อยากให้ลูกเป็นเด็กดี มีภูมิคุ้มกันทางกายและใจ ทั้งยังมีพัฒนาการด้านต่างๆ อย่างโด่ดเด่น ไม่ใช่เรื่องยากที่พ่อแม่อย่างเราๆ จะทำไม่ได้ค่ะ โดยเฉพาะ 10 วิธีต่อไปนี้จะช่วยส่งเสริมพัฒนาการของลูก และนำไปปรับใช้ในกิจวัตรประจำวันต่างๆ ของเขาได้ค่ะ
สร้างเสียงหัวเราะ ทำให้ลูกรู้สึกปลอดภัย หลังกลับจากทำงาน ลองเล่าเรื่องที่ทำงานหรือเรื่องราวดีๆ ที่พ่อแม่ได้พบระหว่างวันให้ลูกฟัง เพราะการได้ยินเสียงหัวเราะของพ่อแม่จะทำให้ลูกมีความสุขไปด้วย และยังทำให้เขามีความมั่นใจ พร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้ดี นอกจากนี้ บ้านที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะจะทำให้ลูกรู้สึกไว้ใจและปลอดภัยด้วย
พูดคุยบ่อยๆ เสริมทักษะภาษา พูดกับลูกบ่อยๆ จะช่วยพัฒนาทักษะด้านภาษาของลูก เพราะการพูดคุยบ่อยๆ จะทำให้ลูกพยายามใช้ภาษาและมีความเข้าใจภาษามากขึ้น ที่สำคัญอย่าลืมรับฟังและเว้นช่องว่างให้ลูกได้ตอบโต้ด้วยนะคะ
สบตา สร้างความสัมพันธ์ เวลาที่พูดคุยกับลูกควรย่อหรือนั่งให้สายตาอยู่ระดับเดียวกัน สบตากับลูก จะช่วยเพิ่มความสัมพันธ์และทำให้ลูกเข้าใจสิ่งที่พ่อแม่พูดมากขึ้น
จัดตารางชีวิต กระตุ้นให้กระตือรือร้น ควรจัดลำดับกิจวัตรประจำวันให้เป็นตาราง เช่น เวลาตื่น เวลากินอาหาร เวลาออกไปเดินเล่น ซึ่งการจัดลำดับจะทำให้รู้ว่าลูกต้องทำอะไรก่อนหลัง ซึ่งดีต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจ สิ่งสำคัญจะช่วยส่งเสริมให้ลูกมีความกระตือรือร้น และรู้จักรับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองได้ดี
เป็นตัวอย่างการกินอาหารที่ดี กระตุ้นให้ลูกได้กินอาหารที่หลากหลาย โดยพ่อแม่ต้องเป็นตัวอย่าง ทั้งเรื่องการเลือกกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ การเก็บจาน มารยาทบนโต๊ะอาหารที่ดี การทำให้ลูกเห็นเป็นประจำจะทำให้เขาทำตามแบบที่พ่อแม่ทำ
ฝึกมารยาทบนโต๊ะอาหาร สร้างความสุขบนโต๊ะอาหาร ฝึกให้ลูกอยู่บนโต๊ะอาหารให้นานขึ้น พ่อแม่ชวนลูกคุยกันอย่างมีความสุข และหาของเล่นชิ้นเล็กๆ หรือของเล่นชิ้นโปรดให้ลูกเล่น เพื่อให้เขามีความสุขและอยากกินอาหารบนโต๊ะนานขึ้น
ให้ลองเข้าสังคม ทักษะทางสังคมที่เด็กวัย 3-4 ขวบพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ มาจากการให้โอกาสได้ใช้เวลากับคนอื่นบ้าง
เล่นเกมได้ทุกที่ เปิดโอกาสให้ลูกได้เล่นเกมทุกที่แม้เวลาเดินซูเปอร์มาเก็ต เช่น ให้เขาลองวาดภาพอาหารให้ดู หรือมีตุ๊กตาตัวโปรดนั่งเล่นบนรถเข็น จะช่วยให้เขารู้สึกอุ่นใจมากขึ้น
ให้ลูกทำงานบ้านไปด้วยกัน ในวันหยุดที่ต้องยุ่งกับการทำงานบ้านจนไม่มีเวลาดูแลลูก ลองหาไม้ขนไก่ หรือไม้กวาดอันเล็กๆ ให้เขาได้มีส่วนร่วมช่วยทำงานบ้าน ลูกจะมีความสุข และรู้สึกสนุก
เปิดเพลงให้ฟัง เวลาลูกนั่งอ่านหนังสือ หรือทำกิจกรรมต่างๆ ลองเปิดเพลงคลอเบาๆ หรือให้เขาได้ร้องตาม เป็นเพลงนิทาน หรือเพลงที่ช่วยฝึกคำศัพท์ต่างๆ จะช่วยให้ลูกได้พัฒนาทักษะด้านภาษา และยังทำให้อารมณ์ดี เป็นเด็กร่าเริมแจ่มใสอีกด้วยค่ะ