ฟิลิปปินส์ให้นักเรียนปลูกต้นไม้ 10 ต้น เพื่อจบการศึกษา
แต่ละปีโลกมีการเปลี่ยนแปลงมากขึ้น ทั้งสภาวะโลกร้อน การละลายของน้ำแข็งขั้วโลก การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศหรือ Climate Change ต่างๆ ทำให้รัฐบาลหลายๆ ประเทศตื่นตัวที่จะรณรงค์เพื่อสิงแวดล้อมกันมากขึ้น
ฟิลิปปินส์เป็นอีกประเทศหนึ่งที่กำลังต่อสู้กับปัญหาโลกร้อน โดยการผ่านกฎหมายให้เด็กนักเรียนทุกคนต้องปลูกต้นไม้ 10 ต้น เพื่อจบการศึกษา ซึ่งคาดว่าจะมีต้นไม้เพิ่มขึ้น 175 ล้านต้น ต่อปี
โดยแต่ละปีจะมีนักเรียนกว่า 12 ล้านคนที่สำเร็จการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษา นักเรียนเกือบ 5 ล้านคน สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมปลาย และอีกเกือบ 500,000 คน ที่สำเร็จการศึกษาระดับวิทยาลัย รวมแล้วแต่ละปีจะมีเด็กที่จบการศึกษาประมาณ 17.5 ล้านคน ซึ่งหากทุกคนปลูกต้นไม้คนละ 10 ต้นตามที่กฎหมายกำหนด แต่ละปีประเทศฟิลิปปินส์จะมีต้นไม้เพิ่มขึ้นจำนวน 175 ล้านต้น หรือกว่า 525,000,000,000 (ห้าแสนสองหมื่นห้าพันล้าน) ต้นต่อปีในหนึ่งชั่วอายุคน หากมีการบังคับใช้อย่างจริงจัง
แม้ว่าต้นไม้จะมีอัตราการรอดชีวิตเพียง 10 เปอร์เซ็นต์ ก็ยังจะมีต้นไม้อีกจำนวน 5,250,000,000 (ห้าพันสองร้อยห้าสิบล้าน) ต้น ซึ่งจะเป็นปอดและพื้นที่สำหรับพักผ่อนหย่อนใจของเด็กๆ และชาวฟิลิปินส์ในอนาคต
โดยต้นไม้จะถูกปลูกในป่าโกงกาง ในพื้นที่ป่าเดิม พื้นที่รกร้าง ค่ายทหาร เขตเหมืองแร่ร้าง พื้นที่อนุรักษ์ และพื้นที่เขตเมือง ซึ่งต้องเลือกต้นไม้ให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ ภูมิประเทศ และสภาพอากาศ โดยกระทรวงศึกษาธิการและคณะกรรมการการอุดมศึกษาจะเป็นหน่วยงานที่ดำเนินงานร่วมกับกรมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (DENR) กรมวิชาการเกษตรกรมปฏิรูปการเกษตรและคณะกรรมการแห่งชาติชนพื้นเมือง และหน่วยงานภาครัฐอื่นๆ ดูแลร่วมกัน
ที่มา : cnnphilippines.com,
FB Fanpage : Environman