เหล็ก เป็นส่วนประกอบสำคัญของฮีโมโกลบิน ซึ่งทำหน้าที่ขนถ่ายออกซิเจนไปสู่ส่วนต่างๆ ของร่างกายรวมถึงสมอง โดยผ่านกระแสเลือด ถ้าเด็กได้รับไม่เพียงพอจะมีอาการเหนื่อย หอบ ไม่มีสมาธิ ขาดความกระตือรือร้น สติปัญญาด้านความจำลดลง รวมถึงโลหิตจาง
มีใน : ไข่แดง ตับ เนื้อสัตว์ นม ปลา ธัญพืช ถั่วต่างๆ เช่น ถั่วแดง ถั่วลันเตา ถั่วแขก ผักใบเขียวเข้ม เช่น คะน้า ผักขม บร็อกโครี ตำลึง ฟองเต้าหู้
-------------------------------------------
ไอโอดีน สำคัญกับการสร้างไทรอยด์ฮอร์โมน ซึ่งจำเป็นกับการเจริญเติบโตของร่างกาย และสมอง ถ้าขาดหรือได้รับไม่เพียงพอจะมีผลต่อระดับสติปัญญา
มีใน : อาหารทะเล สาหร่ายทะเล
-------------------------------------------
กลุ่มวิตามินบี (B1 B2 B6 B12 โฟเลต) มีผลต่อประสิทธิภาพการทำงานและการเรียนรู้ของสมอง ช่วยในกระบวนการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต เพื่อเป็นพลังงานในการทำงานของสมอง จำเป็นต่อการสร้างเยื่อหุ้มเส้นใยประสาท
มีใน : ธัญพืช ถั่วเหลือง ถั่วลิสง จมูกข้าว งา ข้าวซ้อมมือ ข้าวโพด อาหารทะเล กล้วย กะหล่ำปลี ถั่วงอก คะน้า มะเขือเทศ ไข่ นม ปลา
-------------------------------------------
สังกะสี สำคัญสำหรับการส่งถ่ายข้อมูลระหว่างเซลล์ประสาท เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ของร่างกาย คือ เนื้อสัตว์ อาหารทะเล ถั่ว ฟักทอง
-------------------------------------------
กินอย่างไรให้เด็กวัย 1-3 ปี..ฉลาด
อาหารมากมายในธรรมชาติเป็นแหล่งของสารอาหารพัฒนาสมอง บางอย่างก็รวมสารอาหารเสริมสมองหลายชนิดไว้ในตัว หลักของการกินให้ลูกฉลาดและมีสุขภาพดีจึงทำได้ไม่ยากเลย เพียงแค่จัดอาหารให้ลูกได้กินทุกอย่างเพียงพอและครบถ้วน
ปลา...แหล่งรวมสารอาหารคุณภาพ
ปลาที่มีไขมันมาก อย่างปลาซาร์ดีน ปลาทู ปลาสำลี ปลาจาละเม็ด ปลาช่อน ปลาดุกให้ลูกรับประทาน นอกจากเด็กจะได้โอเม้ก้า-3 น้ำมันปลาเพื่อพัฒนาสมองแล้ว ลูกยังได้โปรตีนคุณภาพ เหล็ก สังกะสี สารอาหารอื่นๆ ด้วย
อาหารเช้า...มื้อคุณภาพที่ไม่ควรลืม
เด็กวัย 1-3 ปี เป็นวัยเรียนรู้ที่ต้องการพลังงานจากอาหาร เพื่อการเรียนรู้อย่างมาก โดยเฉพาะพลังงานจากอาหารมื้อเช้า เพราะช่วงเวลาจากมื้อเย็นถึงเช้าวันใหม่ค่อนข้างยาว และสมองเป็นอวัยวะส่วนที่ต้องการพลังงานสูงในการทำงาน มื้อเช้าจึงเป็นมื้อสำคัญสำหรับเด็กๆ ที่ไม่ควรละเลย
อาหารมีประโยชน์ที่หลากหลายเพื่อลูก ต้องทำควบคู่ไปกับการจัดสิ่งแวดล้อมและกิจกรรมที่สร้างเสริมทักษะและพัฒนาการด้วย เวลาและความใส่ใจจึงเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้คุณพัฒนาลูกได้อย่างรอบด้านไม่เฉพาะความฉลาดของสมองเท่านั้น