โรคอ้วนในเด็กเป็นอีกโรคที่พ่อแม่ต้องระวัง ดังนั้นเพื่อป้องกันโรคดังกล่าว พ่อแม่ต้องหาวิธีป้องกันความอ้วนที่อาจจะเกิดขึ้นกับลูกเราได้
ความอ้วนมิได้เกิดขึ้นชั่วข้ามคืน หากเกิดจากรับประทานในปริมาณที่มากเกินความต้องการของร่างกาย วันละเล็ก วันละน้อย จนกลายเป็น อ้วน ในที่สุดเด็ก ๆ ของเรากำลังเผชิญกับเรื่องที่ว่านี้ โดยทั้งที่พ่อ แม่และเด็กเองก็ไม่ทันรู้ตัว ทำยังไง จะไม่ให้หนู ๆ กลายเป็นหมู ๆ...ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก็ไม่ง่ายนัก
เรื่องอ้วน ๆ แบบนี้ เกิดขึ้นได้อย่างไร
มองเห็นได้ชัดที่สุดคือเรื่องวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป เมื่อพ่อแม่ทำงานนอกบ้านกันมากและหนัก ย่อมไม่มีเวลามาพิถีพิถันเรื่องอาหารของลูก หลายครั้งที่พ่อแม่ให้เงินลูกไปหากินเอาเองที่โรงเรียน เด็ก ๆ ก็เลือกที่อร่อย หรือไม่ก็ตามโฆษณาที่โหมประโคมหนักในช่วงที่หนู ๆ ดูการ์ตูนหรือรายการเด็กทางทีวี...น่ากลุ้มใจไหมคะ
นอกจากนี้ พ่อแม่หลายคนมีความสุขที่เห็นลูกกินได้มากและมักทำอาหารที่ลูกชอบ ปรนเปรอไม่อั้น ผลจากการดูแลใกล้ชิดแต่ผิดหลักนี้ ก็ทำให้หนู ๆ กลายเป็นหมู ๆ ไปได้ในที่สุด
การวัดพิกัดความอ้วนมีด้วยกัน 3 วิธี คือ
- ดูด้วยตา มองดูอาจรู้ได้ว่าลูกชักจะเจ้าเนื้อ มีวิธีทดสอบง่าย ๆ คือให้ยืนตัวตรง แล้วเหลือบตามองปลายเท้า ถ้าไม่เห็นปลายเท้า ก็แปลว่าท้วมไปหน่อยแล้ว
- ชั่งน้ำหนัก-วัดส่วนสูง เด็ก 7-9 ขวบ ควรสูงระหว่าง 115-125 ซม. หนักระหว่าง 22-26 กก.ส่วนที่เป็นพรีทีน 10-12 ขวบ ควรสูง 130-140 ซม. หนัก 28-32 กก. ถ้าน้ำหนักเกินจากนี้มากไป ก็แปลว่าอ้วน ควรเริ่มทำอะไรซักอย่างเพื่อลดน้ำหนัก
- วัดปริมาณความหนาของไขมันใต้ผิวหนัง อันนี้ต้องมีผู้เชี่ยวชาญและใช้เครื่องมือค่ะ คุณหมอจะวัดที่ต้นแขนด้านหน้า ต้นแขนด้านหลัง หรือไม่ก็ใต้สะบัก (ปีกหลัง)
วิธีช่วยลูกลดความอ้วน
- เริ่มต้นที่พ่อแม่นั่นเอง หันเอามาใจใส่เรื่องอาหารการกินของลูกให้มากขึ้น เปลี่ยนทัศนคติเสียใหม่ รวมไปถึงต้องจับเข่าคุยกับคุณยายคุณย่าที่ชอบทำอาหารปรนเปรอหลาน ๆ ด้วยว่าคนเราไม่ได้กินให้อร่อยไปเรื่อย ๆ เพื่อตามใจปากหรือตามใจคุณย่าหากกินเพื่อมีชีวิตอยู่ เพื่อให้แข็งแรง ไม่ใช่กินเพื่อให้เกิดโรค
- คุณแม่บ้านกรุณาทำอาหารทอดให้ลดลง หันไปนึ่ง ๆ ต้ม ๆ ก็อร่อยได้หลายเมนูค่ะ กินอาหารนอกบ้านกันให้น้อยลง เพราะสูตรที่ว่าเด็ดนั้นส่วนมากจะใช้ชูรสให้ติดลิ้นลูกค้า ยิ่งอร่อยก็ยิ่งกินมาก อย่างนี้น้ำหนักเพิ่มกันทั้งบ้านค่ะ
- กินให้เป็นเวลา ของจุบจิบนอกมื้อไม่จำเป็นเลย แต่ถ้าชอบลองของใหม่ ก็นานครั้งแล้วกัน ออกแบบอาหารจานผักและผลไม้ให้เด็ก ๆ รู้สึกอยากลิ้มลอง และพยายามมีผลไม้ติดตู้เย็นไว้ตลอด ปอกหั่นให้หยิบกินได้สะดวก หนู ๆ วิ่งเล่นมาหรือเดินไปเดินมาในบ้าน ทำการบ้าน อ่านหนังสือ ช่วงพักก็จะได้หยิบกิน และก็จะติดเป็นนิสัยชอบผลไม้ไปในที่สุด
- ปล่อยหรือชวนให้ลูก ๆ ออกไปเล่นกลางแจ้งบ่อย ๆ เขาจะไปหกคะเมนตีลังกาท่าไหนก็เรื่องของเขา ไม่ต้องเตรียมอุปกรณ์ให้มากเรื่อง
- สุดท้ายก็คือการออกกำลังกายค่ะ จะจ๊อกกิ้ง วิ่งเปี้ยว ว่ายน้ำ หรือแอโรบิก ตีแบดฯ อะไรก็ได้ สำคัญตรงที่พ่อแม่ลงไปคลุกด้วยค่ะ หนู ๆ จะสนุกกว่าการที่คุณพ่อคุณแม่ยืนลุ้นให้หนูซิทอัพโดดเดี่ยวโฮมอะโลน
ทำได้แบบนี้ น่าจะช่วยให้คุณเป็นเจ้าของครอบครัวตัวเบาสุขภาพดี ที่สำคัญ ต้องตั้งเป้าหมาย ทำความเข้าใจกับลูก แล้วก็ใจเย็นๆ ค่ะ เมื่อความอ้วนจากไป สุขภาพและความมั่นใจก็จะกลับคืนมา