ขณะเดียวกัน สำหรับโรงเรียนรัฐที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ สพฐ. นั้น มีระเบียบกำหนดไว้ชัดเจนแต่แรกอยู่แล้วว่าให้แต่งชุดนักเรียนเท่านั้น
นายอัมพร พินะสา รองเลขาธิการ สพฐ. ชี้แจงว่า ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยเครื่องแบบนักเรียนระบุชัดเจนว่านักเรียนที่ไม่แต่งเครื่องแบบนักเรียน โดยไม่ได้รับการยกเว้นตามระเบียบนี้ สถานศึกษาพิจารณาลงโทษทางวินัยได้ แต่กระนั้นก็ไม่ได้ห้ามนักเรียนโรงเรียนรัฐแต่งชุดไปรเวทเสียทีเดียว หากจะใส่ชุดอื่นต้องขออนุญาตกับศึกษาธิการจังหวัดเสียก่อน
ที่ผ่านมาระเบียบกระทรวงฯ ได้เปิดให้โรงเรียนรัฐแต่งกายอย่างอื่น เช่น ชุดพละ หรือ ชุดพื้นเมือง แต่ก็ไม่ถึงขนาดเป็นแฟชั่น ซึ่งแตกต่างกับกรณีโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน เพราะคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนเป็นผู้ดูแล
ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยเครื่องแบบนักเรียน พ.ศ. 2551
ได้กำหนดเครื่องแบบนักเรียนระดับก่อนประถมศึกษา ระดับประถมศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายประเภทสามัญศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายประเภทอาชีพและระดับอุดมศึกษาระดับต่ำกว่าปริญญา เครื่องแบบนักเรียนซึ่งนับถือศาสนาอิสลามในสถานศึกษาอื่นนอกจากสถานศึกษาเอกชนสอนศาสนาอิสลาม
ข้อ14 ระบุว่า สถานศึกษาใดมีความประสงค์ จะขอใช้เครื่องแบบเป็นอย่างอื่น นอกจากที่กำหนดในระเบียบนี้ ให้ขออนุญาตต่อผู้บังคับบัญชาเหนือขึ้นไปอีกชั้นหนึ่ง หรือผู้กำกับดูแลสถานศึกษานั้นแล้วแต่กรณี
ข้อ 15 ระบุว่า สถานศึกษาใดจะกำหนดให้นักเรียนแต่งเครื่องแบบลูกเสือ เนตรนารี ยุวกาชาด นักศึกษาวิชาทหาร หรือแต่งชุดพื้นเมือง ชุดไทย ชุดลำลอง ชุดฝึกงาน ชุดกีฬา ชุดนาฏศิลป์ หรือชุดอื่นๆ แทนเครื่องแบบนักเรียนตามระเบียบนี้ในวันใด ให้เป็นไปตามที่สถานศึกษากำหนด โดยคำนึงถึงความประหยัดและเหมาะสม
และข้อ 18 ระบุว่า นักเรียนผู้ใดไม่แต่งเครื่องแบบนักเรียน โดยไม่ได้รับยกเว้นตามระเบียบนี้ ให้สถานศึกษาพิจารณาลงโทษทางวินัย ตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการลงโทษนักเรียนและนักศึกษาตามความเหมาะสม
ที่มา : ข่าวช่องวัน, Workpoint NEWS