ประเด็นที่หนึ่ง เวลาในรอบหนึ่งวันของเรามีไม่มาก พ่อแม่สมัยใหม่ไปทำงาน กลับบ้านก็ค่ำแล้ว เวลาที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับลูกเล็ก ใช้ชีวิตร่วมกัน เล่นด้วยกัน มีน้อยมาก เราไม่ควรเสียเวลานี้ไปให้กับคนอื่น ด้วยข้อเท็จจริงที่ว่าภารกิจของเราสอง (แม่-ลูก พ่อ-ลูก) คือสร้างพ่อแม่ที่มีอยู่จริงและสายสัมพันธ์
ประเด็นที่สอง การอ่านนิทานก่อนนอนเป็นโมเมนต์ (ช่วงเวลา) สำคัญ เราอยากให้ใช้ 30 นาทีสุดท้ายของวันในการใช้ชีวิตร่วมกันด้วยความผ่อนคลาย พ่อแม่อาบน้ำสะอาด วางงาน วางมือถือมาอ่านนิทานให้ลูกฟังทุกๆคืน นี่เป็นกระบวนการสร้างพ่อแม่ที่มีอยู่จริงและสายสัมพันธ์อันทรงพลัง ไม่อยากให้สูญเสียเวลานี้ไปที่คนอื่น
ประเด็นที่สาม เรื่องวินัยการนอน รวมไปถึงกิจกรรมอื่นๆก่อนนอน บ้านที่พ่อแม่เป็นผู้กำหนดวินัยได้เองโดยไม่มีใครมาทำให้เฉไฉออกไปจะพบว่าการเลี้ยงดู อบรม สั่งสอนเด็กๆ เป็นเรื่องง่ายมาก หากพ่อแม่พูดตรงกันก็จะยิ่งง่ายมากขึ้นไปอีก การปล่อยให้ลูกไปนอนกับคนอื่นเป็นความเสี่ยงต่อการที่เด็กจะได้วินัยที่แตกต่าง ข้อกำหนดที่แตกต่างทำให้เด็กพัฒนายาก และหากเด็กได้รับการตามใจเกินพอดี เราพบว่าพ่อแม่จะยิ่งอบรมยากมากขึ้นไปอีก
ประเด็นที่สี่ เราพบบ่อยครั้งว่าปู่ย่าตายายมักจะใจดีกว่าพ่อแม่ แน่นอนว่าด้วยความรัก บางท่านอาจจะไม่เคร่งครัดกับการดูทีวีก่อนนอน ไม่เคร่งครัดกับการกินขนมหรือแปรงฟันก่อนนอน ไม่เคร่งครัดกับการล้างเท้าก่อนนอน (ผีพนันจะเข้าสิง) ไปจนถึงไม่เคร่งครัดกับเวลานอน การตามใจในเรื่องเหล่านี้จะทำให้วินัยด้านอื่นแปรปรวนด้วยเด็กล่วงรู้ว่าอำนาจของพ่อแม่เป็นเรื่องขัดขืนได้ มิใช่ว่าจะขัดขืนมิได้ดังที่เคยรู้สึก
ประเด็นที่ห้า คือเหตุการณ์ในตอนกลางดึกที่เราทำนายได้ยากว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพราะคลื่นสมองช่วงหลังอาทิตย์ตกดินของเด็กๆแต่ละคนยังคงมีความแปรปรวนต่างๆกันเป็นเรื่องปกติ เด็กอาจจะมีการละเมอพูด ลุกนั่งร้องไห้ ลุกยืนพึมพำ ไปจนถึงเตะถีบอย่างรุนแรง เหล่านี้แก้ไขได้ด้วยความสงบอย่างสม่ำเสมอของคนเป็นพ่อแม่ หากต่างคนต่างพยายามแก้ไขไปคนละทางสองทางมักทำให้คลื่นสมองแปรปรวนไปได้อีกพักใหญ่
ประเด็นที่หก คือเราพบว่าเด็กส่วนใหญ่จะติดใจไม่ยอมกลับมานอนกับพ่อแม่อีกเลย รวมทั้งเป็นการส่งสัญญาณว่าเขาจะนอนที่ไหนก็ได้ในอนาคต เช่น ขอไปนอนกับเพื่อน เป็นต้น ที่จริงแล้วเราไม่ควรให้ลูกไปนอนที่ใดทั้งนั้นจนกว่าจะมีข้อพิสูจน์ได้ว่าเขาสามารถดูแลตนเองได้อย่างดีที่สุดทั้งกลางวันและกลางคืน มีความสามารถควบคุมตนเองให้อยู่ในกฎ กติกา มารยาทที่ดีอย่างสม่ำเสมอ
ประเด็นที่เจ็ด แม้ว่าจะพบน้อยถึงน้อยมาก (ตามที่มีรายงาน) แต่เราไม่สามารถวางใจได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับลูกแม้ว่าจะอยู่ในวงศ์ญาติก็ตาม (ซึ่งเชื่อว่ามีมากกว่าที่รายงาน) รวมถึงเราไม่ควรแยกพี่หรือน้องออกไปนอนบ้านอื่นด้วย เรื่องยุ่งยากจะติดตามมา
นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์
จิตแพทย์และนักเขียน ขวัญใจพ่อแม่ชาวโซเชียล