การเรียนรู้ที่ได้สัมผัสธรรมชาติโดยตรงอย่างเช่น การพาลูกออกไปเล่นนอกบ้าน เป็นผลดีกับลูกอย่างมาก เพราะการเล่นเป็นตัวช่วยในการส่งเสริมพัฒนาการของลูกได้ ทั้งทางด้าน ร่างกาย อารมณ์ และสังคม ดังนั้นยิ่งต้องเปิดโอกาสให้ลูกได้ออกมาเล่น
หลาย ๆ การศึกษาพยายามชี้ให้เห็นว่า กิจกรรมทางกายหรือการเล่นของเด็กสามารถทำได้มากขึ้นเมื่อพวกเขาได้มีโอกาสออกไปเล่นนอกบ้าน จริงอยู่ที่การเล่นนอกบ้านอาจเสี่ยงที่จะบาดเจ็บได้บ้าง แต่สิ่งสำคัญที่เด็ก ๆ ได้กลับมาคือ การเรียนรู้ ประสบการณ์ จากการเล่นอย่างเป็นองค์รวม
ในทางกลับกันการเล่นนอกบ้านของเด็ก ๆ กลับมีความอันตรายน้อยมาก จากตัวอย่างในประเทศแคนาดา พบว่า มีเด็กที่เสียชีวิตจากการตกจากอุปกรณ์การเล่น ต่ำกว่า 1:70 ล้านคน และไม่มีข้อมูลของเด็กที่ตกจากต้นไม้เสียชีวิตมากว่า 17 ปี รวมทั้งการบาดเจ็บที่ร้ายแรงมากเช่นกัน และโอกาสที่แขนขาหักก็มีเพียงร้อยละ 0.0004 เท่านั้น
1. พัฒนาด้านร่างกาย ส่งเสริมทักษะการเคลื่อนไหว เช่น การทรงตัว ส่งผลต่อสุขภาพร่างกาย ลดภาวะโรคอ้วนในเด็ก ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ และเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
2. พัฒนาด้านสังคม ทำให้รู้จักการใช้เหตุผล เรียนรู้จากธรรมชาติ และส่งผลต่อความคิด ทัศนคติที่จะรักและรู้คุณค่าของสิ่งแวดล้อมรอบตัวมากขึ้น
3. พัฒนาด้านอารมณ์ ได้ใช้ประสาทสัมผัสทั้ง5 เพื่อตอบสนองสิ่งต่าง ๆ และเกิดพัฒนาการในการเรียนรู้และประมวลผล เกิดความรู้สึกเป็นอิสระ ผ่อนคลาย และเกิดความมั่นใจในการเล่นมากขึ้น
4. พัฒนาด้านสติปัญญา ช่วยเรื่องทักษะการสื่อสาร ได้ใช้ความคิด แก้ไขปัญหา และตัดสินใจ นอกจากนี้ยังเพิ่มทักษะการสื่อสารจากคนรอบข้างที่ร่วมเล่นไปด้วย
การพาลูกออกนอกบ้านก็จะช่วยลดการอยู่กับจอโทรศัพท์ แม้การออกนอกบ้านอาจต้องไปเจอมลภาวะบ้าง เล่นจนเลอะเทอะบ้าง แต่ ทั้งหมดนั้น คือการสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกอีกทางค่ะ อย่าลืมหาเวลาพาลูกออกมาเล่นนอกบ้านกันนะคะ ดีกว่าการติดอยู่กับจอแน่นอน