เด็กบางคนเป็นเด็กเรียนช้า ซึ่งหลายคนอาจมีสาเหตุที่แตกต่างกัน ในบางกรณีที่เรียนรู้ช้า หรือมีความบกพร่องทางปัญญาเรียกโดยทั่ว ๆ ไปว่า E.M.R (Educable Mentally Retarded)
แม้ว่าเด็กอาจมีพัฒนาการด้านการฟัง พูด และเขียนช้ากว่าเพื่อนๆ เรียนรู้และทำงานเชิงปฏิบัติการได้มากกว่าด้านวิชาการ จริงๆแต่เด็กกลุ่มนี้ก็สามารถเรียนร่วมชั้นเรียนปกติได้ถ้ามีการช่วย เหลือที่เหมาะสมค่ะ
ก่อนอื่นเรามาดูกันว่า เด็กที่เรียนรู้ช้านี้มีความสนใจ ความจำ และการเชื่อมโยง ประสบการณ์ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการเรียนรู้เรื่องต่างๆ อย่างไรบ้าง เพื่อจะได้เข้าใจว่า ทำไมเราจึงต้องช่วยเหลือเขา และจะช่วยได้อย่างไร
ความสนใจ : เด็กที่เรียนรู้ช้ามีความยากลำบากในเรื่องความสนใจ
1. มีความสนใจสั้น ทำงานอะไรไม่ค่อยได้นาน
2. ไม่สามารถยับยั้งสิ่งรบกวนที่มากระทบได้ จึงไม่สามารถจะมีจุดสนใจได้ถ้ามี สิ่งรบกวน
3. ไม่สามารถแยกแยะความสำคัญของสิ่งต่างๆ ไม่รู้จะเลือกสนใจอะไร จึงดู เหมือนไม่มีความสนใจต่อสิ่งใด
ความจำ : เด็กที่เรียนรู้ช้ามีความจำระยะสั้นไม่ดี แต่สามารถเก็บข้อมูลได้เป็นเวลานาน
1. ความจำระยะยาวโดยทั่วไปใกล้เคียงกับเด็กปกติ
2. มีความจำได้ดีถ้าเรื่องนั้นๆ มีความหมาย เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน
3. การถ่ายโยงการเรียนรู้
4. มีความบกพร่องเกี่ยวกับการนำความรู้และประสบการณ์ไปใช้ในการแก้ปัญหาใหม่
5. มีความบกพร่องเกี่ยวกับการจัดกระบวนการเรียนรู้
6. ถ้าทำอะไรสำเร็จ จึงจะทำให้เด็กมีแรงจูงใจในการทำสิ่งใหม่ๆ แก้ปัญหาใหม่ๆ
7. ประสบการณ์ที่ล้มเหลวจะทำให้เด็กแก้ปัญหาใหม่ด้วยวิธีการเดิมซ้ำๆ
ข้อมูลจากข้างต้นนี้ เราสามารถนำไปใช้สังเกตลูก หรือครูนำไปสังเกตเด็กในชั้นเรียนได้ แล้วให้การช่วยเหลือ โดยนำเด็กไปทดสอบวัดระดับทางสติปัญญา เด็กประเภทนี้จะมีระดับสติปัญญาอยู่ในระดับ 50-70
เทคนิคการสอนเด็กเรียนรู้ช้า
1. จัดการเรียนการสอนเป็นรายบุคคลหรือรายกลุ่ม
2. พยายามให้เรื่องที่เรียนมีความสัมพันธ์กับการดำรงชีวิตประจำวันและนำไป ใช้ได้จริง และมีความสอดคล้องกับความต้องการของเด็ก
สอนซ้ำหลายๆ หน
3. ดูแลพัฒนาการและทักษะทั้งทางด้านร่างกาย อารมณ์ สังคมและสติปัญญา เพื่อให้เด็กสามารถใช้ศักยภาพของตนเองให้เกิดประโยชน์มากที่สุด ซึ่งจะช่วยให้เรียนรู้ได้ดีขึ้น
ปัจจัยช่วยเด็กบกพร่องทางสติปัญญา
จากประสบการณ์ที่ทำให้เด็กดีขึ้น ในการทำงานสอนเด็กที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา มากว่า 10 ปี ส่วนใหญ่เด็กจะดีขึ้นได้ ขึ้นอยู่กับว่าเรามีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความ ต้องการ มีเทคนิคเกี่ยวกับการปรับพฤติกรรมของเด็กแค่ไหน และต้องอาศัยสิ่งเหล่านี้ด้วยค่ะ
1. ต้องมีการประสานงานและร่วมมือกันระหว่างครู ผู้ปกครอง และบุคลากรทุกคนใน โรงเรียน ในการพัฒนาเด็ก
2. ต้องมีความเชื่อว่าเด็กทุกคนสามารถเรียนรู้ได้และมีความต้องการพัฒนาตนเอง
3. มีความตั้งใจในการสอน
4. มีการวางแผนการจัดการเรียนการสอนอย่างรอบคอบ
5. การจัดการเรียนการสอนต้องมีการยืดหยุ่น มีการสอนทบทวนจนกว่าเด็กจะ ได้ ถ้าเด็กทำไม่ได้ก็ต้องเปลี่ยนวิธีการสอนใหม่ หรือเปลี่ยนสื่อการสอนที่เข้าใจได้ง่าย
6. จัดสื่ออุปกรณ์การเรียนการสอนที่เร้าความสนใจเด็ก
หวังว่าคุณครูและคุณพ่อคุณแม่คงจะมองเห็นหนทางที่จะทำให้ลูกและเด็กๆ ที่เรียนรู้ ช้าเรียนรู้ดีขึ้นแล้วนะคะ