ดีใช้ฟันบดเคี้ยวอาหารไม่ละเอียด ก็อาจส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินอาหารได้ เป็นผลทำให้สุขภาพร่างกายแย่ไปด้วย
3. ผลกระทบด้านการออกเสียง เพราะมีเด็กจำนวนไม่น้อยที่พูดไม่ชัด เนื่องมาจากปัญหาของสุขภาพฟัน ช่นคำ ส. เสือ หรือ ฟ. ฟัน ถ้าไม่มีฟันหน้า บุคคลนั้นจะไม่สามารถเปล่งเสียง ส. เสือ และ ฟ. ฟันได้ถูกต้อง

สอนลูกให้ดูแลช่องปากได้อย่างไร

1. สอนให้ลูกรู้จักการแปรงฟันที่ถูกวิธี และควรแปรงฟันวันละ 2 ครั้ง
2. รับประทานอาหารครบทั้ง 5 หมู่ เพราะนอกจากจะได้คุณค่าต่อร่างกาย ยังช่วยให้ฟันทำหน้าที่บดเคี้ยวเต็มที่กระตุ้นให้ขากรรไกรและใบหน้าเจริญสมบูรณ์
3. พยายามให้เด็กดื่มนมสดเป็นประจำ (ในกรณีที่เด็ก ๆ สามารถดื่มนมได้ตามปกติโดยไม่มีอาการแพ้) เพราะมีประโยชน์ต่อร่างกาย และเสริมสร้างกระดูกและฟันให้สมบูรณ์
4. หลีกเลี่ยงอาหารประเภทแป้งและน้ำตาลซึ่งจะสร้างกรดแบคทีเรียที่ทำให้เกิดฟันผุ
5. พาเด็กไปพบทันตแพทย์เพื่อรับการตรวจอย่างสม่ำเสมอ